เมื่อวันที่ 1 ต.ค.63 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นัดแถลงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ ในวันแถลงนโยบายที่สโมสรตำรวจ ช่วงบ่ายวันที่ 2 ต.ค.63 พร้อมตอบคำถามที่สื่อมวลชนสงสัย
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ จะอธิบายถึงบทสรุปทางคดีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ และจะมีการแจกคลิปวิดีโอเล่าถึงการเชื่อมโยงต่าง ๆ ส่วนเรื่องพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีความคืบหน้าไปประมาณ 99% อีกเพียง 1% ยังเหลือผลตรวจเส้นผมที่หล่นอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพน้องชมพู่ ซึ่งส่งไปตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ เพื่อตรวจหาเจ้าของเส้นผมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากตรวจเส้นผมแล้วไม่มีพยานหลักฐานใดเพิ่มเติม ก็ต้องพักการสืบสวนสอบสวนไปก่อน จนกว่าจะมีข้อเท็จจริงใหม่ ๆ เกิดขึ้น ในอนาคตหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็สามารถเริ่มการสืบสวนต่อได้ ภายในอายุความ 20 ปี
นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีการแถลงในวันพรุ่งนี้ ถ้ามีการพักคดี ตนก็อยากจะสอบถามถาม ท่าน ผบ.ตร. ในหลายคำถาม ในประเด็นที่ตนมีความสงสัยและตกเป็นผู้ต้องสงสัย และตนคิดว่าการพักคดี ไม่ใช่การปิดคดี แค่ตำรวจจะแถลงให้สังคมรับรู้ในแนวทางการทำงานตำรวจที่ผ่านมาเท่านั้น และหากมีการพักคดีเกิดจริง ใจหนึ่งตนก็คิดว่าดี เพราะตำรวจจะได้ทำงานในส่วนอื่นได้ หรือไปหาหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนถ้าหากว่า DNA ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ออกมาว่า เป็นเส้นผมของตนก็ไม่มีความกังวลใจแต่อย่างใด เพราะวันที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนก็ยืนยันในไทม์ไลน์ชัดเจน ว่าตนทำอะไรอยู่ที่ไหน และตนก็ไม่เห็นน้องชมพู่ในวันนั้น และคงเป็นไปไม่ได้ที่เส้นผมของตนจะไปพบอยู่ในนั้น
สำหรับวันที่ 2 ต.ค.63 ตนก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และไปฟังแถลงที่สโมสรตำรวจ กับท่าน ผบ.ตร. ถามว่าตนหนักใจหรือไม่ ในการแถลงข่าวพรุ่งนี้ตนก็ไม่หนักใจ เพราะที่ผ่านมาตนโดนมาหนักกว่านี้
ส่วนในพรุ่งนี้ตนก็จะมีการไปแจ้งความเอาผิดที่ ปอท.เพื่อเอาผิดกับกลุ่มเฟชบุ๊กกลุ่มหนึ่งที่ตัดต่อรูปภาพตน และคุณอุ๊บ วิริยะ ให้ตนเสียหาย ทั้งตัดต่อตนใส่ภาพลามก และภาพที่หมิ่นสถาบัน
การเก็บหลักฐานจากสัตว์ วันที่ 19 มิ.ย.63 ที่บ้านของนายอนามัย และนางสาวิตรี มีสุนัข 2 ตัว และหนูพุก 1 ตัว ได้แก่ เจ้าปลาส้ม อายุ 8-9 เดือน เพศเมีย และเจ้าแก้ว อายุ 1 ปี เพศเมีย ส่วนหนูพุกอายุ 7 เดือน เพศผู้
การเก็บหลักฐานจากสัตว์ วันที่ 19 มิ.ย.63 ที่บ้านของนายเสริม และนางจุไรภรณ์ มีสุนัข 2 ตัว ได้แก่ เจ้าซูโม่อายุ 3 ปี เพศผู้ และเจ้าสีทอง อายุ 3 ปี เพศผู้
การเก็บหลักฐานจากสัตว์ วันที่ 19 มิ.ย.63 ที่บ้านของนายสนธนา และนางขวัญใจ มีสุนัข 2 ตัว ได้แก่ เจ้ากาแฟ อายุ 2 ปี เพศผู้ และเจ้าปีโป้ อายุ 5 ปี เพศเมีย
การเก็บหลักฐานจากสัตว์ วันที่ 19 มิ.ย.63 ที่บ้านของนางนลิน มีสุนัข 1 ตัว เจ้าบิ๊ก อายุ 1 ปี เพศผู้ และแมวชื่อเจ้าเหมียว อายุ 1 ปี เพศผู้
นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า การแถลงข่าวของท่าน ผบ.ตร.พรุ่งนี้ ตนก็ไม่ติดใจ และตนก็เคยบอกทุกครั้งแล้วว่า ถ้ามีการพักคดี ตนก็ต้องการความชัดเจนในเรื่องที่สงสัยในตัวลงพล เพราะวันที่ตนไปยื่นหลักฐานกับตรวจที่ สภ.เมืองมุกดาหาร เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้สงสัยในตัวลุงพล แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการมาค้นบ้าน ค้นหาหลักฐาน ตนก็อยากจะถามท่าน ผบ.ตร. ให้ชี้แจ้งเรื่องนี้สังคมจะได้รับรู้ และญาติพี่น้องของตนจะได้รับรู้
ทั้งนี้ถ้าหากผลตรวจ DNA ของเส้นผม เป็นเส้นผมของลุงพล ตนก็ไม่กังวลแต่อย่างใด ตนสู้ทุกอย่างมาตลอด สามีตนไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยก็คือไม่ใช่ ทั้งนี้รายละเอียดต่าง ๆ ตนก็จะรอฟังแถลงอีกทีว่าจะเป็นไปอย่างไร และตนจะไปร่วมฟังแถลงที่สโมสรตำรวจร่วมกับลุงพล และหมอปลา
พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล เปิดเผยว่า ตามที่คิดว่าตำรวจจะพักคดีนี้ ตนเคารพการตัดสินใจของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถ้าจะพักคดีนี้ แต่ว่าการทำงานของตำรวจท้องที่เรื่องการสืบสวน คิดว่าเขายังทำต่อเนื่องตลอดเวลา เมื่อเจอพยานหลักฐานที่สามารถที่จะถึงตัวคนร้ายได้ เขาก็สามารถจะรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วก็ออกหมายจับได้ คดีนี้อายุความ 15-20 ปี
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถามไปยัง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำตรวจนครบาล เจ้าของฉายา “มือปราบหูดำ” กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงสรุปคดีน้องชมพู่ ที่มีความคืบหน้าไปกว่า 99% นั้น แนวทางของการแถลงข่าววันพรุ่งนี้ อาจจะสามารถบอกได้เป็น 2 แนวทางดังนี้
1.ตำรวจจะเดินหน้าค้นหาาตรวจสอบ DNA และเดินหน้าสืบคดีของน้องชมพู่ต่อไป
2.จะยุติคดีน้องชมพู่ชั่วคราว เนื่องจากหาพยาน ดีเอ็นเอ หรือผู้กระทำผิดไม่ได้ แต่ภายในอายุความของคดีที่เหลืออยู่ สามารถที่จะดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ เว้นแต่ว่าภายหลังสิ้นสุดอายุความของคดีแล้ว เจ้าหน้าที่ยังหาเบาะแสคนกระทำผิดไม่ได้ คดีก็จะยุติลงโดยทันที
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า กรณีตำรวจสืบหาคดีชมพู่ไปแล้ว 99% เหลืออีก 1 % ส่วนตัวมองว่า ตำรวจอาจมีเบาะแส หรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนแล้ว แต่ต้องรอให้เกิดความสมบูรณ์ จึงจะสามารถออกหมายจับ หรือหมายเรียกได้ อีกทั้งส่วนตัวเชื่อว่า การแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ จะไม่มีการออกหมายจับ หรือหมายเรียกอย่างแน่นอน
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต เชื่อว่าตำรวจรู้ตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ว่ามีใครบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่ เพียงแต่ต้องรอหลักฐานทางนิตวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุด ซึ่งถ้าหากมีการพักคดีก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะยังขาดหลักฐานบางอย่าง
เมื่อสรุปความคิดเห็นของการพักคดี ในมุมมองของอดีตตำรวจ สารวัตรแรมโบ้ บอกว่า "เคารพการตัดสินใจของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถ้าจะมีการพักคดี" ส่วนผู้การแต้ม บอกว่า "อาจจะมีการยุติคดีชั่วคราว เพราะหาพยาน DNA หรือผู้กระทำผิดไม่ได้" และดร.กฤษณพงค์ บอกว่า "หากมีการพักคดี ก็อาจเป็นไปได้ เพราะยังขาดหลักฐานบางอย่าง"
เมื่อสรุปความเห็นการพักคดีในมุมมองของญาติ โดยนางสาวิตรี บอกว่า "ไม่คิดว่าตำรวจจะมีการแถลงพักคดี" ส่วนลุงพล บอกว่า "ถ้ามีการแถลงพักคดี ก็มีหลายคำถามที่จะถาม ผบ.ตร.โดยตรง"
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ในกรณีคดีน้องชมพู่ ที่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้นั้น แล้วหากในครั้งนี้ถูกพักคดี จะมีความคล้ายคลึงกับคดีดังเมื่อปี 1996 ในประเทศสหรัฐฯ ในคดีของจ็อนเบอเน แรมซีย์ นางงามเด็กวัย 6 ปี หายไปจากบ้าน โดยหลังจากที่ลูกสาวหายไป พ่อแม่โทรถามญาติให้ช่วยค้นหา จนกระทั่งมาพบศพของลูกสาว ถูกฆ่าด้วยสายรัดคอภายในห้องใต้ดินของบ้าน โดยสภาพมีลักษณะศพถูกข่มขืน และพบวัตถุพยานหลักฐานเป็นลักษณะเส้นขน
หากถูกพักคดีจริง ส่วนตัวต้องตั้งคำถามกลับว่า เร็วไปหรือไม่? ถ้าคดีจะถูกพัก เพราะว่าล่าสุดมีการเปิดหลักฐานคลิปเสียง ของหมอปลาที่ค่อนข้างเป็นประโยขน์ และมีข้อสันนิษฐานใหม่ ส่วนตัวยังเห็นสมควรให้สืบคดีต่อไป หากถูกปิดไปแล้วไม่เกิดหลักฐานใหม่ ไม่มีการพูดถึงคดีน้องชมพู่ ในบริบทประเทศไทยอาจจะหายเงียบไปในที่สุด
นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “คุณหมอสตอรี่” เปิดเผยว่า จากเคสนี้ใช้เวลาในการสืบสวนยาวนานกว่าเคสทั่ว ๆ ไป ในเมื่อผ่านมา 5 เดือน แล้วผลในทางนิติวิทยาศาสตร์ยังแสดงได้ไม่ชัดเจน และประวิงเวลาต่อไปอีก หลักฐานทางวัตถุพยานก็ยิ่งจะลดน้อยลงหรือเรือนลางกว่าเดิม ยิ่งยากที่จะหาคำตอบที่แท้จริง
ทั้งนี้ตนเชื่อว่ายิ่งพักคดี หลักฐานยิ่งเลือนลาง เชื่อถือไม่ได้ ทำให้ไม่มั่นใจในระบบของตำรวจ ในการติดตามจับคนร้ายว่า ทำไมคดีน้องชมพู่ถึงจับคนร้ายไม่ได้ เพราะหลายคดียังจับคนร้ายได้
เมื่อสรุปความเห็นการพักคดีในมุมมองของแพทย์ โดยนพ.วรีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ มศว บอกว่า "หากมีการพักคดี คิดว่าเร็วไป เพราะยังมีหลักฐาน และข้อสันนิษฐานใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี" ส่วนหมอกอล์ฟ บอกว่า "ถ้าพักคดี หลักฐานทางวัตถุพยานก็ยิ่งจะลดน้อยลงหรือเรือนลางกว่าเดิม"
พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล เปิดเผยว่า ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ผลนิติวิทยาศาสตร์ 99% เหลืออีก 1% ทางเส้นผม จะเป็นอย่างไร แต่คิดว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ มีความมั่นใจสูงเรื่องนิติวิทยาศาสตร์ จึงได้แต่ภาวนาให้คดีนี้ประสบความสำเร็จได้ตัวคนร้ายจากผลตรวจทางนิติวิทยาศาตร์
แต่ตนไม่ได้เป็นตำรวจที่ร่วมทำคดีนี้ เป็นแค่เพีงผู้วิเคราะห์ สังเกตการณ์ ไม่รู้ว่าการเก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ว่า เก็บจากจุดไหน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงมีความมั่นใจมากว่า จะถึงตัวคนร้ายถึง 100%
สารวัตรแรมโบ้ บอกอีกว่า ตนก็ช่วยในอีกทางหนึ่ง ยืนยันเหมือนเดิมว่า ถ้าไม่มีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ก็ยังมีพยานบุคคลที่สามารถจะเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้าย เรื่องการตั้งเงินรางวัลนำจับจากหลักแสนให้ได้ถึงหลักล้าน ตนมั่นใจเหมือนเดิมจากการวิเคราะห์ว่า คนร้ายทำงานคนเดียวไม่ได้ คนร้ายคดีน้องชมพู่ทำงานเป็นทีม แล้วก็ช่วยกัน แบกศพไปไว้ที่จุดสูงสุด แล้วก็มีการวางแผน จัดฉากทุกอย่าง แม้กระทั่งรถเด็กเล่น กางเกงที่น้องชมพู่ใส่ ไม่มี DNA ไม่มีคราบปัสสาวะ อุจจาระ จะต้องทำงานกันหลายคน หนึ่งคนจะไม่สามารถแบกศพน้องชมพู่ขึ้นบนยอดเขา
ทั้งนี้ตนยืนยันว่าน้องชมพู่ไม่ได้หายตัวตอนกลางวัน ถ้าตอนกลางวัน คนที่ตามขึ้นไปต้องเห็นแน่นอน แล้วน้องชมพู่ตายจากด้านล่างแล้ว ดูจากแผลด้านหลัง ดังนั้นคิดว่ามั่นใจว่าเงินรางวัลก้อนนี้สัก 1 ล้าน 2 ล้าน คนร้ายคนใดคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้เห็น หรือกระทำผิดด้วย จะออกมาปรากฏตัว ปิดคดีได้อย่างสมบูณ์แบบ
นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “คุณหมอสตอรี่” เปิดเผยว่า หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ ตำรวจบอกว่าคืบหน้า 99% อีก 1% ยังเหลือผลตรวจเส้นผมที่หล่นอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพมีความสำคัญ เพราะน้องชมพู่เดินขึ้นเขาเองไม่ได้ เส้นขนใกล้ศพก็น่าจะเป็นของคนร้ายที่พาน้องขึ้นมา หากผลตรวจว่าเป็นขนของใคร ก็น่าสงสัยว่าคนนั้นน่าจะเป็นคนร้าย
แต่ทุกอย่างทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีอะไร 100% เหตุผลที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ออกมาพูดแบบนี้ น่าจะมั่นใจ และมีผู้ร้ายในใจ จึงเหลือ 1% เอาไว้ เผื่อคนร้ายเป็นคนที่สังคมกำลังชื่นชอบ ประชาชนทั่วไปอาจจะไม่ชอบตำรวจ ชาวบ้านจะว่าตำรวจไม่ได้ จึงเหลือไว้ 1%
ขณะที่นายเกียรติพงษ์ ปามี หรือลุงแต ชาวบ้านกกกอก และเจ้าของร้านชำที่น้องชมพู่ไปซื้อของวันหายตัว ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ส่วนตัวแล้วก็ไม่รู้ว่า หากมีการแถลงข่าวคดีน้องชมพู่พรุ่งนี้ จะมีแนวโน้มในการพักคดีหรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีการพักคดี ชาวบ้านก็มีความรู้สึกหวาดกลัว เพราะยังจับคนร้ายไม่ได้ กลัวประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้นซ้ำรอย หลังจากนี้ชาวบ้านก็คงต้องช่วยกันระมัดระวังในการใช้ชีวิตกัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าพรุ่งนี้มีการเปิดเผยผลตรวจดีเอนเอจากเส้นผม แล้วเป็นผลดีเอนเอตรงกับคนในหมู่บ้าน ตนก็อยากจะถามว่า ทำไมเขาถึงก่อเหตุได้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามความเห็นของหมอปลา หรือ นายจิรพันธ์ เพชรขาว ที่บ้านพักใน จ.เพชรบุรี ว่ามีความกังวลหรืออยากจะฝากประเด็นใดเพิ่มในการแถลงข่าวของผบ.ตร.ในครั้งนี้
หมอปลา บอกว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ท่านผบ.ตร.เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ ก็อยากให้ท่านโชว์ผลงานในการติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้ สิ่งที่ตนได้คุยกับลุงพลและทนายในกรณีนี้ก็คือ กลัวว่าตำรวจจะแขวนคดี ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เวลาที่ผ่านมา 4 เดือนน่าเสียดาย
อีกทั้งคลิปเสียงที่ตนได้มอบให้กับผู้การตำรวจจังหวัดมุกดาหาร ก็ไม่รู้ว่า ผบ.ตร.ท่านใหม่ได้ฟังหรือยัง ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสืบสวนสอบสวน เพราะที่ผ่านมาตำรวจไม่รับความร่วมมือจากบุคคลในพื้นที่เกี่ยวกับการให้ข้อมูลทางคดี
ประกอบกับ 4 เดือนที่ผ่านมา มีการไปค้นรถค้นบ้านลุงพล โดยที่ไม่มีการขออนุมัติหมายค้นจากศาล และมีการพุ่งเป้าโดยให้บุคคลคนหนึ่งให้ข่าวว่า สงสัยตัวลุงพล ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อลุงพลและผิดขั้นตอนของกฎหมาย ถือว่ามีเจตนาเพื่อต้องการอะไร จึงอยากได้ความกระจ่าง โดยสรุปคือพวกตนไม่ต้องการให้มีการแขวนคดี แต่ต้องการให้เร่งรัดจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้