จากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่หายออกจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ไปพบว่าเสียชีวิตบนเขาเหล็กไฟนั้น จากนั้นนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์นำภาพน้องชมพู่และผลนิติเวชมาแสดงเชื่อมั่นว่ามีคนฆาตกรรมน้องชมพู่ และยังจับคนร้ายไม่ได้
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
กระทั่ง วันที่ 20 ก.ค. 63 ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แสดงความไม่พอใจและเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายอัจฉริยะ ฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศพและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ล่าสุด ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ พร้อมแฟนของหมอปลา นัดพบทนายษิทรา เตรียมแจ้งความกลับนายอัจฉริยะเช่นกัน หลังถูกไลฟ์ถูกพาดพิง
วันที่ 12 ก.ย. 63 ทีมข่าวเดินทางไปยังสำนักงานกฎหมาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้ลุงพล คุณน้ำฟ้า ภรรยาหมอปลา เดินทางมาที่สำนักงานขอให้ช่วยเรื่องคดี เนื่องจากถูกโพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์วันที่ 10 ก.ย. 63 พาดพิงถึงลุงพลว่าเป็นหนี้ ธ.ก.ส. และมีเจ้าหน้าหนี้ไฟแนนซ์ไปตามทวงหนี้ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ทำให้คนในสังคมมองลุงพลไปในทางลบ จึงเดินทางมาปรึกษาว่าจะสามารถดำเนินคดีอย่างไรได้บ้าง
ซึ่งตนเองมองว่าที่มีการออกมาไลฟ์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่มีความจำเป็นต้องพูด เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องคดี แต่เสมือนเป็นการออกมาพูดเพื่อดิสเครดิตลุงพล ทำให้คนในสังคมมองลุงพลเสียหายมากกว่า
นอกจากนี้ มีการพูดถึงประเด็นหากลุงพลมี DNA คงโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับไปแล้ว ทำให้คนที่ได้รับฟังก็จะเข้าใจผิดคิดว่าลุงพลเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ตัวลุงพลไม่เคยถูกแจ้งข้อกล่าวหา หรือถูกเรียกไปสอบในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น หากเป็นนักกฎหมายจริง ก็คงจะไม่พูดแบบนี้ เพราะเสมือนเป็นการพูดหมิ่นประมาทหรือใส่ความผู้อื่น ดังนั้นลุงพลก็สามารถจะดำเนินคดีได้
โดยในวันจันทร์ 14 ก.ย.63 ตนเองจะพาลุงพล เดินทางเข้าฟ้องศาลอาญาในคดีหมิ่นประมาทเรื่องการโฆษณา ซึ่งคดีนี้มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาทต่อครั้ง ซึ่งหากคนโพสต์ยังไม่หยุดและมีการใส่รายต่ออีกเรื่อย ๆ ก็จะถูกดำเนินคดีเป็นกรรม ๆ เรื่อยไป นอกจากนี้ ตนเป็นทนายความจึงอยากช่วย ไม่เกี่ยวข้องกับความแค้นส่วนตัว
นายไชย์พล วิภา และนางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงกับป้าของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองเดินทางเข้าพบทนายตั้มเนื่องจากไม่อยากให้ผู้อื่น โดนแบบเดียวกันกับตนเอง เนื่องจากกรณีที่ไลฟ์พูดเกี่ยวกับตนเองและภรรยามีหนี้ธนาคารและไฟแนนซ์ จนมีคนมาทวงหนี้ถึงที่บ้าน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ทนายตั้มก็แนะนำให้ดำเนินการฟ้องศาล เนื่องจากตนเองได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจ จากการที่มีคนมาพูดใส่ความตนเองลอย ๆ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ตนเองกับภรรยารู้สึกแย่ขึ้นไปอีก เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่บ้านก็แย่พอสมควร แต่กลับต้องมาเจอคำพูดอะไรแบบนี้อีก
ส่วนถ้าถามว่าตนเองกลัวไหมที่จะถูกฟ้องกลับ ตนเองไม่กลัว เนื่องจากตนเองไม่มีอะไรให้ฟ้องกลับ และตนเองไม่ได้เป็นคนที่เริ่มก่อน ส่วนทางด้านคดีน้องชมพู่ ตนเองก็ไม่ได้มีความกังวล ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการบริจาคเงิน ค่ารางวัลนำจับเพิ่มเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ ยืนยันว่าไม่มี
นางน้ำฟ้า ภรรยาหมอปลา เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนเองเดินทางมาเพื่อต้องการอยากจะให้ ลุงพลได้ศักดิ์ศรีของตัวเองคืน เนื่องจากลุงพลไม่ได้ผิด อีกทั้งตัวหมอปลา สามีของตนเองก็ถูกพาดพิงในทางลบด้วย ตนเองจึงเดินทางพาลุงพลมาปรึกษาทนายตั้มเนื่องจากตนเองและสามีไม่เคยไปล้ำเส้นใคร
ทั้งนี้ หมอปลาไม่เคยไปดิสเครดิตใคร โดยการมาเอ่ยชื่อผ่านทางไลฟ์แบบนี้ ถ้าหากไม่รู้จักบุคคลนั้น ๆ ดีพอ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ตนเองเพียงพาลุงพลมาพบทนายเพื่อต้องการเอาศักดิ์ศรีคืนแค่นั้น ส่วนประเด็นการพาดพิงถึงหมอปลา วันจันทร์ที่ 14 ก.ย. ก็จะรู้กันว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เนื่องจากคิดว่าพฤติกรรมของบางคนไม่ถูกต้อง
