จากกรณีการ์ดคุมร้านอาหาร ป.กุ้งเผา สาขาหลักสี่-สะพานใหม่ ถนนเทพรักษ์ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. กว่า 10 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายชายวัยรุ่น 3 ราย จนได้รับอาการบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. เข้าวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่ สน.บางเขน กลุ่มการ์ดที่รุมทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิป เริ่มทยอยเดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว 9 ราย จากทั้งหมด 13 ราย
โดยมีเจ้าของร้านพร้อมผู้จัดการเข้ามาให้การด้วย และยังคงเหลือการ์ดคุมร้านที่ร่วมก่อเหตุอีก 4 ราย ผู้ก่อเหตุทั้ง 13 คน มีทั้งพลเรือน และข้าราชการ แต่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยว่าเป็นข้าราชการสังกัดไหน
ส่วนผู้บาดเจ็บ มี 3 คน ได้แก่ 1.สิบตรวจเอกเชิดชาย ยอดเจริญ เจ้าหน้ากองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจ 191 ได้รับบาดเจ็บตรงปากแตก และศีรษะโน
2.สิบตำรวจเอกเอกวัฒน์ แก้วปีลา สังกัดทางหลวงชลบุรี ได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณศีรษะ และเจ็บหน้าอก
3.นายจตุรงค์ บุญเพ็ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้รับบาดเจ็บปากแตก ฟันหน้าโยก
โดยเหตุการณ์เบื้องต้น กลุ่มผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 คน นั่งดื่มอยู่ภายในร้าน ทั้ง 3 คนอยู่ในอาการมึนเมา ขณะเดียวกันโต๊ะข้าง ๆ เป็นโต๊ะตำรวจ 4-5 คน ทางกลุ่มผู้บาดเจ็บนั่งเต้นกันอยู่ที่โต๊ะแล้วเหล้ากระเด็นไปหกใส่ โต๊ะของตำรวจข้าง ๆ กลุ่มตำรวจไม่พอใจ จึงได้มีปากเสียกับกลุ่มผู้บาดเจ็บ ขณะนั้นการ์ดในร้านเห็นว่ากลุ่มผู้บาดเจ็บจะสร้างความวุ่นวายกับกลุ่มลูกค้า จึงเดินเข้าไปห้าม แต่กลับถูกกลุ่มผู้บาดเจ็บด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย การ์ดจึงตัดสินใจลากกลุ่มผู้เสียหายออกมานอกร้าน
จากนั้นถึงบริเวณเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้ด่าทออีกครั้ง และหนึ่งในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บยังได้ใช้ศอก ศอกใส่มุมปากซ้ายของการ์ดที่ชื่อนายอ้วน เป็นเหตุทำให้กลุ่มการด์ไม่พอใจ จึงรุ่มกระทืบกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างที่ปรากฏในคลิป
เบื้องต้นตำรวจแจ้งเพียง 1 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และยังรอผลตรวจร่างกายของผู้บาดเจ็บ ว่าจะมีอาการสาหัสหรือไม่ ซึ่งกลุ่มการ์ดปฏิเสธไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชน
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจได้ส่งตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนไปตรวจร่างกายที่ รพ.ภูมิพล สิบตรวจเอกเชิดชาย หนึ่งในผู้บาดเจ็บพูดเพียงสั้น ๆ ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว และไม่เคยรู้จักกับกลุ่มของการ์ดมาก่อน ส่วนผลตรวจร่างกายน่าจะได้ในเร็ว ๆ นี้ หากแพทย์ลงความเห็นว่าบาดเจ็บถึงขั้นสาหัส ก็จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหาต่อไป
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายจุ้ย นายจุ้ย หัวหน้าชุดของการ์ดของสถาบันเทิงดังกล่าว และผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้บาดเจ็บที่มีจำนวน 3 คน เป็นตำรวจ 2 คน ได้ทะเลาะวิวาทกับลูกค้าโต๊ะด้านข้าง ที่เป็นตำรวจเช่นเดียวกัน โดยมีการสาดเหล้าใส่กัน แล้วตนในฐานะคนที่กำกับดูแล ก็เลยเข้ามาตักเตือนและพยายามระงับเหตุไม่ให้บานปลาย แต่กลับถูกกลุ่มผู้บาดเจ็บด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย
หลังจากนั้นทางการ์ดเลยนำตัวทั้ง 3 คนออกมาจากนอกร้าน แต่ทั้ง 3 คน ก็ยังไม่ยอมหยุดหาเรื่อง และไม่ยอมกลับบ้าน และ 1 ใน 3 คนนี้ ก็ได้สับศอกอย่างแรงไปที่ปากของการ์ดคนหนึ่งชื่อว่านายอ้วน จนปากแตก ทำให้เพื่อนการ์ดทุกคนทนไม่ไหว เลยรวมกลุ่มกันมากระทืบกลุ่มผู้บาดเจ็บอย่างที่ปรากฏในคลิป
ทั้งนี้ ยืนยันว่ากลุ่มของตนถูกกระทำก่อน และกลุ่มผู้บาดเจ็บไม่ให้เกียรติกับกลุ่มการ์ดของร้าน ทั้ง ๆ ที่กลุ่มการ์ดทำตามระเบียบทุกอย่าง และตลอด 10 ปีตนไม่เคยทำร้ายลูกค้าแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากนี้ยอมรับในสิ่งที่ตนกระทำ และขอโทษที่ทำเกินกว่าเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บได้ฝากมีดและสนับมือเอาไว้ ส่วนอาวุธปืนคาดว่าน่าจะนำไว้ที่รถ
นอกจากนี้เวลา 15.30 น. กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน ได้เดินทางกลับมายังสน.บางเขน โดยเข้ามาสอบปากคำอีกครั้ง ทางสิบตำรวจเอกเอกวัฒน์ แก้วปีลา สังกัด ทางหลวงชลบุรี ได้เผยเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่ได้มีการทะเลาะกับตำรวจโต๊ะข้าง ๆ และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ขณะนั้นพวกตนกำลังจะขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ถูกทำร้ายร่างกายก่อน โดยไม่บอกสาเหตุที่ถูกทำร้าย
ส่วนสิบตรวจเอกเชิดชาย ยอดเจริญ เจ้าหน้ากองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจ 191 ได้ปฏิเสธให้การสัมภาษณ์
ทีมข่าวเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณร้าน ป.กุ้งเผา หลักสี่-สะพานใหม่ พบว่าบริเวณที่เกิดเรื่องเป็นทางเข้าออกของร้าน ป.กุ้งเผา ทีมข่าวเดินเข้าไปภายในบริเวณร้าน ซึ่งมีลานจอดรถอยู่ด้านหน้า พบว่าร้านยังเปิดทำการปกติ แต่พนักงานหลายตนปฏิเสธให้ข้อมูล เรื่องจากระบุว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในพนักงานรับรถ เปิดเผยว่า ตนไม่เห็นเหตุการณ์ภายในร้าน แต่มาทราบเรื่องตอนที่เห็นว่ารถลูกค้าไม่สามารถออกจากร้านได้ จึงเดินมาดูก็พบว่ามีเหตุเกิดขึ้น ตนก็พยายามเคลียร์รถ ซึ่งจากที่ตนได้ข้อมูลมา ทราบว่าฝ่ายผู้บาดเจ็บเป็นผู้เริ่มก่อน
ส่วนตัวได้ยินมาว่า ฝ่ายผู้บาดเจ็บเหมือนมีการพูดถึง หรือนำอาวุธปืนออกมา ซึ่งตนไม่ได้เห็นกับตา เพียงแต่มีคนพูดให้ฟัง ส่วนตัวกลัวจะเดือนร้อนเรื่องการทำงาน จึงไม่อยากพูดอะไรมาก ตนบอกได้แค่ว่าฝ่ายตำรวจเคยมาเที่ยวที่ร้านหลายครั้ง และเคยมีปัญหากับลูกค้าคนอื่น ๆ บ้าง แต่ไม่ร้ายแรงแบบนี้ ส่วนการ์ดก็รู้จักแต่ละคนนิสัยดี ไม่ได้มีพฤติกรรมโหดร้ายอย่างในคลิป ซึ่งก็เข้าใจคนที่ดูคลิปแล้วอาจจะดูรุนแรง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายจตุรงค์ เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ากลุ่มตนที่นั่งกินกัน 3 คน มีเรื่องกับลูกค้าโต๊ะข้าง ๆ กัน โดยน้องตนไม่ชอบขี้หน้าคนโต๊ะข้าง ๆ ด้วยความเมาจึงสาดเหล้าใส่ จากนั้นการ์ดก็เข้ามาเชิญตัวออกไป โดยไม่ได่มีเรื่องอะไรกัน ตอนนั้นไม่ได้มีการขัดขืน ตนยังยืนคุยกับการ์ดที่หน้าร้าน และก็ขึ้นรถ
จากนั้นตนนั่งอยู่ในรถกับน้อง 2 คนที่เป็นตำรวจ การ์ดก็มาเคาะกระจกรถ ขอให้ลงจากรถ บอกให้ลงมาคุยกันก่อน ส่วนตัวก็ลงไป จากนั้นรู้ตัวอีกทีน้องตน 2 คนถูกทำร้ายแล้ว ส่วนตัวจะเข้าไปห้าม จังหวะที่ตนไปดึงน้องขึ้นมา ตนก็โดยเตะอัดหน้า 1 ที มารู้ตัวอีกครั้งตอนที่กู้ภัยมาแล้ว อาการเจ็บตนตอนนี้มีที่ปากแตก และฟันหน้าโยก ซึ่งยังไม่ได้เจรจากับผู้ก่อเหตุ ตนไม่ทราบสาเหตุที่ถูกทำร้าย และก็อยากรู้เหมือนกัน ยืนยันตนเพิ่งไปร้านนี้ครั้งแรก ไม่เคยมีเนื่องมาก่อน
ขณะที่ผู้จัดการร้านอาหาร วันนี้ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเช่นกัน และได้ออกมายืนยันกับสื่อมวลชน และกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บว่า ทางร้านยินดีจะรับผิดชอบค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้กับกลุ่มผู้บาดเจ็บทั้งหมด และสัญญากับลูกค้าคนอื่น ๆ ว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก