สรุปไทม์ไลน์มหากาพย์คดี "น้องชมพู่" หลังผ่านไป 144 วัน พร้อมกับปริศนาการเสียชีวิตที่สังคมต่างเฝ้าติดตามรอบทสรุป
ผ่านมา 144 วัน สำหรับมหากาพย์การเสียชีวิตปริศนาของ "น้องชมพู่" ที่หายออกจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อน จะพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร มีตัวละครและเหตุการณ์เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ และคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา และนี่คือไทม์ไลน์ ที่ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รวบรวมมาให้ เพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น จนกระทั่งถึงวันนี้ที่ พล.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.คนใหม่ป้ายแดง จะแถลงสรุปคดี
วันที่ 11 พ.ค.63
"น้องชมพู่" ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา วัย 3 ขวบ หายตัวปริศนาจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.63 ชาวบ้านได้ช่วยกันออกตามหา และบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่าเจ้าเขาให้เปิดทางหาตัวเจอ
วันที่ 14 พ.ค.63
ยายตุน เดินเท้าขึ้นไปหาของป่าบนเทือกเขาภูพานน้อย ก่อนแจ้งเบาะแสว่า พบรองเท้าเด็กสีเขียวตกอยู่กลางป่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบและค้นหาในพื้นที่ใกล้เคียงก่อนพบร่างของน้องชมพู่ อยู่ในสภาพเปลือยกาย แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์
วันที่ 15 พ.ค.63
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพน้องชมพู่ ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมีผู้นำตัวน้องชมพู่ เข้าไปในป่า เด็กไม่น่าจะพลัดหลงเข้าไปเอง ซึ่งครอบครัวของน้องชมพู่ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับใคร ผลชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการล่วงละเมิดทางเพศ
วันที่ 18 พ.ค.63
นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เผยว่า ผลการชันสูตรศพน้องชมพู่ รอบ 2 มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจ สภ.กกตูม นำตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 7 คน เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบ ทั้งนี้มีพยานแก๊งจำปาซึ่งเป็นเด็กในหมู่บ้านอ้างว่า เห็นผู้ชายสวมเสื้อสีส้ม อุ้มน้องชมพู่หายไปในไร่มัน
วันที่ 19 พ.ค.63
แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ยืนยันผลการตรวจชันสูตรน้องชมพู่ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศซึ่งไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ว่าเกิดจากถูกทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือสาเหตุใด
วันที่ 20 พ.ค.63
ครอบครัวได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ น้องชมพู่ โดยชาวบ้านในชุมชนช่วยกันจัดทำบ้านไม้ไผ่มุงหลังคาด้วยหยวกกล้วย ประดับด้วยดอกขี้ผึ้ง และยัง นำอาหาร ของใช้จำเป็น ขนม สิ่งที่น้องชมพู่ชอบใส่เข้าไปในบ้านไม้ไผ่ แห่ในขบวนเคลื่อนศพน้อง ไปที่ป่าช้าของหมู่บ้านเพื่อทำพิธีฌาปนกิจบนกองฟอน
วันที่ 1 มิ.ย.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ในขณะนั้นเผยว่า ตำรวจคัดแยกกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น ต้องรอผลจากนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด โดยที่โลกออนไลน์และประชาชนที่ติดตามข่าวบางส่วนได้ชี้เป้าไปที่ "ลุงพล"
วันที่ 4 มิ.ย.63
ลุงพล ถูกตำรวจนำตัวไปสอบปากคำ 12 ชั่วโมง และยังมีการนำตัวไปชี้จุด เล่าลำดับเหตุการณ์ และถ่ายภาพประกอบเหมือนการทำแผน
วันที่ 7 มิ.ย.63
ชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 100 คน ที่ออกตามหาน้องชมพู่ จำลองเหตุการณ์เสมือนจริง ในช่วงเวลาที่ขาดหายไประหว่างการติดตามตัวน้องชมพู่เกือบ 40 นาที ซึ่งพยานและบุคคลต้องสงสัยให้การไม่สอดคล้องกัน
วันที่ 7 ก.ค.63
"ลุงพล" ไปออกรายการโทรทัศน์ พร้อมเปิดใจกรณีตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องชมพู่ ลุงพลยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าล้านเปอร์เซ็นต์ รักน้องชมพู่เหมือนลูกตัวเอง และยังตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมของพ่อแม่น้องชมพู่
วันที่ 9 ก.ค.63
พ่อแม่ "น้องชมพู่" รับคำท้า "ลุงพล" ทำพิธีสาบานต่อหน้าวัดพระแก้ว ยืนยันไม่ได้เป็นคนฆ่าลูก ด้านลุงพล ไปสาบานต่อหน้า "หลวงปู่ลิ้น" วัดถ้ำภูผาแอก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เป็นคนฆ่าหลาน
วันที่ 10 ก.ค.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ยืนยันว่า เรื่องข้อมูลของ "น้องสะดิ้ง" พี่สาวน้องชมพู่ไม่น่าส่งผลต่อรูปคดี คดีมีความคืบหน้าไปแล้ว 80% แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีน้อยมาก โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 900 กว่าปาก และในวันเดียวกัน พ่อแม่น้องชมพู่, ตายาย และน้าแต ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ชี้แจงข้อสงสัยของสังคมในหลายเรื่อง
วันที่ 21 ก.ค.63
พบ "เสื้อสีส้ม" ซุกอยู่ข้างกอไผ่ ใกล้ที่พบศพ "น้องชมพู่" บนภูเหล็กไฟ แต่วันต่อมามีเจ้าของมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ โดยระบุว่าเป็นเสื้อของตน แต่ถอดเสื้อทิ้งขณะไปหาหน่อไม้ตั้งแต่ปลายปี 2562
วันที่ 28 ก.ค.63
ตายาย "น้องชมพู่" นำลูก หลาน ลูกเขย และคนในครอบครัว ดื่มน้ำสาบานที่วัดถ้ำภูผาแอก ขณะที่ลุงพลและป้าแต๋นได้กล่าวคำสาบาน แต่ไม่ยอมดื่มน้ำสาบาน โดยยืนกรานว่าจะไปดื่มที่วัดพระแก้วเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ ลุงพล ปักธูปกลับหัว ซึ่ง "หมอปลา" เป็นคนแนะนำให้ลุงพลทำไปเพื่อแก้คุณไสย จากผู้ไม่หวังดี ทำให้กลุ่มชาวบ้านบ้านกกกอกรู้สึกไม่พอใจที่ลุงพลปักธูปกลับหัว เป็นการลบหลู่ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน
วันที่ 18 ส.ค.63
ตำรวจได้นำกล้องหน้ารถของ น้าเสริม ซึ่งเป็นน้าชายของ น้องชมพู่ ไปตรวจสอบเหตุการณ์ในวันที่น้องชมพู่หายตัว โดยน้าเสริมและน้าต่าย ภรรยา ได้ระบุว่า มีกระแสข่าวเรื่องผู้ต้องสงสัย ส.กับ ต. แต่พวกตนไม่กังวลอะไร ยังใช้ชีวิตตามปกติ
วันที่ 26 ส.ค.63
เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัว พ่อน้องชมพู่ สอบปากคำ
วันที่ 2 ก.ย.63
ชาวบ้านกกกอกได้ไปทำบุญที่วัดกกกอกในงาน "ห่อข้าวสาก" เป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว แม่ชมพู่ ได้ทำบุญให้ลูก พร้อมพูดปริศนา มีพยานแล้ว แต่หลักฐานต้องไปหามาเยอะ ๆ เพื่อให้จับคนร้ายได้
วันที่ 3 ก.ย.63
แม่น้องชมพู่ โต้ข่าวได้เงินบริจาค 3 ล้านบาท และไม่มีการฮั้วตำรวจให้พลิกคดี ขณะที่ลุงพลเผยว่า ไม่ได้มีความกังวลเรื่องนี้ แต่ความจริงมันแก้ไขไม่ได้ ซึ่งหากแม่น้องชมพู่ไม่เป็นพยานช่วงวัดจีพีเอส ตนก็ยังมีแม่ถอน กับนายม็อคที่เป็นพยาน รวมทั้งพ่อตา แม่ยาย แต่ตนไม่กังวล เพราะความจริงมันเปลี่ยนไม่ได้อยู่แล้ว
วันที่ 22 ก.ย.63
พยานออกมายืนยันพ่อแม่ขึ้นเขาหาชมพู่จริง ด้านลุงพลจับมือทนายรัชพล ศิริสาคร มอบคลิปเสียงเป็นหลักฐานกับตำรวจ โดยภายในคลิปเสียงมีด้วยกันหลาย EP โดย EP แรกมีการโยงคดีให้เกี่ยวข้องกับลุงพล เพื่อล่อให้คนร้ายตัวจริงตายใจ EP 2 มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการรีบร้อนเผาศพน้องชมพู่ EP 3 มีการพุดคุยเรื่องการออกไปค้าหาน้องชมพู่ในช่วงตี 2 EP 4 เป็นการพูดคุยเรื่องคนในครอบครัวน้องชมพู่เมาแล้วพูดถึงผู้ต้องสงสัย และ EP พิเศษ ในคลิปมีเสียงพูดคุยเรื่องใครบางคนขึ้นเขาไปในเวลาตี 3 และในอดีตเคยมีคนในชุมชนขัดแย้งกับบุคคลคนหนึ่ง
วันที่ 23 ก.ย.63
นายธนกฤต หลาบโพธิ์ สามีผู้ใหญ่บ้านขัวสูง ในฐานะพยานของพ่อน้องชมพู่ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีตำรวจเดินทางมาหาในสวนยาง มาสอบถาม เพื่อยืนยันเวลาที่เจอพ่อน้องชมพู่บนถนน โดยตนยืนยันดังเดิมว่าเจอจริง แต่ไม่ได้เจอที่นาตามที่พ่อให้ข้อมูล และจะขอเป็นพยานให้ในส่วนที่พบเห็นเท่านั้น ส่วนเรื่องคลิปเสียง 5 คลิป ที่ปล่อยออกมา ตนได้ฟังครบทั้งหมดแล้ว คนในคลิปก็คือ ผู้ใหญ่นิ่ม ตนสนิทมาตั้งแต่เด็ก และการพูดเกี่ยวกับคดีก็เป็นความจริงทั้งหมด ไม่ใช่ข้อมูลเท็จ เป็นการพูดออกมาด้วยความอึดอัดใจ ที่เจอแรงกดดันหลายฝ่าย ทั้งอำเภอ ทั้งตำรวจ ผู้ใหญ่จึงยอมเล่าหมดเปลือกแบบไม่ได้คิดถึงผลกระทบ
วันที่ 26 ก.ย.63
ลุงพล เข้าพบกับตำรวจชี้แจงเรื่องกระสอบท้ายรถ ยืนยันว่าเป็นกระสอบข้าว นอกจากนี้ ลุงพล ป้าแต๋น พร้อมด้วยทนายรัชพล ทนายโนบิตะ และหมอปลา ได้มอบหลักฐานเป็นแผ่นซีดีบันทึกเสียงสนทนาให้กับตำรวจ โดยภายในมีไฟล์คลิปเสียงความยาว 59 นาที จำนวน 1 ไฟล์ และไฟล์คลิปเสียงความยาว 1-3 นาที จำนวน 5 ไฟล์ ซึ่งหมอปลาระบุว่า คลิปที่นำมามอบให้เป็นประโยชน์ทางคดีอย่างมาก และไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด
วันที่ 1 ต.ค.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. นัดแถลงสรุปคดี "น้องชมพู่" ในวันที่ 2 ต.ค. พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม ในประเด็นต่าง ๆ ที่สงสัย โดยจะอธิบายถึงบทสรุปทางคดี ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ และจะมีการแจกคลิปวิดีโอพรีเซนเทชั่นเล่าถึงเชื่อมโยงต่าง ๆ ส่วนเรื่องพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีความคืบหน้าไปประมาณ 99% อีก 1% คือ ยังเหลือผลตรวจเส้นผมที่หล่นอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพน้องชมพู่ ซึ่งส่งไปตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ เพื่อตรวจหาเจ้าของเส้นผมดังกล่าว
วันที่ 2 ต.ค.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เผยว่า ณ วันนี้สำนวนการสืบสวนมีความหนา 918 หน้า ยืนยันว่าน้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเอง คาดว่าเสียชีวิตเพราะขาดน้ำและอาหาร เพราะผลชันสูตรไม่พบบาดแผลที่ทำอันตรายจนถึงแก่ชีวิต หรือร่องรอยการถูกล่วงละเมิด นอกจากนี้ ดีเอ็นเอจากเส้นผมก็มาทางฝั่งสายของแม่ ถึงแม้วันนี้จะยังจับคนร้ายไม่ได้ แต่ตำรวจจะพยายามหาหลักฐานต่อไป