มืออาชีพเขาไม่ทำกัน! "ทนายษิทรา" โพสต์ฉะทนายดังพา "ครูจุ๋ม" แจ้งความ

5 ต.ค. 63

"ทนายษิทรา" โพสต์ฉะทนายดังพา "ครูจุ๋ม" แจ้งความกลับผู้ปกครอง เหมือนราดน้ำมันลงกองไฟ ลั่นมืออาชีพเขาไม่ทำกัน

จากกรณีที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายความของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ อย่างเป็นทางการ พา "ครูจุ๋ม" ไปแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มผู้ปกครองที่ก่อเหตุรุมทำร้ายครูจุ๋มวันที่เผชิญหน้ากันครั้งแรก ที่มีการายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ทนายเดชา" ยืนเคียงข้าง "ครูจุ๋ม" สู้คดี
- ร้องอัยการฟ้องเรียกค่าเสียหาย 'สารสาสน์' จ่อออกหมายเรียก ผอ.รับทราบข้อหา
ทนายนิด้า-ทนายรณณรงค์ อาสาช่วยผู้ปกครองโดน "ครูจุ๋ม" แจ้งความทำร้ายร่างกาย
ครู-พี่เลี้ยง "สารสาสน์" เข้ามอบตัวอีก 4 ราย รับสารภาพทำร้ายเด็กจริง

ล่าสุดทางด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการกระทำของทนายดังเหมือนราดน้ำมันลงกองไฟ ทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น โดยระบุว่า

"ทุกวันนี้ผมได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจเยอะมากนะครับ แต่หลายครั้งผมตัดสินใจปฏิเสธทั้งที่ถ้าเลือกงานนี้ผลตอบแทนก็เป็นเงินมากโข แต่ด้วยถ้าทำแล้วไม่สบายใจ ขอไม่ทำดีกว่า แน่นอนครับ ทนายเลือกงานได้ ทั้งเป็นทนายโจทก์และทนายจำเลย

คดีแบบเด็กอนุบาลถูกทารุณกรรม ผมขอผ่าน ได้กี่บาท ก็ขอไม่รับ แต่ขอเสนอแนะในฐานะที่เป็นทนายให้ลูกเพจอ่านดูแล้วกันนะครับว่าถ้าผมเป็นทนายคดีครูจุ๋ม ผมจะทำแบบนี้

1. ออกแถลงขอโทษผู้ปกครองและสังคม โดยปราศจากข้อแก้ตัว รวมถึงเลิกโทษคนอื่น เก็บความเฟียส ความกร้าวใส่ลิ้นชักชั้นลึกที่สุด ผลร้ายมีมากกว่าผลเสียถ้าใช้อารมณ์
2. หาทางเยียวยาตามกฎหมาย ไม่ปกป้องคนกระทำผิด ปฏิรูปโรงเรียน เสนอมาตรการที่จะมีในอนาคต เพื่อยืนยันว่าเด็กนักเรียนจะมีสวัสดิภาพที่ดี ไม่ถูกทำร้ายแบบที่ผ่านมา
3. ไม่แจ้งความผู้ปกครอง ควรเข้าใจว่าเป็นลูกใคร ใครก็โกรธ แน่นอนว่า การทำร้ายร่างกายกันในที่สาธารณะ มันผิดกฎหมาย แต่อย่าลืม ว่าฝั่งโรงเรียนเป็นฝ่ายผิด แต่หาทางเจรจา ให้ครูนำดอกไม้ ของขวัญไปขอขมาผู้ปกครองรายคนโดยนอบน้อมที่สุด เขาจะรับหรือปฏิเสธไม่ใช่สาระที่สำคัญ แต่ผิดแล้วต้องรับผิดและแก้ไขไม่ใช่แก้ตัว
4. ให้ลูกความสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพื่อลดโทษ และเป็นการสำนึกผิด หลักฐานมันชัดเจนขนาดนี้ ไม่มีประโยชน์ที่จะแถ เสียทั้งภาพลักษณ์โรงเรียน และไม่แฟร์กับเด็กและผู้ปกครอง
สำหรับผม การพาลูกความไปแจ้งความ เหมือนราดน้ำมันลงกองไฟ ทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น เสียชื่อโรงเรียนไม่พอ จากฝ่ายโจทก์อาจจะเห็นความสำนึกผิด จะยิ่งโกรธแค้น และทำให้คดีอื่นๆ อีกเป็นพรวนเสียไปหมด ทนายมืออาชีพที่ว่าความที่ศาลจริง ไม่ใช่ศาลโซเชียล เขาไม่ทำกันหรอกครับ"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ