กรณีตำรวจ สภ.งาวลำปาง รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 8 ก.ย. 63 ว่ามีเหตุคนถูกฆ่าตายภายในบ้าน ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง ที่เกิดเหตุภายในห้องนอนพบศพ นางสาวปิยนุช แซ่จ๋าว หรือ ลาย อายุ 39 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพตะแคงข้าง มีผ้าห่มพันร่างเอาไว้ จากการตรวตสอบที่ท้ายทอยและคอถูกฟันเกือบขาด
ใกล้กันพบร่างของนายเขตโสภณ แซ่จ๋าว หรือ ต๊ะ อายุ 40 ปี สามี และเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอนหายใจรวยริน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ 1 แผล หน้าอก 2 แผล และตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอำเภองาวจึงข่วยกันนำร่างนายเขตโสภณ ส่งโรงพยาบาลงาวทันที แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านกิ่วต่ำ ม.11 ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง หมู่บ้านชนเผ่าเย้า บ้านจุดเกิดเหตุเป็นบ้านของนายเขตโสภณ แซ่จ๋าว หรือ ต๊ะ อายุ 40 ปี ผู้เสียชีวิต และบ้านหลังดังกล่าวมีคนอาศัยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ 7 คน นายต๊ะ, นางสาวลาย, พ่อกับแม่, ลูกสาว 1 ขวบ, ลูกเลี้ยง ผู้ชาย 2 คน ญาติได้มีการเก็บกวาดและทำความสะอาดคราบเลือด เพื่อเตรียมสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพแล้ว
นายฟุเว่น แซ่จ๋าว อายุ 78 ปี พ่อของนายต๊ะ ผู้ก่อเหตุ พาทีมข่าวเข้าไปในห้องจุดเกิดเหตุ ที่มีการล้างคราบเลือดบนพื้นห้อง แต่ยังมีกลิ่นคราวของเลือดคละคลุงอยู่ โดยในครัว จุดที่นายต๊ะหยิบมีดทำครัว ด้ามไม้ มาก่อเหตุฟันลูกสะใภ้
นายฟุเว่น เปิดใจเล่าว่า ตอนที่ตนมาถึงบ้านหลังกลับจากไปที่เล้าไก่ กำลังหิวข้าว จึงได้ไปที่ห้องครัวก่อนอันดับแรก แล้วกำลังจะหยิบมีมาหั่นไก่ แต่หันไปเจอมีดบนเขียงมีเลือดติดอยู่ลักษณะคลายเส้นผม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงว่ามีคนทำครัวสับหมูไก่ แล้วไม่ล้างมีด จึงได้ใช้มีดด้ามอื่นหั่นเนื้อไก่ จังหวะที่กำลังจะไปหยิบของในบ้าน เดินผ่านห้องนอนลูกชาย พบว่าหน้าห้องลูกชายมีเลือดไหลนองออกมา
ทันทีที่เข้าไปดู พบร่างของนางสาวปิยนุช ลูกสะใภ้ นอนเป็นศพเลือดท่วมตัว แล้วมีผ่าห่มพันศพเอาไว้ นอนอยู่ตรงพื้นห้อง ส่วนลูกชายนั่งอยู่ไม่ไกลจากศพ เนื้อตัวเปื้อนเลือด ในมือมีมีดทำครัวปลายแหลมอยู่ และมีปลายแหลมอีก 2 ด้ามวางอยู่บนพื้น ลักษณะปลายมีดหัก ซึ่งไม่แน่ใจว่าลูกชายพยายามเอามีแดทงตัวเองแต่มีดหักแล้วแทงไม่เข้าหรือไม่ ซึ่งลูกชายทำหน้าซึมเศร้า พร้อมบอกตนเองว่า "พ่อไม่ต้องมายุ่ง ผมคิดมาดีแล้ว"
จากนั้น ลูกชายก็เอามีดแทงคอ แล้วชักออก ก่อนแทงเข้าที่ออกตัวเองอีก 2 แผล ตนไม่รู้จะห้ามอย่างไร กลัวจะโดนทำร้าย จึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านและญาติ ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ทราบเหตุผลที่ลูกทำแบบนี้ แต่มักได้ยินลูกกับภรรยาทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนตัวรู้สึกเสียใจ และทำใจไม่ได้ที่ลูกชายฆ่าเมียตัวเองและฆ่าตัวเองตายตามไป
นอกจากนี้ บริเวณฝาบ้านของคนก่อเหตุมีภาพคู่ ซึ่งถ่ายเอาไว้ในวันที่มีพิธีแต่งงาน โดนเป็นภาพสวมชุดชนเผ่าเย้า และบริเวณฝาบ้านยังมีภาพของชายแต่งกายเครื่องแบบราชการ ซึ่งภาพของนายต๊ะใส่ชุดฝ่ายปกครอง 10 ปีก่อน นายต๊ะเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาก่อน
ด้านนางสาวน้ำ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี พี่สาวของนายต๊ะ เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุ หลาน 2 คนมาที่บ้าน บอกว่าพ่อไล่ให้ออกจากบ้านไปบ้านญาติ เด็กชาย 10 ขวบอุ้มน้องผู้หญิงวัย 1 ขวบลงมา ตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นที่บ้านนายต๊ะ เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน แต่ตนมาทราบภายหลัง ช่วงที่ผ่านมา ชีวิตคู่ของนายต๊ะกับน้องสะใภ้ ต่างมีปากเสียงทะเลาะกันมาตลอด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะน้องชายเป็นคนขี้หึงหวง ประกอบกับน้องสะใภ้อายุน้อยกว่า หน้าตาดี แล้วมีการเล่นเฟซบุ๊ก ติดเล่นแซต จึงทำให้มีการคุยกับชายอื่น น้องชายมาระบายให้ตนฟังบ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะญาติฝั่งคนก่อเหตุ รู้สึกเสียใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนกระทำก็ตายตามไปแล้ว ตนก็ได้แต่คุยกับครอบครัวฝ่ายน้องสะใภ้ ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจ ทั้งคู่รักกันคบกันก็ตายไปพร้อมกันแล้ว
นายพงษ์ (นามสมมติ) อาของนางสาวลาย เปิดเผยว่า หลานสาวของตนเองเป็นคนหน้าตาดี แต่ไม่เจ้าชู้ ส่วนเรื่องที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกฆ่าตาย เฉพาะเรื่องการแชตข้อความตนเองไม่ทราบ ไม่รู้ว่าหลานสาวมีการพูดคุยอยู่กับใครบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่มีอาการนอกใจสามีแน่นอน เพราะทั้งคู่แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันแล้ว
ส่วนเมื่อวานตอนเย็นที่ผ่านมา ก่อนที่นายต๊ะจะก่อเหตุ มีชาวบ้านมาบอกว่าเห็นนายต๊ะอุ้มลูกวัย 1 ขวบ ไปนั่งกินเบียร์อยู่ที่ร้านค้ากลางหมู่บ้าน และมีการพูดคุยกับกลุ่มเพื่อน แต่คนในวงเหล้าบอกว่านายต๊ะไม่ได้มีท่าทีเคร่งเครียด หรือมีเรื่องกลุ้มใจ จึงไม่รู้ว่าหลังจากนั้นไปมีเรื่องอะไรกับภรรยาต่อที่บ้าน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิด ตนไม่รู้ว่าจะไปโกรธแค้นหรือเอาผิดกับใคร เนื่องจากหลานเขยคนที่ก่อเหตุก็ได้ตายตามกันไปแล้ว ส่วนหลาน ๆ ญาติจะช่วยกันดูแลต่อไป
ส่วนพิธีศพ ของนายต๊ะ และนางสาวลาย จะนำไปประกอบพิธีเผานอกหมู่บ้าน เพราะตามความเชื่อของชาวชนเผาเย้า การตายผิดธรรมชาติ จะไม่นำเขามาในหมู่บ้าน