ญาติสาวล้งมังคุดโต้ข่าวสูบเงินผัวปมยิงดับ แฉสินสอดยังขอคืน 30 ล้านลงทุนสูญเอง (คลิป)

10 ต.ค. 63

จากกรณีตำรวจ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจาก รพ.พรหมคีรี ว่ามีคนถูกยิงมาเสียชีวิต ที่เกิดเหตุพบร่างของนางศิริกาญจน์ อายุ 33 ปี ที่หมู่ 5 บ้านห้วยทรายขาว ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงเข้าโหนกแก้มซ้ายและใบหน้า ด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นกระสุนฝังในเสียชีวิต ส่วนคนก่อเหตุทราบชื่อคือ นายชัยมงคล รอดพลอย อายุ 65 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น

266793

วันที่ 10 ต.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านภายในตำบลทอนหงส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า343372811871

นางทิพย์ (นามสมมติ) แม่ของคนตาย เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ตัวเองยังอยู่ในอาการหวาดกลัว เพราะคนร้ายยังจับไม่ได้ กลัวว่าจะมาทำร้ายคนที่บ้าน กลัวว่าจะย้อนกลับมาก่อเหตุ เพราะตอนนี้ที่บ้านมีแต่คนแก่และผู้หญิง ซึ่งต้องอยู่อาศัยกันเพียงลำพัง ดังนั้นจึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว และหากจับกุมได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาขออโหสิกรรมหรือมาที่งานศพ ตัวเองไม่อยากเจอหน้า หากตำรวจจับได้แล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

621068

ส่วนประเด็นที่นายชัยมงคลเปิดเผยกับเพื่อนบ้านที่กรุงเทพฯว่า คนตายได้เอาเงินจำนวนกว่า 30 ล้านไปใช้จนหมดตัว ทำให้เป็นสาเหตุการณ์ก่อเหตุครั้งนี้นั้น เป็นไปไม่ได้ที่ลูกสาวจะนำเงินจำนวนมากมาใช้โดยที่ตัวเองไม่รู้ เพราะลูกสาวเป็นคนทำมาหากิน และเลี้ยงดูครอบครัวมาโดยตลอด ไม่เคยมีการลงทุนอื่นนอกจากธุรกิจมังคุด ส่วนเรื่องของค่าเลี้ยงดูที่นายชัยมงคลให้กับลูกสาว นับตั้งแต่แต่งงานกัน เริ่มได้ค่าเลี้ยงดูเดือนละประมาณ 50,000 บาท จากนั้นก็ลดลงเรื่อย ๆ จนหยุดให้ไปในที่สุด แต่ลูกสาวก็ไม่เคยเรียกร้อง

ส่วนเงินที่ได้รับในวันแต่งงาน 3,000,000 บาท หลังจากแต่งงานเสร็จ นายชัยมงคลขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ลูกสาวจะได้รับเงินหรือนำเงินของนายชัยมงคลไปใช้มากถึง 30 ล้านบาท

500219

นายสง่า ชูประสูตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ทอนหงส์ น้าชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า หลานสาวของตนเองไม่เคยมีพฤติกรรมนำเงินของนายชัยมงคลมาใช้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาหลานสาวไม่เคยซื้อที่ดิน หรือมีการลงทุนธุรกิจใดในพื้นที่ มีแต่ใช้จากที่ดินมรดกที่ได้รับมาจากตายาย

563298

แต่ในทางกลับกัน คนที่มักจะลงทุนแล้วทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้คือนายชัยมงคล ที่แอบนำเงินไปใช้ส่วนตัว และลงทุนจนทำให้ธุรกิจเจ๊ง หากย้อนกลับไปตั้งแต่ที่เริ่มแต่งงาน และเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ช่วงปี 2552-2553 ไปลงทุนประกอบธุรกิจ ก่อสร้างและต่อเติม อยู่ที่กรุงเทพมหานคร แต่ไปไม่ได้เจ๋งในที่สุด

282939

ต่อมาปี 2554 ตัดสินใจตัดต้นมังคุดอายุกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นต้นมังคุดกว่า 100 ต้น ที่ได้รับจากมรดกมาพร้อมกับที่ดิน ลงทุนปลูกทุเรียน เพราะนายชัยมงคลอ้างว่าธุรกิจทุเรียนกำลังมาแรง รายได้ดี จึงมีการโค่นต้นมังคุดออก แล้วปลูกต้นทุเรียนทดแทน แต่ไม่สามารถที่จะเลี้ยงให้โตได้ ต้นทุเรียนตายภายใน 3 เดือน ตอนนี้ก็กลายเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า

702767295647

ช่วงปี 2556 ไปลงทุนทำธุรกิจขนส่งไม้ โดยรับไม้มาจากจังหวัดเชียงใหม่ แต่ธุรกิจก็ต้องพังลงอีกครั้ง เพราะเจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม จนกระทั่งปี 2559-2660 ได้มีการขุดบ่อปลาจำนวน 3 บ่อ เลี้ยงปลานิล กุ้ง และ ปลาดุก รวมถึงทำฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดเล็ก ซึ่งซื้อพันลูกไก่เอามาเลี้ยง แต่ธุรกิจก็เจ๊งไม่เป็นท่า เชื่อว่ามีมูลค่าหลักล้านบาท

cg

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าตอนนี้หมายจับก็ได้ออกมาแล้ว รวมถึงใบหน้าของคนก่อเหตุก็ชัดเจน อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะกลัวว่าคดีจะเงียบ แล้วหลานสาวต้องตายฟรี ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในการทำงานของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ และเชื่อว่าจะจับคนร้ายได้โดยเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว

993705

นางทอง (นามสมมติ) หุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนกับผู้ตายและนายชัยมงคล เปิดใจว่า นายชัยมงคล ป็นคนนิสัยใจคอที่ชอบกดดันและข่มขู่ฝ่ายหญิง ซึ่งหลายครั้งที่นางปาล์มจะมาเล่าเปิดใจให้ตัวเองฟังด้วยแรงกดดันที่เกิดขึ้น เรื่องกำไร ยอดขาย อีกทั้งนายชัยมงคลยังเป็นคนที่ชอบโอ้อวดเกินจริง เช่น มีการลงทุนทำธุรกิจ และมีการซื้อที่ดินมูลค่าหลักล้าน กรณีเงิน 30 ล้านบาท ตนเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการลงทุนธุรกิจส่วนใหญ่ในการรับซื้อขายมังคุดใช้เงินหมุนเวียนไม่มาก หลังจากจ่ายเงินไป ก็จะได้เงินขึ้นมาทันที ไม่ต้องมีการลงทุนสูง ตนเชื่อว่านายชัยมงคลตัดสินใจก่อเหตุอาจเป็นเพราะว่าถูกขอให้หย่าร้างก็ได้ แต่นายชัยมงคลไม่ยอม และอาจกลัวว่าถ้าหากขึ้นศาลแล้วมีการฟ้องหย่าจะทำให้ทรัพย์สมบัติที่ดินราคา 100 ล้านจะถูกแบ่ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม