เจออีก! พิตบูลโหดขย้ำหมาเล็กตายต่อหน้าคนเลี้ยงขาแหก เจ้าของแถแค่ถากไม่กัดคน (คลิป)

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 63 เมื่อเวลา 11.00 น. นายจตุพล เหินจันทึก อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 18 ซ.สุขสวัสดิ์ 62/2 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ อาชีพขับรถบรรทุก มีบาดแผลถูกสุนัขพิตบูลกัดบริเวณมือขวา และนางภัทราวดี เหินจันทึก อายุ 58 ปี ภรรยา ได้อุ้มร่างไร้วิญญาณของสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล เพศเมีย สีน้ำตาลดำ อายุ 9 ปี ที่ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลแม่ลูกสีน้ำตาลของเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ภายในตึกเดียวกัน ชั้น 2 กัดจนมีบาดแผลถูกกัดทั่วตัว มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังอาคารที่พักของนายจตุพล และนางภัทราวดี เล่าเหตุการณ์ว่า ตนพักอาศัยอยู่กับภรรยาที่ตึกนี้มานานหลายปี อยู่ชั้นล่าง ซึ่งทุกเช้าในเวลาประมาณ 06.30 น. ตนจะพาซันนี่ออกไปเดินเล่นที่จุดเกิดเหตุเป็นประจำ วันนี้ตนได้พาเจ้าซันนี่ สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล ออกไปเดินเล่น และเจอกับสุนัขตัวเล็กของเพื่อนบ้าน แต่อยู่ดี ๆ สุนัขพันธุ์พิตบูลตัวใหญ่เพศเมียและเพศผู้จำนวน 2 ตัว ของคนที่อาศัยอยู่บนขั้น 2 ของอาคาร ก็วิ่งเข้ามาจู่โจมเจ้าซันนี่กับสุนัขของเพื่อนบ้าน แต่สุนัขของเพื่อนบ้านหนีไปได้ เจ้าซันนี่จึงถูกรุมขย้ำ 2 รุม 1 จนบาดเจ็บหนัก

จากนั้น ตนจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ พยายามจะอุ้มเจ้าซันนี่ออกมา พยายามอุ้มยกสูง เพื่อเอาเจ้าซันนี่ขึ้นไปที่ท้ายรถกระบะที่จอดอยู่ แต่พิตบูลทั้ง 2 ตัว ตัวหนึ่งกัดคอ ตัวหนึ่งกัดตัว ไม่ยอมปล่อยปากจากตัวของเจ้าซันนี่ ตนพยายามเอามือไปง้างปากพิตบูล มือขวาของตนจึงถูกกัดที่บริเวณง่ามนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เข่าซ้ายถูกเขี้ยวถาก หัวแม่โป้งเท้าซ้ายถูกเล็บจิก อีกทั้งยังถูกข่วนตามลำตัวด้วย

ตนพยามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยิน ผ่านไปประมาณ 15 นาที จนเจ้าของสุนัขพิตบูลเข้ามาช่วย แล้วพาสุนัขกลับไปที่ห้องพัก ตนรีบพาเจ้าซันนี่ที่เนื้อตัวอาบเลือดและหายใจแผ่วเบาไปล้างเลือดที่เปื้อนตัว และรีบพาเจ้าซันนี่ไปที่โรงพยาบาล แต่เจ้าซันนี่ก็หมดลมหายใจ โดยขณะนี้ตนห่อผ้าพาร่างของเจ้าซันนี่ไปฝังแล้ว

ตนและภรรยาเสียใจมาก เพราะเลี้ยงเจ้าซันนี่มา 9 ปี ตั้งแต่ยังเป็นตัวเล็ก ๆ มีความรักความผูกพันเหมือนลูก อาบน้ำให้วันละ 2 ครั้ง แล้วพาเข้านอน ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี อยากให้เจ้าของพิตบูลพาสุนัขออกไปให้ไกลจากชุมชน หลังเกิดเหตุเจ้าของพิตบูลได้ตามไปที่โรงพยาบาลแล้ว สอบถามค่ารักษาพยาบาลของเจ้าซันนี่และตนแล้ว แต่จนขณะนี้ทางเจ้าของพิตบูลยังไม่ติดต่อมา เพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด

"สำหรับตน พิตบูลนั้นดุร้ายกว่างูจงอาง ตนขู่งู งูยังกลัว แต่พิตบูลไม่กลัว กัดจนสุนัขตนตาย แต่ตนไม่โทษสุนัขเพียงอย่างเดียว เนื่องจากคนเลี้ยงไม่ดูแล ปล่อยให้ออกมาก่อเหตุ สุนัขดุร้ายโหดเหี้ยมอย่างนี้ไม่ควรนำมาเลี้ยงในพื้นที่ชุมชน เจ้าของควรเอาออกไป"

ด้านนายปุ๊ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี เจ้าของพิตบูล เพศเมีย อายุ 10 ปี และพิตบูลเพศผู้ อายุ 6 ปี แม่ลูก เปิดเผยว่า ปกติแล้วตนจะจูงพิตบูลทั้ง 2 ตัวไปเดินเล่น ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนกำลังจะพยุงพ่อของตนอายุ 72 ปี ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่จังหวะที่ตนกำลังเปิดประตู พ่อของตนอ่อนแรงกำลังจะเซล้ม พิตบูลจึงวิ่งหลุดออกไปทั้ง 2 ตัว ตนทิ้งพ่อไม่ได้ หากตนวิ่งไปจับสุนัข พ่อตนจะล้ม เมื่อตนพาพ่อนั่งเรียบร้อยแล้ว ตนก็ได้รีบลงไปจับพิตบูลในทันที

ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเลี้ยงพิตบูล 2 ตัวนี้ภายในห้องพักนี้มา 10 ปี สุนัขตนไม่เคยก่อเหตุ ปกติแล้วกัดสุนัขหรือคน จนเมื่อหลายเดือนก่อน พิตบูลตัวผู้ถูกสุนัขจรกัดที่ขา จากนั้นสุนัขของตนจึงมีความระแวงสุนัขด้วยกันเอง ส่วนพิตบูลตัวเมีย เมื่อเห็นลูกตัวเองกัดอะไร ก็จะตามไปกัดตาม

ตนยอมรับว่าในช่วง 2 เดือนมานี้ พิตบูลของตนเคยก่อเหตุกัดสุนัขด้วยกันทั้งหมด 3 ครั้ง กัดครั้งที่ 1 "เจ้ามะกอก" แต่ลูกชายของเจ้าของนั้นเป็นเพื่อนกับตน จึงไม่ถือโทษ กัดครั้งที่ 2 "เจ้าตะวัน" ตนคุยกับเจ้าของแล้ว ตนยินดีชดใช้ค่ารักษาพยาบาล แต่ขณะนี้ตนต้องเลี้ยง 5 ชีวิต ได้แก่ พ่อป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม่ป่วยติดเตียง ภรรยา และลูกรวมถึงตน ตนจึงขอผลัดค่ารักษาพยาบาลเจ้าตะวันไปก่อน ซึ่งเจ้าของก็เข้าใจและเห็นใจตน

ส่วนในกรณีเจ้าซันนี่ ตนได้เดินทางไปโรงพยาบาลสัตว์และคุยกับลูกชายของนายจตุพลแล้ว ตนยินดีชดใช้ค่ารักษาพยาบาลเจ้าซันนี่ประมาณ 8,000 บาท บวกค่ารักษาพยาบาลนายจตุพลและค่าทำขวัญเล็กน้อย แต่ขณะนี้นายจตุพลและภรรยายังคงโกธรอยู่ จึงยังคุยกันไม่เรียบร้อย ตนขอชี้แจงว่า พิตบูลของตนไม่ได้กัดนายจตุพลโดยตรง แต่ขณะยื้อแย่งเจ้าซันนี่ทำให้นายจตุพลถูกฟันพิตบูลถาก ๆ หากกัดจริง ๆ นายจตุพลน่าจะบาดเจ็บมากกว่านี้

ขณะนี้ทุกคนกดดันตน ทุกคนเล่ากันปากต่อปากจนชาวบ้านกลัวไปหมด วันนี้ทุกอย่างชี้ชัดแล้วว่าตนไม่มีศักยภาพในการดูแลพิตบูล ตนได้ติดต่อหาที่อยู่ใหม่ให้พิตบูลทั้ง 2 ตัวแล้ว และต้องขอโทษทุกคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย