ผู้สูงอายุโคราชเศร้า กด ATM ไม่มีเงินเข้าบัญชี เดือดร้อนต้องยืมเงินเพื่อนบ้านและลูกใช้ประทังชีวิต วอนรัฐบาลเร่งจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกรมบัญชีกลาง ประกาศเลื่อนจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกรมบัญชีกลางระบุว่าไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ์รับเงินและโอนเข้าบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ภายในกำหนดเวลาวันที่ 10 กันยายน 2563 เนื่องจากติดขัดขั้นตอนเรื่องการจัดสรรงบประมาณ ไป-กลับ ระหว่างกรมบัญชีกลาง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการจ่ายเงินออกไป ซึ่งล่าสุดกรมบัญชีกลางระบุว่าจะเร่งรัดจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันอังคารที่ 22 กันยายน 2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ได้ข้อสรุปแล้ว เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-คนพิการ เดือน ก.ย. 63 จะโอนจ่ายเมื่อไหร่
- ผู้สูงอายุเตรียมลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ ปี 64 เริ่มตุลาคมนี้
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจตามตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา พบว่ายังมีประชาชนผู้สูงอายุเดินทางมากดเงินที่ตู้ ATM กันอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนก็ต้องผิดหวังเนื่องจากเงินยังไม่เข้าบัญชา โดยจากการสอบถามนางสุพรรณ เนตรนคร อายุ 63 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า เนื่องจากเงินผู้สูงอายุจะเข้ามาตรงตามกำหนดทุกวันที่ 10 กันยายน แต่เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) ตนมากดดูแล้วก็ไม่มีเงินเข้า ดังนั้นวันนี้จึงได้มาลองกดเงินดูอีก ก็พบว่าเงินยังไม่เข้าเหมือนเดิม ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะหวังว่าจะได้เงินจากเบี้ยผู้สูงอายุนี้ไปใช้จ่ายในครอบครัว ซื้ออาหาร และของใช้ประจำวัน โดยไม่ได้มีการวางแผนว่าถ้าไม่มีเงินส่วนนี้แล้วจะทำอย่างไรต่อไป ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินให้กับตนด้วย เพราะตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ
ด้านนายสัญชัย ภักดี อายุ 49 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้ตนเองได้มากดเงินเบี้ยผู้สูงอายุให้กับพ่อ ซึ่งอายุ 84 ปีแล้ว และเป็นผู้ป่วยติดเตียงมากดเงินเองไม่ได้ โดยจะนำเงินที่กดได้นี้ไปซื้อผ้าอ้อม และของใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่วยติดเตียงให้พ่อ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าหลายคนกดเงินไม่ได้ ตนเองจึงลองกดดูก็ปรากฏว่าเงินยังไม่เข้าเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป คงจะต้องไปขอหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาใช้ชั่วคราวก่อน จึงอยากให้รัฐบาลเร่งโอนเงินให้ด้วยเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในครั้งนี้
ด้านนางวัณณา สว่างกิจ อายุ 66 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ปกติแล้วตนเองจะได้เงินเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท และเงินผู้พิการอีก 800 บาท รวมเป็นเงิน 1,400 บาท ซึ่งจะนำไปใช้จ่ายซื้ออาหาร และของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่วันนี้มากดบัตร ATM ดูแล้วปรากฏว่าเงินยังไม่เข้าสักบาท ทำให้รู้สึกเครียดมาก เพราะไม่รู้จะหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างไรได้พอ จึงได้โทรศัพท์ไปขอลูกสาวให้โอนเงินมาให้ 1,000 บาท เพื่อใช้บรรเทาความเดือดร้อนไปชั่วคราวก่อน จึงขอวิงวอนรัฐบาลให้โอนเงินมาให้เร็วๆ เพราะตอนนี้ข้าวสารจะกรอกหม้อก็ไม่มีแล้ว หมดเกลี้ยง ไม่มีเงินซื้อของกิน ของใช้อะไรเลย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก