ถูกจับตามองถึงความสนิทสนมที่ดูหวานเกินพี่น้อง สำหรับ "สิงห์ วรรณสิงห์" นักเขียน-พิธีกรหนุ่มชื่อดัง กับ นางงามสาว "มารีญา พูลเลิศลาภ" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เพราะมีภาพของทั้งคู่ไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันบ่อยๆ แถมล่าสุดเกิดแฮชแท็ก #แฟนหวง ในแคปชั่นใต้ภาพในไอจีของ มารีญา จนแฟนๆ ของนางงามสาวสวย ต้องขอทวงคืนสมบัติของชาติกับวรรณสิงห์ ว่าแต่ลงรูปให้ภาพได้เล่าเรื่องไปไกล แต่ยังไม่เคยพูดหรือให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องหัวใจที่ไหน รายการ ต้มยำอมรินทร์ จึงได้เชิญหนุ่มที่ใครหลายคนกำลังอิจฉา มาเป็นแขกรับเชิญคนสำคัญพูดคุยอัปเดตสเตตัสหัวใจที่กำลังเป็นสีชมพูอยู่ตอนนี้ พร้อมกับเล่าประสบการณ์ชีวิตที่สุดท้าความตายใน เถื่อน travel
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดชีวิตดนตรีหลายทศวรรษของ "แต๋ม ชรัส เฟื่องอารมย์" ชีวิตนี้ขาดเสียงเพลงไม่ได้
- "เบคกี้ ริสา" จากอดีตพิธีกรดาวรุ่ง ขึ้นแท่นผู้บริหาร 8 องค์กร!
- "เต็งหนึ่ง คณิศ" เผยสาเหตุหันหลังให้วงการบันเทิง!
- "ดาว มยุรี" เตรียมปล่อยเพลงใหม่ ถ้าไม่ปังจะเลิกร้องเพลง!!
- "ปีเตอร์" ขอทุ่มชีวิตนี้เพื่อลูก แต่ไม่ได้ปิดโอกาสให้ตัวเองมีคนดูแล
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เคยนับไหมว่า 365 วัน อยู่บ้านน้อยสุดกี่วัน
สิงห์ วรรณสิงห์ : ผมเริ่มทำรายการตั้งแต่ปี 2009 นะครับ แล้วมันมีพีคช่วง 2016 – 2017 ประมาณนี้ครับ ที่โหดสุดคือเพราะผมทำรายการเดี่ยวพร้อมกันสองรายการเกี่ยวกับการเดินทาง ผมเดินทางปีละ 14 ทริป เกิน 1 ทริปต่อเดือน เพราะเดือนหนึ่งผมเดิน 14 - 15 วัน แล้วเป็นแบบนี้สองปีติดกัน กลับบ้าน หมาจำหน้าไม่ได้ เรารู้สึกว่าเราเดินทางช่วงนั้นเหมือนกะลาสีเรือ กลับมาซักผ้าแล้วก็ออกเดินทางอีก สำหรับตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันส์กับชีวิตมาก แต่ตอนนี้ถ้าให้ไปทำแบบนั้น เราก็รู้สึกว่าเหนื่อยไปแล้ว
สิงห์ วรรณสิงห์ : จุดขายของรายการนี้คือเราไปที่ที่คนไม่อยากไป ไม่มีใครคิดจะอยากไป ผมทำด้วยตัวของผมคนเดียว ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีคนดูหรอก แต่สุดท้ายก็มีคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตเดินทางช่วงนั้น ทำเราได้เห็นอะไรที่เยอะมาก จริงๆ ธรรมชาติที่เราไม่ได้เห็น เราก็เห็นมาเยอะมากแล้ว เช่น ปี 2019 ผมไปกินข้าวอยู่กลางกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ผมไปแฮงค์เอ้าท์กับมนุษย์กินคนที่ ปากัวกินี ผมข้ามทะเลทรายซาฮาร่า 24 วัน ข้ามโดยรถครับ เพราะเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ ในทะเลทรายนี้มีประเทศอยู่ 11 ประเทศเลยนะครับ ระหว่างที่เดินทางก็มีเมืองให้แวะ หรือไม่ก็กางเต็นท์นอนกลางทะเลทราย ซึ่งเขามีอารยาธรรมมีประวัติศาสตร์อะไรที่เราเคยรู้เยอะมาก
ถาม มีสถานที่ไหนที่ไปแล้วประทับใจที่สุด
สิงห์ วรรณสิงห์ : เถื่อน travel เริ่มต้นจากความสงสัยของผมเองว่าสงครามเขาอยู่กันยังไง อะไรคือสงคราม แล้วประเทศที่ทำสงครามที่ผมไปประเทศแรกคืออัฟกานิสถาน ผมไปอยู่ที่นั่น สองสัปดาห์ททริปแต่ละทริปก็จะมีความเสี่ยงืรายการของเราดูข้างนอกเหมือนรายการผจญภัย เสี่ยงอันตราย จริงๆ เราต้องการขายแบบนั้น แต่ผมไม่ได้อยากตายนะ แต่ผมอยากรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีอะไรอยู่ในนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อยากรู้อยากเห็นในชีวิตพอดี โดยที่เราเอาความอยากรู้อยากเห็นมันมากพอที่จะเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น โดยที่เวทความเสี่ยงไว้แล้ว
ถาม แล้วช่วงที่เราต้องไปอัฟกานิสถาน คุณแม่ว่ายังไง
สิงห์ วรรณสิงห์ : แม่ก็จะบอกว่าเดี๋ยว สิงห์ ช่วยเอาแผนที่มากางให้แม่ดูหน่อย ตั้งแต่เดินทางมา 11 ปี 75 ประเทศ มีแค่ประเทศเดียวที่แม่ขอว่าอย่าไปคืออัฟกานิสถานนี่แหละ เพราะว่าที่นั่นคือวอร์โซน แม่ไม่เคยคิดว่าลูกจะไปวอร์โซน แต่หลังจากที่เราไปแล้วแม่ก็ปล่อยให้เราไปเลย ไม่ห้ามแล้ว
ถาม แล้วมีครั้งไหนที่เคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดไหม
สิงห์ วรรณสิงห์ : มีหลายแบบครับ แบบถนนที่เราขับผ่านเมื่ออาทิตย์ก่อนระเบิดลง หรือว่าทางที่เราจะไปพรุ่งนี้ มีคนโดนลักพาตัวพอดี ต้องเปลี่ยนเส้นทางไป ยังไม่เคยเจออะไรที่แรงร้าย เคยรถติดหล่มที่กลางทะเลทรายอยู่ 5 ชั่วโมงคนเดียว ตอนแรกเราก็พยายามขุดเอารถขึ้นมาจากทรายก่อน ขุดเท่าไหร่โยกเท่าไหร่ก็ไม่ออกมาแล้วก็ผมจำได้ตอนที่ผมขับผ่านมามีรถอีกคันติดหล่มอยู่เหมือนกับเราซวย ไม่ได้แวะช่วยเขา กรรมตามทัน ผมเลยเดินย้อนกลับไปกิโลกว่าๆ แล้วก็เจอเขาติดหล่มอยู่ก็เลย แฮงค์เอ้าท์กับเขา เขามีโทรศัพท์ดาวเทียมเขาเลยโทรเรียกให้คนมาช่วย เราเลยได้อานิสงส์นั้นด้วย
ถาม เดินทางมา 75 ประเทศ และไม่เคยอยู่เมืองไทยเลย แต่ว่าช่วงนี้อยู่ในประเทศไทยมากที่สุด
สิงห์ วรรณสิงห์ : ใช่ครับ การเดินทางสุุดท้ายของผมคือช่วงปลายกุมภาพันธ์ปีนี้ ไปประเทศไซเบีย กลับมาต้นมีนาคม จากนั้นก็อยู่ประเทศไทยยาวๆ เลย แต่เป้าหมายของผมปีนี้ ตั้งใจทำเรื่องสิ่งแวดล้อม แล้วเราจะไปออสเตรีย ฟิจิ เพื่อเอาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่คนไทยยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างทั่วโลกมาให้ดู ทั้งไฟป่า ทั้งเกาะที่กำลังจมในแปซิฟิกและอีกหลายอย่างที่เราจะไป ปีนี้มีแพลนจะไปปากีสถาน ที่ตอนนี้อุณหภูมิในเมืองเกิน 50 องศาขึ้นไปแล้ว มีแพลนจะไปปีนยอดเขา แต่ทุกอย่างต้องยกเลิกทั้งหมด เปลี่ยนแผนเดินทางในประเทศไทยแทน ช่วงต้นๆ โควิด อย่าเรียกว่าในประเทศในเลย ในกรุงเทพก่อนเลยครับ เพราะจะมี 1 เดือนที่เรานั่งเฉยๆ อยู่ที่บ้าน ไม่ใช่ผมแค่คนเดียว แต่เป็นทุกคนเจอสิ่งนั้น พอเรากลับมาดู เราเป็นนักเล่าเรื่องอยู่ เราไม่จำเป็นต้องเดินทางเราก็เล่าเรื่องได้ ผมเลยได้ทำรายการ โควิดฮีโร่ ขึ้นมา แต่อยู่ในช่องยูทูบ เถื่อน travel แนวสารคดีทั้งหมด เราก็ค่อยๆ คิดประเด็นมาในประเทศเยอะขึ้น แต่เราก็อยากทำเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่ดี เราจึงได้ทำ เถื่อน travel Thailand ขึ้นมา สิ่งแรกที่เราทำคือไฟป่าที่เชียงใหม่ เราทำประเด็นสิ่งแวดล้อมเรื่องนี้กัน เลยรู้สึกดีเหมือนกันที่ Shut down ต่างประเทศ แล้วเราก็ได้มุ่งมาทำประเด็นในบ้านเรา
ถาม แต่ในการทำเรื่องสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย มีแรงจูงใจจนต้องทำ คือ มารีญา ใช่ไหม
สิงห์ วรรณสิงห์ : อันนี้ก็เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมครับ จริงๆ เขาติดต่อเรามาก่อน เขากำลังเริ่มทำโครงการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอยู่ ชื่อว่า SOS EARTH เขาก็ติดต่อเรามาให้ช่วยทำแคมเปญนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทำแคมเปญเกี่ยวกับเรื่องขยะกันมา ส่วนรูปที่ออกไปตามสื่อต่างๆ ก็อย่างที่เห็นครับท่านผู้ชม (หัวเราะแก้เขิน)
ถาม คุยกันไปคุยกันมาเรื่องงาน จนกลายมาคุยเรื่องส่วนตัว
สิงห์ วรรณสิงห์ : การมาคุยเรื่องสิ่งแวดล้อมมันก็ได้หลายอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสบายใจ นั่นแหละ
ถาม ประทับใจอะไรเขา
สิงห์ วรรณสิงห์ : ตอนแรกเราไม่ได้คิดว่าจะคุยหรืออะไรกันเลย เริ่มจากสิ่งแวดล้อมก่อน ตอนแรกเขาติดต่อผมมาจากทาง DM ของ IG สิ่งแรกที่ผมเห็นคือใครกันนะ คนติดตามตั้งห้าแสน เพราะเราไม่รู้จัก ไม่เคยดูประกวดอะไรอย่างนี้ เราขึ้นขั้นไปเลยว่าใคร มาเรียริน คือชื่อเขาภาษาอังกฤษ มารีญาคือชื่อในวงการ เราคุยกันตอนแรก เราไม่รู้สเตตัสเขาด้วยซ้ำ แต่พอๆ คุยๆ ไปเราก็อ๋อ!! คนนั้นเองที่ดังเมื่อ 2-3 ปีก่อน
ถาม ถามจริงๆ ตื่นเต้นไหม
สิงห์ วรรณสิงห์ : ยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะเรายังไม่เข้าใจการประกวด MUT ก็ดี หรือ มิสยูนิเวิร์ส อะไรยังไง เพราะคนสุดท้ายที่ผมรู้จักคือ พี่ปุ๋ย ครับ ขอโทษนะครับ แต่ผมก็บอกเขาไปหมดแล้ว ตอนแรกเราคุยกันเรื่องสังคมเยอะมากครับ
สิงห์ วรรณสิงห์ : แล้วคือผมเคยไปออก CLUB FRIDAY พี่อั๋น แล้วตอนนั้นได้บอกไปว่าชอบสาวหมวย แล้วตอนคุยกันแรกๆ เราไปบอกเขาอีกว่า You're not my type (หัวเราะแก้เขิน) คือตอนนั้นเราก็พูดแบบสไตล์วรรณสิงห์ ไม่มีความละเอียดอ่อนใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเราก็มาคิดทีหลัง ไม่น่าพูดเลยนะ
ถาม พอหลังจากลงรูปไปมีคนว่ายังไงบ้าง
สิงห์ วรรณสิงห์ : มีคนมาทวงคืน มารีญา หลายคนมาก บางคนไม่รู้จักผมแล้วเขามาคอมเม้นท์ในทวิตเตอร์ว่า ไอ้หนุ่มคนนี้มันเป็นใครถึงได้มาเคลมสมบัติของชาติไป (หัวเราะ)
ถาม เห็นหลายครั้ง ความสัมพันธ์มีปัญหาเพราะเราต้องเดินทางตลอด เมื่อผ่านพ้นโควิดไปเราเคยคิดไหมว่ามันจะต้องเป็นยังไง
สิงห์ วรรณสิงห์ : คือเราเดินไป 75 ประเทศทั่วโลกแล้ว ก่อนหน้าจะมาตรงนี้ก่อนหน้าที่จะมีโควิดกำลังหาโอกาสวางมืออยู่ประมาณหนึ่ง มาโฟกัสอะไรเพื่อประเทศมากขึ้น ก็ยังทำงานเหมือนเดิม งานเล่าเรื่อง งานสารคดี แล้วก็ทำเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ก่อนหน้านี้เราอาจตีโจทย์ไม่ออกว่าทำงานในประเทศ เราจะหาคอนเทนท์อะไร พอโควิดบังคับให้เราทำอันนี้ เลยได้ค้นพบทาง เรื่องต่างประเทศยังมีบ้าง แต่คงไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน เพราะใจเหมือนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
ถาม เพราะใจอยู่เมืองไทยแล้ว
สิงห์ วรรณสิงห์ : (หัวเราะแบบเขินๆ) ปิดๆ ได้ครับรายการ นอกจากจะฝาก เถื่อน travel แล้วขอฝากช่องยูทูบของ มารีญา เขาด้วย SOS EARTH เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน นอกจากผมแล้วยังมีพี่ป๋อมแป๋ม มีว่าน ไปช่วยด้วย เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์เรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยฝากด้วยนะครับ
สิงห์ วรรณสิงห์ : ขอบอกว่าเราอยู่ด้วยกัน เราก็คุยเรื่องนี้กันครับ นี่คือสิ่งที่ทำให้เราอยากคุยกันต่อด้วยครับ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญไง (ตอบแบบเขินๆยิ้มๆ) เพราะอยากให้รู้ไว้ว่าเรื่องความรัก มันไม่ใช่เป็นเรื่องฟุ้งฟิ้ง มุ้งมิ้ง อย่างเดียว บางทีบางเรื่องที่เราสนใจร่วมกัน เรื่องสังคมมันดึงคนเข้าหากันได้ มันสำคัญมากๆ เพราะสามารถดึงคนเข้าหากันได้มันใหญ่ไปเยอะมาก มันสำคัญมากๆครับ
Advertisement