เปิดใจสาวนอนพื้นธนาคาร โวยเปิดบัญชีถูกเหยียดอนาถา กรุงศรีฯ โร่มอบกระเช้ารับผิด (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "สุภาพร พงศ์สราภี" โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความว่า ประสบอุบัติเหตุ และต้องการทำเรื่องกับธนาคาร เพื่อยื่นเอกสารประกอบการเอาประกัน แต่ด้วยเพราะประสบอุบัติเหตุที่หลัง ทำให้ไม่สามารถนั่งได้ตามปกติ ซึ่งพนักงานยืนยันว่าต้องถ่ายรูปและเซ็นเอกสารด้วยตัวเอง ญาติจึงต้องหามมานอนกลางธนาคาร

ล่าสุด วันที่ 8 ต.ค. 63 น.ส.สุภาพร พงษ์สราภี อายุ 37 ปี ผู้ประสบเหตุ เปิดใจเล่าว่า วันที่ 6 ก.ย.63 ตนเองได้เดินทางไปเที่ยวที่ ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ แล้วเกิดประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกเขา ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

อาการบาดเจ็บ กระดูกสันหลังหัก ไข้ข้อกระดูกสันหลังยุบ ต้องใส่หมุดล็อกกระดูก 5 ตัว ต้องใส่เหล็กล็อกกระดูกซี่โครงด้านข้าง 2 ด้าน ขาขวาหักกระดูกแตกหัก 2 ท่อน หัวแตก

ต้องรักษตัวที่ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน รพ.กรมชลประทานปากเกร็ดนานนับเดือน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ตนเองทำประกันอุบัติเหตุไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทางบริษัทประกันภัยจึงแจ้งให้ตนเองทราบว่าต้องไปยื่นเอกสารทำเรื่องการเคลมที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตนเองจึงจำเป็นต้องเปิดบัญชีใหม่ เนื่องจากสมุดบัญชีต่าง ๆ ได้สูญหายขณะที่ประสบอุบัติเหตุ

โดยตนเอง แม่ และพี่ชาย ได้เดินทางไปที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปากเกร็ด เพื่อทำการเปิดบัญชีเพื่อทำการเคลมประกัน โดยเมื่อไปถึงตนเองให้แม่ช่วยไปเจรจากับทางพนักงานธนาคาร เกี่ยวกับเรื่องการเซ็นเอกสาร เพราะตนเองต้องรออยู่ในรถ ด้วยอาการเจ็บ ไม่สามารถที่จะเดินเข้าไปนั่งหรือรอทำการถ่ายรูปและเซ็นเอกสารได้ด้วยตนเอง พนักงานจะสามารถนำเอกสารมาให้ตัวเองเซ็นที่รถได้หรือไม่ แต่พนักงานของทางธนาคารกลับบอกว่าไม่สามารถที่จะให้บุคคลอื่นมาทำแทนได้ ซึ่งแม่ของตัวเองก็ได้พยายามพูดและอธิบายเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุของตนเองให้ทางพนักงานธนาคารฟังถึง 2 รอบ แต่ทางพนักงานก็ยังคงยืนยันที่จะไม่เปิดบัญชีให้

ทางพี่ชายที่ไปด้วยจึงตัดสินใจอุ้มตนเองไปนอนรอที่บริเวณด้านในตัวธนาคาร เพื่อรอเซ็นเอกสารและถ่ายรูปทำการเปิดบัญชีตามที่พนักงานธนาคารบอก แต่ขณะที่ตนเองได้เข้าไป พนักงานธนาคารก็พูดกับตนเองในน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ต้องการที่จะให้ตนเองนั่ง ตนเองก็พยายามอธิบายว่าไม่สามารถนั่งได้ จึงขอนอนรอเพื่อทำเอกสารนาน 20 นาที ท่ามกลางสายตาที่มองตนเองแปลกประหลาด ของพนักงานธนาคาร

ทั้งงนี้ แม่ของตนเองเริ่มไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกับพนักงาน พนักงานจึงยอมทำการเปิดปัญชีให้ตนเอง โดยที่สามารถใช้เอกสารของแม่แทนได้ หลังเกิดเหตุตนเองรู้สึกเสียความรู้สึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะคิดว่าพนักงานธนาคารควรมีเหตุผลและยอมรับฟังคำอธิบาย

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ผู้จัดการสาขาและพนักงานรายดังกล่าวที่พูดจากับตัวเองไม่ดี ได้เดินทางมาขอโทษพร้อมกระเช้า และโจ๊ก 1 ถุง มาให้ตนเองที่บ้าน พร้อมทั้งขอร้องให้ลบโพสต์ ตนก็ลบโพสต์ให้เนื่องจากไม่ได้ติดใจเอาความ แต่อยากให้ทางพนักงานควรปรับปรุงและแก้ไขพฤติกรรมในลักษณะนี้

ด้าน นายสุชาติ ฤกษ์สุทธิศิริเดช อายุ 45 ปี พี่ชายของผู้ประสบเหตุ เผยว่า หลังเกิดเหตุตนเองเสียความรู้สึกเป็นอย่างมากกับการ บริการของพนักงานธนาคารรายดังกล่าว อีกทั้งตนเองยืนยันได้ว่าการที่ตนเองอุ้มน้องสาวเข้าไปนอนในธนาคาร ไม่ได้เป็นการต้องการจะเรียกร้องอะไร แต่หวังอยากจะให้พนักงานธนาคารควรเห็นใจ และมีการอนุโลมในบางกรณี จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก

ล่าสุด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แถลงชี้แจงระบุว่า มีความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดและความบกพร่องในการปฏิบัติงานของพนักงาน ธนาคารขอยืนยันว่าธนาคารมีนโยบายและกระบวนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนในการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าทำธุรกรรมการเงินภายในสาขาได้ ทั้งนี้ ธนาคารขอน้อมรับในความบกพร่องและขออภัยต่อลูกค้าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสำหรับธุรกรรมดังกล่าว ธนาคารได้ประสานงานดำเนินการทำตามความประสงค์ของลูกค้าโดยเรียบร้อยแล้ว