ตำรวจชี้เสื้อเจ้าสัว "เปรมชัย" ไม่ธรรมดา พรานล่าสัตว์มักใช้สรรพคุณสุดๆ (คลิป)

จากกรณีที่มีการจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ พร้อมด้วยของกลางเป็นปืนชนิดต่างๆ พร้อมซากเสือดำ และสัตว์สงวนอื่นๆ โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้บริเวณจุดตั้งแคมป์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยนายเปรมชัย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันสังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องเสื้อของนายเปรมชัย น่าจะเป็นเสื้อที่ใส่เพื่อล่าสัตว์โดยเฉพาะ ล่าสุด วันนี้ (7 ก.พ.61) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย สารวัตรงานแผนและการฝึก กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน, นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ เครือข่ายนักศึกษาชมรมอนุรักษ์แห่งประเทศไทย มาพูดคุยในรายการ ภายใต้หัวข้อ “เจ้าสัวแสนล้านเข้าป่า เจอปืน-ซากสัตว์ ล่าหรือหลง?” โดย นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ กล่าวว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นมรดกโลก แต่ปล่อยให้บุคคลเข้าไปล่า ดังนั้นเมื่อมีสัตว์ป่าตายต้องมีคนผิด แต่มีความกังวลว่า กระบวนการพิสูจน์จะสามารถเอาผิดบุคคลเหล่านั้นได้หรือไม่ โดยนายเปรมชัย ปฎิเสธการล่าสัตว์ บอกว่าเข้าไปพักผ่อน แต่กรณีนี้ได้นำปืนเข้าไป จึงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทำให้สัตว์ตายหรือไม่ นอกจากนี้การนำเกลือมาหมักเสือดำ เป็นลักษณะของการเก็บรักษาหรือสะสม ต่างจากคนที่ต้องการฆ่ามักไม่นำกระดูก เขา เล็บ เขี้ยว และกระโหลกของสัตว์ไป ในกรณีที่เก็บไปขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็น “นักสะสม” การกล่าวอ้างว่า นำปืนไปเพื่อป้องกันตัว จึงเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ชำแหละซากสัตว์ต้องเป็นผู้มีความชำนาญ เพราะสามารถแล่หนังแยกเนื้อออกมาเป็นตัวได้โดยที่หนังไม่เสียหาย ทั้งนี้หลักฐานที่ได้จากตำรวจพบว่า มีเบ็ดตกปลา สวิง เหยื่อปลอม ค้อน และอุปกรณ์ในการทำอาหาร โดยยังพบซากเก้ง ไก่ฟ้า เสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์ที่กินได้หมด หากเป็นการพักผ่อนต้องมีการนำอาหารเข้าไปรับประทานเอง ไม่ใช่เข้าไปกินของในป่า ด้าน พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย สารวัตรงานแผนและการฝึก กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 กล่าวว่า การนำอาวุธและเครื่องกระสุนเหล่านี้เข้าป่ามีความผิดปกติ โดยปืนไรเฟิลติดลำกล้องขนาด .30-06 ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ เป็นปืนเก่าและหายาก มีไว้สำหรับล่าสัตว์ อานุภาพเอาไว้ยิงช้าง หากเป็นสัตว์เล็กๆ ต้องการยิงเป็นอาหารมักใช้ปืนลูกซอง หรือ ปืนลูกกรด ขณะที่กระสุน 2 แรงครึ่งที่พบ ซึ่งเป็นกระสุนเพิ่มความแรงในการยิง สามารถยิงสัตว์ได้ทุกประเภท สำหรับปืนไรเฟิลติดลำกล้องนั้น มีไว้สำหรับเล็งสัตว์ ทำให้ประสิทธิภาพการยิงแม่นยำขึ้น แค่ยิงนัดเดียวถูกสัตว์เป้าหมายได้ในทันที ทำให้เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้มี 2 เป้าหมาย คือ จงใจล่า หรือ ยิงเมื่อเจอสัตว์

พ.ต.ท.ศรายุทธ มองว่า การพบซากเสือคิดว่าเกิดจากคมกระสุนขนาด .30-06 เพราะเสือมีความไว แต่จุดที่ยิงแล้วตายนั้นตนไม่ทราบ แต่พรานป่าจะทราบว่าสัตว์แต่ละชนิด ต้องยิงในลักษณะไหนถึงจะตาย ขณะที่ นายพิสิษฐ์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพบกระสุนจำนวนมากนั้น แสดงให้เห็นว่าบุคคลเหล่านี้ มีความพร้อมในการล่าสัตว์ทุกชนิด ทุกสถานการณ์ และเมื่อยิงได้เสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์หายาก มีค่า ก็จะนำมาเก็บรักษาไว้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟอกหนังในภายหลัง ซึ่งคนที่แล่เนื้อ ตัดหนัง เชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความรู้และชำนาญ โดยปกติของนักล่าสัตว์ เมื่อเจอสัตว์หายากจะยิ่งชอบ เพราะอวัยวะทุกส่วนมีราคาแตกต่างกัน ใน 1 ตัวที่ล่าได้ สามารถทำเงินได้เยอะ แต่สำหรับกรณีคนมีเงิน อาจไม่อยากขาย แค่อยากเก็บไว้เพราะเป็นของหายาก เพื่อมีประวัติไว้เล่าเวลานำมาโชว์ว่าทริปนี้ ได้สัตว์อะไรมาบ้าง

น.ส.สุชาวลีรัตน์ อุ่นคุณธรรม ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาชมรมอนุรักษ์ฯ กล่าวถึง การออกแถลงการณ์ระบุว่า ขีดเส้น 7 วัน หากคดีไม่คืบ ก็จะออกมาเคลื่อนไหว เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนผู้กระทำความผิดว่า ถูกจับตาและมีการตรวจสอบอยู่ โดยจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น อยากให้ทุกคนติดตาม ทางเครือข่ายฯ ต้องการแสดงให้เห็นว่า คนที่ล่าสัตว์ที่พื้นที่อนุรักษ์เป็นการกระทำเกินเหตุ โดยบุคคลที่กระทำเป็นผู้ใหญ่ในวงการ แต่กลับเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามพร้อมกับอาวุธ จึงอยากให้กระบวนการยุติธรรม ดำเนินคดีโดยไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น ซึ่งการกล่าวอ้างว่าเข้าไปพักผ่อนนั้น ไม่ควรนำอาวุธปืนเข้าไป ควรให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฯ ให้ความคุ้มครอง อีกทั้ง การเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นพื้นที่หวงห้าม ตามปกติต้องทำหนังสือแจ้งจุดประสงค์การเข้าไป ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือเปิดเส้นทางให้หรือไม่

ภายหลังจากจบรายการต่างคนต่างคิด ทางด้าน พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย สารวัตรงานแผนและการฝึกกองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เปิดเผยอีกว่า จากการสังเกตเสื้อที่นายเปรมชัยใส่แล้ว ค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นเสื้อที่นายพรานใส่ล่าสัตว์ ในต่างประเทศ เพราะตัวเสื้อจะมีช่องเพื่อใส่อุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น กระสุนปืน รวมทั้งตัวเสื้อมีการออกแบบมาเพื่อรองรับการรีคอย (แรงสั่นสะเทือนหลังจากการยิงกระสุนออกไป) โดยเฉพาะปืนแรงสูงนั้น เสื้อตัวนี้จะสามารถซับแรงรีคอยให้น้อยลงได้ รวมถึงการเล็งยิง จะช่วยให้การรองรับน้ำหนักนิ่งมากขึ้น

โดยเฉพาะตรงช่วงบ่า (สีน้ำตาลเข้ม) จะออกแบบมาเพื่อช่วยรองรับปืน และกันลื่นได้ เพราะส่วนใหญ่คนที่เป็นพรานนั้น อาจจะดักซุ่มยิงบนต้นไม้ หรือริมทาง จึงเป็นไปได้ว่าเมื่อนำมาใช้กับปืนที่พบนั้น จะทำให้ล่าสัตว์ได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะการยิงปืนชนิดที่ดักซุ่มยิงนี้ จะต้องมีความเชี่ยวชาญ และมีทักษะไม่น้อย เพราะเป็นปืนที่ยิงยากมาก

ทั้งนี้ในประเทศไทย จะไม่ค่อยพบเห็นเสื้อชนิดนี้มากนัก มีเพียงต่างประเทศที่จะมีการใช้อย่างเป็นรูปแบบ พร้อมกับการใช้ปืน จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะซื้อเสื้อมาจากต่างประเทศ เพราะในประเทศไทย ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ตนคาดว่า เสื้อตัวนี้คงมีราคาแพง