เมื่อเวลา 01.50 น. วันที่ 6 ก.ย.63 ร.ต.อ.ศรชัย สู่บุญ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุ มีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย ที่บริเวณลานจอดรถสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ถนนธรรมวิถี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุพบรถกระบะ 2 คันจอดอยู่ที่ลานจอดรถ และพบปลอกกระสุนปืน 8 ปลอก ปืนพกจำนวน 1 กระบอก ตกอยู่พงหญ้าใกล้ที่เกิดเหตุ อาวุธปืนขนาด.38 และกระสุนปืน .38 อยู่ในรถกระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสรรรพสิทธิประสงค์ เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายอธิป แจ้งสว่าง อายุ 27 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก 21 ที่บริเวณคิ้วขวา 1 นัด หน้าอกซ้าย 1 นัด
ทั้งนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อนายวิฑูรย์ จูมภักดี อายุ 23 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ถูกยิงที่บริเวณข้อศอกขวา 1 นัด และนายปรีชา อภิชล อายุ 18 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ถูกยิงบริเวณสะโพก 2 นัด และที่ท้อง 1 นัด อาการสาหัส
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศงานศพที่วัดป่าเรไรยกาวาส ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติ ๆ และกลุ่มเพื่อนเดินทางมาร่วมงานศพ นายอธิป ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากมีปัญหากับ กลุ่มของตำรวจ โดยผู้ตายถูกยิงจากด้านหลัง เข้าบริเวณศีรษะ และอกด้านซ้าย ซึ่งเป็นเป็นการยิงจากด้านหลัง
หลังจากก่อเหตุตำรวจรายนี้ ได้ทิ้งอาวุธปืนไว้ที่ป่าข้าง ๆ รั้วบริเวณสถานบันเทิง และได้วิ่งหลบหนีไปในป่าด้านหลังสถานบันเทิง แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในที่เกิดเหตุ จึงเดินออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
น.ส.อภิญญา โพธิ์ชัย อายุ 25 ปี แฟนสาวของผู้ตาย เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนกับแฟนหนุ่ม และกลุ่มเพื่อนแฟนอีกจำนวน 5-6 คน เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้ และช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ผับเลิกแล้ว ซึ่งรถของตนกับผู้ก่อเหตุ จอดอยู่ข้าง ๆ กัน โดยช่วงเกิดเหตุตนยังไม่ได้เดินมาพร้อมกับแฟน เพราะคุยกับเพื่อนอยู่อีกที่หนึ่ง โดยจากคำบอกเล่าของเพื่อนแฟน ขณะนั้นผับเลิกแล้วและแฟนกับเพื่อนอีก 4 คน เดินมาที่รถ จากนั้นก็เห็นกลุ่มของผู้ก่อเหตุมากับสาว ๆ อีก 4 คน ซึ่ง 1 ในนั้นผู้ตายรู้จัก เพราะเป็นแฟนของเพื่อน จึงได้ทักทายกันว่า มาเที่ยวกับใคร
จากนั้นก็ทำให้ผู้ก่อเหตุ ไม่พอใจวิ่งไปหยิบปืน มาไล่ยิงกลุ่มของนายอธิป จากด้านหลัง และอีกคนวิ่งขึ้นรถไปแล้ว ผู้ก่อเหตุตามไปยิงอีก ทำให้รถของตนเสียหาย รวมทั้งได้วิ่งไล่ยิงเพื่อนแฟนอีก 1 คน ซึ่งวิ่งเข้าไปในป่า
จากข่าวที่เสนอไปเมื่อช่วงเช้า พบว่าเป็นการให้ปากคำเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งไม่เป็นความจริง กลุ่มของนายอธิป ไม่ได้ พูดจากหาเรื่อง และไม่มีปากเสียงกัน ไม่ได้ทะเลาะ หรือตีกันเลย รวมทั้งกรณีที่เขาบอกว่าจะโดนรุม ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมีพยานยืนยัน เป็นผู้หญิงที่มากับผู้ก่อเหตุยังบอกว่า ไม่ได้ทะเลาะหรือมีปากเสียงกัน
ทั้งนี้ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมที่สุด ซึ่งนายอธิป เป็นเสาหลักของครอบครัว จากนี้ไปตนต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ซึ่งมีอายุเพียง 1 ปี 4 เดือน ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนมีลางบอกเหตุว่า ทุกครั้งที่ตนกับแฟนจะไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ลูกไม่เคยร้องไห้ตามเลย แต่มาคืนนี้ลูกร้องไห้ตลอด กระทั่งช่วงหลังเกิดเหตุตนกลับมาบ้าน ก็พบว่าลูกร้องไห้อีกครั้งเช่นกัน เหมือนจะมีลางอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ดี ทางด้านคดีความในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่า ตำรวจผู้ก่อเหตุฐานความผิด ผู้อื่นโดยไม่เจตนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป