จากกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊ก "หนึ่งเดียว คือเธอ" ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทภายในบ้าน เหตุการณ์ระหว่างหญิงสาวคนหนึ่ง นั่งกองอยู่กับพื้นร้องไห้ และมีเสียงเด็กน้อย 2 คนกำลังร้องด้วยความตกใจ ต่อมาหญิงในคลิปส่งเสียงร้องกรี๊ด พร้อมนอนลงไปกับพื้น โดย โพสต์ข้อความระบุว่า "ฝากหน่อยครับ น้องสะใภ้ตีน้องสาวกับแม่ผม แถมตีผมด้วย เหตุเกิดวันที่ 29 ส.ค. 63 บ้านโคกโจด ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา
ล่าสุด วันที่ 7 ก.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นางบัวผัน วรรณรัตน์ อายุ 63 ปี อาศัยอยู่กับลูกชายที่เป็นผู้ที่โพสต์เฟชบุ๊ก คือนายบุญลือ ดอกหอม อายุ 36 ปี ผู้พิการติดเตียงจากอุบัติเหตุจักรยานยนต์ ตั้งแต่อายุ 21 ปี
นางบัวผัน ถูกลูกสะใภ้ใช้ไม้กวาดกระทุ้งแขนและขา เท้ายันหน้า เล่าว่า ตนดีกับลูกสะใภ้มาโดยตลอด ส่วนเหตุการณ์ที่ลูกสะใภ้ด่าทอและทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ลูกชายพร้อมกับลูกสะใภ้เพิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านด้วยกันอย่างเป็นทางการในช่วงวิกฤติโควิด-19 ไม่กี่เดือน มีปากเสียงกันมาโดยตลอด ลูกสะใภ้มักจะชอบพูดดูถูกครอบครัวว่าเป็นคนจน ไม่เคยมีความเคารพตนเอง ส่วนลูกชายก็ไม่เคยห้ามปรามภรรยา
กระทั่งมาเกิดเหตุในครั้งนี้ ตนรับไม่ได้ เพราะเกินที่จะรับไหว กลัวคนในครอบครัวจะได้รับอันตราย เพราะความอารมณ์ร้ายของลูกสะใภ้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 63 ตำรวจได้เรียกทั้งสองฝ่ายเข้าไปไกล่เกลี่ย แต่ลูกสะใภ้ก็ยังไม่มีทีท่าจะยอมรับผิด แถมยังกล่าวท้าทายต่าง ๆ นานา ท้ายที่สุดก็ได้ข้อสรุปร่วมกันและลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ว่า ลูกชายและลูกสะใภ้ผู้ก่อเหตุยินยอมที่จะย้ายออกจากบ้านโดยดี แต่ในส่วนที่ได้เข้ามาต่อเติมบ้านเอาไว้ ห้ามไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างเด็ดขาด ส่วนกรณีที่ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายนั้นก็ไม่ติดใจเอาความ แต่จากนี้ถ้าไม่หยุดจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าลูกสะใภ้จะยอมออกจากบ้านไป แต่ตนก็ยังไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าอาจจะกลับมาหาเรื่องที่บ้านอีก ลูกชายบอกว่าจะกลับมาเก็บข้าวของที่ยังเหลืออยู่ออกจากบ้าน จากนี้ตนขอตัดขาดลูกสะใภ้ แต่ลูกชายตนตัดไม่ขาด ตนเสียใจว่าทำไมลูกชายไม่เลือกแม่ ยืนดูเมียทำร้ายแม่ และที่ผ่านมาประมาณปี 2561 ตนยังเคยถูกลูกสะใภ้ถ่มน้ำลายใส่หน้า และกระชากผมตนลากตนรอบเสา และยังจะเอาไม้ขอนขนาดเท่าคืบมือมาปาใส่หน้าตน ถ้าโดนตนคงตายไปแล้ว ตนมองว่าคน ๆ นี้ทำเกินไปมาก
นายบุญลือ เล่าว่า ตนเองเป็นลูกคนโตของบ้าน แม่มีลูก 3 คน คือตน และนายสำเริง ดอกหอม อายุ 34 ปี และน.ส.ชุติมา ดอกหอม อายุ 29 ปี วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 ส.ค. 63 แม่ต้องไปหาหมอตามนัด เพื่อตรวจอาการของโรคประจำตัว จึงให้น้องสาวมาดูแลตนแทน นำข้าวสวยและหมูทอดมาให้ในช่วงเช้า ระหว่างนั้นน้องสาวเกิดมีปากเสียงกับน้องสะใภ้ ด้วยเรื่องของการใช้เครื่องซักผ้า เพราะน้องสะใภ้ไม่พอใจที่น้องสาวจะมาใช้เครื่องซักผ้า ซักผ้าให้ตนและแม่ จนเกิดการโต้เถียงไปมา ก่อนที่น้องสะใภ้จะทำร้ายร่างกายน้องสาว ด้วยการใช้ไม้กวาดตีตามร่างกาย และใช้เท้าถีบเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนพยายามห้ามแล้วแต่ก็ไม่ยอมฟัง หากตนเองลุกขึ้นได้ ทั้งน้องชายและน้องสะใภ้ตายกันหมดแน่
ขณะที่ตอนนั้น นายสำเริงน้องชายซึ่งเป็นสามีของน้องสะใภ้ ก็พยายามห้ามแต่ก็แทบไม่เป็นผล ตนจึงถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับโทรให้รถพยาบาลมารับน้องสาวไปโรงพยาบาล ขณะที่น้องสะใภ้ก็ออกจากบ้านไปพร้อมสามี แต่เหตุการณ์ไม่จบ ช่วงบ่ายน้องสะใภ้และสามีกลับเข้ามาอีกรอบ พยายามที่จะหาเรื่องและเข้ามาใช้ไม้กวาดขว้างตน แต่ไม่โดน และยังจะเอาน้ำมาสาดใส่ตน รวมทั้งเอาข้าวที่น้องสาวเอามาให้สาดใส่ตนด้วย
จากนั้น วันที่ 31 ส.ค. 63 น้องสะใภ้พยายามหาเรื่องและมีปากเสียงกับแม่ จนลงมือทำร้ายกันอยู่หน้าบ้าน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงร้องเรียกให้คนช่วย จึงยุติเหตุการณ์ได้ ก่อนที่แม่จะพาน้องสาวเข้าแจ้งความวันที่ 5 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา ตนอยากบอกน้องสะใภ้ว่า เกิดมาไม่เคยเห็นใครใจร้ายได้ขนาดนี้
น.ส.ดารุณี ลูกสะใภ้ และนายสำเริง สามี บอกว่า ยอมรับว่ามีปากเสียงทะเลาะกับน้องสาวของสามีจริง เรื่องจะมาซักผ้าเพราะเห็นถือไม้แขวนมา จึงบอกไปว่าถ้าจะมาซักให้ช่วยจ่ายค่าน้ำไฟให้ด้วย ตนยืนยันว่าไม่ได้หวงเครื่องซักผ้า ขอแค่ช่วยจ่ายก็พอ แต่น.ส.ชุติมา น้องสาวสามี กลับมาด่าพาดพิงถึงบุพการีตนก่อน และยังด่าตนฉอด ๆ ไม่หยุด ตนเองจึงใช้ไม้กวาดตีที่แขน 1 ครั้ง
แต่น้องสาวสามีไม่ยอมหยุดต่อว่าตน ตนจึงเดินเข้าในบ้าน ใช้เท้าถีบที่หน้าของ น.ส.ชุติมา อีก 1 ครั้ง ที่ทำไปเพราะน้องสาวสามีไม่ยอมหยุด ปากดี ตนจึงจัดการทำแบบนั้นลงไป ส่วนที่ใช้น้ำชาเย็นและใช้ข้าวสาดไปยังนายบุญลือ พี่ชายสามีที่ป่วยติดเตียง ตนทำจริง เพราะเขาก็พูดบ่นไม่หยุด จะไล่ตนออกจากบ้าน ตนจึงทนไม่ไหว ทำไมไม่นึกถึงเวลาพวกตนหาเลี้ยงบ้าง
ทั้งนี้ ตนยอมรับทำร้ายน้องสามีจริง แต่แม่สามี ตนไม่เคยทั้งเอาไม้กวาดตี ทำแม่แขนเขียวก็ไม่ใช่ แม่ช้ำเขียวหลังจากไปหาหมอ ให้หมอฉีดยา ไม่เกี่ยวกับตน "ตนขอไม่เรียกแม่สามีว่าแม่ ขอเรียก ...แดง ดีกว่า เสียงไม่สุภาพออกสื่อก็ไม่เป็นอะไร ตนไม่มีแม่แบบนี้ ตนไม่ขอโทษอะไรทั้งนั้น ยืนยันว่าที่ทำไปยังน้อยไป ตนเองช่วยเหลือส่งเสียครอบครัวนี้มาโดยตลอด" น.ส.ดารุณี กล่าว