จากกรณีี นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ "น้องเมย" นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 17 ต.ค.60 หลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน
โดยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ชันสูตรพลิกศพแล้ว ระบุ ในใบรับรองการเสียชีวิตว่า เกิดจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ทำให้ครอบครัวแคลงใจ นำร่างของ นายภคพงศ์ ไปผ่าพิสูจน์อีกครั้งที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ปรากฎว่า กระดูกซี่โครงหัก และพบว่าอวัยวะภายในร่างกาย ทั้ง หัวใจ กระเพาะ ตับ ปอด และสมอง หายไป
วันนี้ (25 ก.พ.61) พ่อแม่และญาติพี่น้อง รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญเททองหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตัก 29 นิ้ว ถวายให้กับวัดวิเวการาม จ.ชลบุรี เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับ
นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ "น้องเมย" ณ โรงหล่อพระสมานช่างหล่อ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายในพิธียังมีทีมดูแลงานกฎหมายเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น้องเมย เข้าร่วมด้วย
นายพิเชษฐ์ พร้อมด้วย นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ (พ่อ-แม่ และพี่สาวของน้องเมย) กล่าวว่า ขณะประกอบพิธีได้มีนิมิตที่ดี บอกให้รู้ว่า น้องเมย ได้รับรู้ถึงงานบุญที่ทางครอบครัวทำให้
และหวังว่า น้องเมย จะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดียิ่งขึ้น ส่วนคดียกให้เป็นหน้าที่ของทีมทนายความ ผู้ที่มีเชี่ยวชาญด้านกฏหมาย ในการหาคำตอบที่ชัดเจนให้กับครอบครัวต่อไป หลังพูดจบ แม่ของน้องเมย ไม่สามารถกลั้นความเสียใจไว้ได้ จึงร้องไห้ออกมา
นายสาธิต พูนสวัสดิ์พงศ์ หัวหน้าทีมดูแลงานกฎหมาย บริษัท บาร์ริสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลอว์เฟิร์ม จำกัด กล่าวว่า คดีเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22-23 ส.ค. 2560 ถึงขณะนี้ พนักงานอัยการศาลทหาร ได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาซึ่งเป็นรุ่นพี่ ในข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว อยู่ระหว่างเรียกตัวจำเลยมาสอบคำให้การ ซึ่งหากจำเลยรับสารภาพ ศาลจะตัดสินไปตามคดี แต่หากปฏิเสธ ศาลจะะนัดสืบพยานหลักฐานต่อไป
ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.นครนายก ได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อมารดาของ “น้องเมย” ว่า ได้สอบพยานบุคคลไปแล้ว 28 ปาก แต่ยังมีประเด็นที่พนักงานสอบสวนทำหนังสือถึง เลขาธิการแพทยสภา ให้ติดต่อไปยัง สมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย เพื่อจัดหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้ความเห็นถึงความต่างทางวิชาการ ระหว่างโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ กับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็น ผลตรวจชันสูตรพลิกศพไม่ตรงกัน
นายสาธิต กล่าวว่า ในมุมมองของตนแพทย์ที่ให้ความเป็นกลางจะมาจากสถาบันใดก็ได้ เข้ามาพิสูจน์ผลการตรวจสอบที่ต่างกันของทั้ง 2 สถาบัน เพื่อให้ได้รับคำยืนยันว่า "เป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ" เนื่องจากบางข่าวออกมาว่าสาเหตุเกิดจาก ล้ม วูบ ตกบันไดเสียชีวิต ซึ่งทางครอบครัว เชื่อมั่นตามหลักฐานที่มีอยู่ว่า เป็นการตายผิดธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้ผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และต้องมีหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบผล” ทั้งนี้ หากระยะเวลาเนิ่นนานไป ทีมทนาย มีสิทธิที่จะสอบถามไปยังแพทยสภาในฐานะตัวแทนแม่ของผู้ตายได้ เพื่อให้ความจริงปรากฏขึ้น