จากกรณี นายวรสิทธิ์ อิสสระ หรือ ปลาวาฬ ไฮโซหนุ่มชื่อดัง ดรีกรีประธานกรรมการ บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ ศรีพันวา เจ้าของโรงแรมศรีพันวา รีสอร์ตหรูใน จ.ภูเก็ต โพสต์ไอจีสตอรี่บัญชีรายชื่อ "wan.issara" หลัง "นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง" แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขณะขึ้นเวทีปราศัยในการชุมนุม "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" ที่ท้องสนาม
พร้อมข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า "This bull shit has got to stop...she is not thai ! Who is he working for? This one need to be in prison How dear u!" หากแปลเป็นภาษาไทยคือ “เธอไม่ใช่คนไทย!” และ “คนๆ นี้ต้องเข้าไปอยู่ในคุก” “จับเด็กคนนี้ซะ”
หลังจากได้โพสต์ลงไปแล้ว ทำให้เกิดกระแสดราม่า ติดแฮชแท็กแบนศรีพันวาบนทวิตเตอร์อันดับ 1 และยังได้มีการรณรงค์ให้ไม่ไปใช้บริการโรงแรมศรีพันวา ทั้งนี้ยังชักชวนให้รีวิวโรงแรมบน Google Maps และ Tripadvisor เพื่อสื่อสารทั้งกับคนไทยและชาวต่างชาติ ถึงสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงตั้งข้อสงสัยต่อเอกสารสิทธิ์ที่ดินโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต
ล่าสุดวันที่ 21 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายวรสิทธิ์ อิสสระ หรือ ปลาวาฬ เจ้าของโรงแรมศรีพันวา เปิดเผยว่า ที่ตัดสินใจโพสต์ไอจีสตอรี่ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการที่แกนนำผู้ชุมนุมขึ้นไปปราศัยหมิ่นสถาบัน พูดจาไม่ดี ตนเชื่อในสถาบันมาตลอด เพราะโตมาถูกสั่งสอนให้รักสถาบัน แต่ละพระองค์ต่างมีวิธีการที่จะบริหารประเทศ หากมีปัญหากับรัฐบาลก็ไม่สมควรนำมารวมกัน
ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า ตนไม่ได้สนับสนุนทั้งรัฐบาลและม็อบ ไม่ได้อยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง สนับสนุนแต่ตัวเอง ตนเคยเห็นข้อผิดพลาดของทุกรัฐบาลมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการโกงข้าว การเลือกตั้งนายกฯ จากการโหวต ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งทุกครั้งมีการซื้อสิทธิ์และขายเสียง
ส่วนเศรษฐกิจไม่ดีนั้น ตนมองว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะมันไม่ดีมาก่อนแล้ว ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง, สึนามิ, ม็อบเสื้อเหลืองเสื้อแดง และการโกงอื่น ๆ และที่ผ่านมาได้ไปพูดคุยเรื่องเศรษฐกิจกับนายกรัฐมนตรีจริง ตนมองว่านายกฯ เป็นนักฟังที่ดี และยังยืนยันว่าผมไม่โกง ซึ่งประเทศไทยมีการโกงอยู่แล้ว แต่ผมไม่โกง หากใครโกงก็จะจัดการ ถือว่าดี
ส่วนที่มีคนเข้ามาด่าทอว่าตนโง่ เขียนภาษาอังกฤษผิด แล้วหยิบยกขึ้นมาเป็นกระแส ตนขอไม่สนใจ ยอมรับว่า" ภาษาอังกฤษเขียนไม่ดีพอ ส่วนภาษาไทยเขียนไม่ได้ แต่ก็สามารถทำให้แบรนด์ไทยดังไปทั่วโลก" นอกจากนี้ยังมีเด็กวัย 10 ขวบมาแสดงความคิดเห็นด่าทอตน ตนรู้สึกเด็กควรใช้เวลาว่างไปศึกษาประวัติศาสตร์ ให้มากกว่านี้ ตนสงสารเด็กรุ่นใหม่มากที่อาจเสพสื่อผิด ๆ
ด้านชาวโซเชียลฯ ที่มีกระแสแบนโรงแรมของตนนั้น ตนไม่รู้สึกอะไรเลย เนื่องจากอยากแบนก็แบนไป เพราะคนที่แบนไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของตน ประเทศไทยมีคน 10 ล้านคน ตนถูกนักเลงคีย์บอร์ดด่าทอ 1,000 กว่าข้อความ แต่ได้รับข้อความกำลังใจ 4,000 กว่าข้อความ โรงแรมยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่มีพวกนักเลงคีย์บอร์ดที่ไปแสดงความคิดเห็นว่าไม่ควรสนับสนุนโรงแรม โดยคนที่ด่าทอตนนั้นมีแต่บัญชีรายชื่อที่ปลอมทั้งนั้น หากเป็นผู้ใหญ่ จะต้องไม่เป็นอันธพาล ตนก็ไม่กลัวและขอไม่ดำเนินคดีปล่อยให้ผ่านไป
หากต่อไปนี้มีคนเข้าไปขุดคุ้ยเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินของโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต ตนไม่สนใจ เพราะเชื่อมั่นว่าทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน ไม่ได้เอาเงินไปอุดจ่ายใคร ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน มีโฉนดที่ดิน มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่ผ่านมีปัญหาที่วังน้ำเขียว จ.ภูเก็ต ทางบริษัทตนก็ถูกตรวจสอบ แต่ก็สามารถผ่านพ้นไปได้ ตนถูกสอนว่าห้ามโกงคน ห้ามเอาเปรียบคน ห้ามด่าคนที่ไม่จำเป็น ต้องหาข้อมมูลมาก่อน อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอให้คนที่ว่างไปทำจิตสาธารณะประโยชน์ ไม่ใช่มานั่งด่าทอสถาบัน
Advertisement