จับตา น.ศ. ชุมนุม "ธรรมศาสตร์" 19 ก.ย. 63
วันที่ 17 ก.ย. 63 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยบันทึกงดการเรียนการสอน และงดการติดต่อ ในวันที่ 19-20 ก.ย. 63 เนื่องจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และคณะประชาชนปลดแอก จะจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย. 63 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจึงขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ให้งดการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และงดการติตต่อ ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย. 63
และให้มหาวิทยาลัยปิดประตูทางเข้า-ออกด้านสนามหลวง และด้านท่าพระจันทร์ โดยให้เข้า-ออกประตูพระอาทิตย์เพียงประตูเดียว และจะต้องแสดงบัตรประจำตัว พนักงานมหาวิทยาลัย หรือบัตรประจำตัวประชาชน โดยแจ้งเหตุผลความจำเป็นแก่เจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของฝ่ายความมั่นคง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดังที่กล่าวมาข้างต้น
โดยสำนักงานเขตพระนคร ประกาศอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ของประชาชน ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น. ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประกาศ กทม.เมื่อปี 2555 ที่อนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้าไปออกกำลังกาย พักผ่อน หรือมีกิจกรรมสันทนาการ แต่หากจะเข้าไปจัดกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นการรวมกลุ่มคนจำนวนมากจำเป็นต้องขออนุญาตจาก กทม. ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้เพียง 4 กรณี คือ 1.จัดงานพระราชพิธี 2.จัดงานพิธี 3.จัดงานประจำปี และ 4.จัดงานหรือกิจกรรมของหน่วยงานราชการ
สำหรับแนวทางการจัดกำลังตำรวจดูแลพื้นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือถึง ผบช.น., ภาค 1-8 และ ตชด. ขอรับการสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน จำนวน 57 กองร้อย จากตำรวจเพื่อปฏิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ตามจุดต่าง ๆ ดังนี้
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ รวม 3 กองร้อย แบ่งเป็น บก.1, ภ.จว.ตราด 1 และ ภ.จว.ชลบุรี รวม 450 นาย
พระบรมมหาราชวัง 4 กองร้อย แบ่งเป็น บก.น.5 บก.น.6 และ บก.น.3 ภ.จว.มหาสารคาม อย่างละ 1 กองร้อย รวม 600 นาย
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 3 กองร้อย ภ.จว.ชัยภูมิ, ภ.จว.ปทุมธานี และ ภ.จว.สมุทรปราการ รวม 450 นาย
แยก จปร. 3 กองร้อย จาก บก.น.1 ภ.จว.ชลบุรี และ ภ.จว.ตราด รวม 450 นาย, แยกสะพานมัฆวาน 3 กองร้อย จาก กก.ตชด.11 กก.ตชด.12 ภ.จว.สระแก้ว รวม 450 นาย
แยกสะพานวิศสุกรรมนฤมาณ ภ.จว.นครปฐม 1 กองร้อย รวม 150 นาย, แยกสะพานเทเวศนฤมิตร ภ.จว.สุพรรณบุรี 1 กองร้อย รวม 150 นาย, แยกสวนมิสกวัน ภ.จว.กำแพงเพชร 1 กองร้อย รวม 150 นาย
แยกอู่ทองนอก ภ.จว.ลพบุรี 1 กองร้อย รวม 150 นาย, สถานีดับเพลิงวชิระ ภ.จว.สิงหบุรี 1 กองร้อย รวม 150 นาย, แยกเทวกรรม ภ.จว.กาญจบุรี 1 กองร้อย รวม 150 นาย, แยกพาณิชยกรรม 2 กองร้อย จาก กก.ตชด.13 ภ.จว.ชัยนาท รวม 300 นาย, แยกเสาวนี ภ.จว.เพชรบุรี 1 กองร้อย รวม 150 นาย และแยกอุภัยเจษฎุทิศ ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ 1 กองร้อย รวม 150 นาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายให้ติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุม เจ้าหน้าที่เขาดูแลอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ส่วนฝ่ายความมั่นคงยังไม่มีการแจ้งเรื่องจำนวนของผู้เข้าชุมนุม และจะต้องนุ่มนวล ไม่ให้มีการปะทะกัน ในส่วนของทำเนียบรัฐบาลระเบียบไม่ให้เข้าใกล้เกิน 50 เมตร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลในภาพรวม เน้นย้ำเพียงว่าขอให้ปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล เพราะเป็นเด็ก เป็นลูกหลาน อะไรที่ไม่ควรไม่ถูก สถานที่ราชการต่างมีกติกากฎหมายอยู่แล้ว ก็ไม่ควรปฏิบัติให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกัน อย่างไรก็ตาม คนทั้งประเทศทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น "ผมไม่ได้ขู่ใคร แต่ประเทศชาติมันอยู่ด้วยกฎหมาย อยู่ด้วยหลักการและเหตุผลของกฎหมายแต่ละฉบับ ฉะนั้นถ้าทุกคนตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎหมาย ผมคิดว่าคนทั้งประเทศเขาจะยินยอมหรือไม่ เพราะจะเกิดผลกระทบกับคนอื่นเขาด้วย..."
ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนต่าง ๆ ตนทราบอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าระยะเวลาที่ผ่านมา ตนพยายามอดทนหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ในเมื่อทุกคนบอกรักชาติ รักประเทศ ต้องการจะแก้ไขประเทศก็ต้องเริ่มจากการแก้ไขตัวเองเสียก่อนว่าจะต้องแก้ไขตัวเองอย่างไร จะต้องเข้าใจกันอย่างไร ถ้าเริ่มต้นในสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอด มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ฉะนั้นวันนี้เราต้องมองไปข้างหน้า โดยสืบสานตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนเลยทีเดียวแล้วเป็นแบบนั้นเลย ลองไปดูว่าทำได้หรือไม่ กฎหมายเป็นอย่างไร
ที่รัฐสภา หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายนิคม หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมออกแถลงการณ์เรื่อง สิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ 3 ข้อ ดังนี้
1. การแสดงออกและการเรียกร้องของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนภายใต้กรอบกฎหมาย เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ถูกต้องและสามารถกระทำได้ รัฐบาลต้องคุ้มครองและอำนวยความสะดวกให้การแสดงออกดังกล่าวเป็นไปได้อย่างเสรี รัฐบาลต้องเปิดพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยในการแสดงออกของประชาชน โดยปราศจากการคุกคาม แทรกแซง ให้ร้าย และด้อยค่าด้วยการแสดงออก
2. หนึ่งในข้อเรียกร้องที่สำคัญของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนในวงกว้าง คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นผลจากการสืบทอดอำนาจและความต้องการรักษาอำนาจของ คสช.
3. พรรคร่วมฝ่ายค้านขอเรียกร้องให้ ส.ว. ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับอำนาจของ ส.ว. โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ต้องถูกยกเลิก
ขณะที่ความเคลื่อนไหวอีกด้าน กลุ่มศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศอปส.) เคลื่อนขบวนชุมนุมจากสมาคมปักษ์ใต้ มายังตึกไทยซัมมิท ที่ตั้งของคณะก้าวหน้า มีการปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ขับไล่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าออกจากประเทศไทย
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ไผ่ดาวดิน แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นพร้อมบุกเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน ซอยอดุลยาราม 1/3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และตรวจยึดป้ายที่ใช้ในการชุมนุมบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และเตรียมไว้สำหรับนำไปชุมนุมใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสาตร์ วันที่ 19 ก.ย. 63
ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน กลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา นำโดยนายณวิบูล ชมภู่ ประธานภาคีฯ และ น.ส.อาทิตยา พรพรม เดินทางมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ต้านรัฐประหาร "Bloody Purity เลือดล้างมลทิน รัฐประหารไม่ใช่ทางออกของแผ่นดินไทย" โดยมีการสาดสีแดงลงบนเสื้อลายพราง รถถัง และปืนจำลอง พร้อมทั้งอ่านแถลงการณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนางเลิ้งทั้งในและนอกเครื่องแบบจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร