ลูกโชเฟอร์รถบัสกฐินมรณะ ขออย่าแช่งพ่อ – เหยื่อเผยเพลงดังกลบเสียงเตือน พี่สาวดีเจรับถูกถล่ม (คลิป)

11 ต.ค. 63

จากกรณีรถไฟชนสนั่นรถบัสจะไปทำบุญทอดกฐิน บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เบื้องต้น ยืนยันเสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 42 รายนำตัวส่งโรงพยาบาล ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

787020880787496637

ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรนิทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นทางถนนทางเดินรถไฟ พบมีป้ายเตือนรถไฟก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มีป้ายสัญญาณไฟ แต่ไม่สามารถใช้การได้ และไม่มีไม้กั้นรางรถไฟ

826066

สอบถามนายเสนาะ สุขสำอางค์ อายุ 60 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นรถบัสขับผ่านกำลังข้ามทางตัดทางรถไฟ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงหวูดดังต่อเนื่อง ประมาณ 4-5 ครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงชนสนั่น ซึ่งรถไฟชนบริเวณส่วนหัวของรถบัสฝั่งคนขับพอดี ก่อนรถบัสจะพลิกคว่ำ จากนั้นรถไฟยังลากส่วนท้ายรถบัสไปอีกเล็กน้อยก่อนจะจอดที่สถานี

โดยตนได้ยินเสียงหวูดรถไฟชัดมาก ไม่มั่นใจว่าเหตุใดคนขับรถบัสจึงไม่ได้ยิน แต่จุดเกิดเหตุเป็นทางขึ้นเนิน มีต้นไม้ 2 ข้างทาง ประกอบกับไม่มีไม้กั้น และไฟสัญญาณเสีย เป็นไปได้ที่คนขับรถจะมองไม่เห็นรถไฟ

168588467028180032

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 18 ราย มีดังต่อไปนี้ 

1.เพศหญิง (ยังไม่ยืนยันตัวตน)
2.นาน คูลู (Nan Khuu Lu) ชาวพม่า
3.นางรจนา คำมูลนา
4.ชาวพม่า 
5.ปัญจพล ตรุสมูล
6.เมลดา ภูครองผา
7.เวียง โกลัก (win ko lat) ชาวพม่า
8.สุภัสสร แดงอุ้ย
9.รำไพ พาไธสง
10.เวียง โกโก (Win ko ko)
11.ใคร ศรีเสนา
12.กล้า ชาวพม่า
13.จอ ซัว ชาวพม่า
14.เพชร วรรณศรี
15.นิดาวรรณ คำมะลา
16.บุญส่ง สวนยิ้ม
17.พวงพยอม คานแก้ว
18.สุวีน นุ่มเวร

ทั้งนี้ศพใดที่ญาติยืนยันตัวตน และเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว สามารถนำเอกสารมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาได้ทันที โดยมี 2 ศพ คือ เพศหญิงรายแรก ที่พบเพียงท่อนล่าง และรายที่ 3 นางรจนา ซึ่งพบเพียงท่อนบน ที่จะต้องส่งไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ อีกครั้ง

717258

ด้านนางเข่น ยะ อายุ 42 ปี คนงานพม่ารอดชีวิตออกมาได้ เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุในรถเปิดเพลงเสียงดัง มีคนเต้นอยู่ด้านหลังรถประมาณ 5-6 คน โดยตนไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ รถไฟก็คว่ำ โดยตนนั่งฝั่งซ้ายบริเวณกลางรถ ทำให้ไม่ถูกแรงกระแทก

นาทีนั้นได้แต่ภาวนาถึงพ่อแม่ หลับตาไหว้ให้ตัวเองปลอดภัย ซึ่งคนที่นั่งข้างตนอีก 2 คนก็ปลอดภัย แต่เห็นมีคนเสียชีวิตคาที่ และผู้บาดเจ็บร้องไห้กันระงม ตนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ลอดหน้าต่างออกมา พร้อมช่วยเหลือเด็กอีกคนออกมาด้วย

168105

น.ส.ศศิตา สราพิมพ์ อายุ 19 ปี ผู้รอดชีวิตอีกราย กล่าวว่า พวกตนเป็นพนักงานของโรงงานแห่งหนึ่ง พื้นที่สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อมาทำบุญทอดกฐินที่วัดบางปลานัก จ.ฉะเชิงเทรา โดยก่อนเกิดเหตุตนนอนหลับอยู่บนรถ ไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ เพราะในรถเปิดเพลงดัง

987562

ทั้งนี้เมื่อรถไฟชนรถบัสตนก็ตื่นแล้วรีบปลุกเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ กัน ลอดหน้าต่างที่แตกออกมาจากรถ การทำบุครั้งนี้เป็นการชักชวนต่อกันมาจากคนในโรงงาน โดยตนก็เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก

968476

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า เรื่องไม้กั้นจะต้องไปดูตามข้อกฎหมายว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นทางตัดของทางรถไฟ จึงยังไม่สามารถที่จะติดตั้งไม้กั้นได้ คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างการพูดคุยหรือดำเนินการ

279358

ส่วนเรื่องสัญญาณไฟ ที่มีข่าวว่าไม่สามารถใช้การได้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียดขอตรวจสอบอีกครั้ง โดยที่เกิดเหตุทราบข่าวว่าเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดขอตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุได้รับรายงานจากคนขับรถไฟว่า ได้เปิดหวูดส่งสัญญาณและพยายามดำเนินการอย่างดีที่สุดแล้ว แต่มีการตัดหน้าจากรถบัส ซึ่งส่วนนี้ทางคนขับต้องไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางการรถไฟ จะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตก่อนในเบื้องต้น แต่จะต้องรับผิดชอบเยียวยาหรือไม่ อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย

686496

โดยบรรยากาศที่จุดเกิดเหตุ ช่วงเที่ยงเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ทยอยลำเลียงศพที่อยู่ในรถและด้านข้างรถ รวม 18 ศพ เพื่อนำไปส่งพิสูจน์ตัวบุคคล ซึ่งลูกชายของคนขับรถบัสเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ได้เดินทางมาที่เต็นท์ตั้งศพ ก่อนจะเป็นลมล้มลงไปเพราะทำใจไม่ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

ทีมข่าวเดินทางไปที่ รพ.พุทธโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทราบว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ มีผู้บาดเจ็บเข้ามารักษาจากเหตุที่เกิดขึ้นรวม 20 คน แพทย์ตรวจอาการและอนุญาตให้กลับบ้านได้ 8 คน

536349

นางเนตรนภา จันทรา อายุ 53 พนักงานโรงงาน ใน อ.สำโรง จ.สมุทรปราการ หนึ่งในผู้ร่วมทริปสายบุญ อาการปลอดภัย และเป็นเพื่อนของ น.ส.รัชดาพร ศรีเสนา อายุ 43 ปี ซึ่งอาการสาหัส เล่าว่า คืนก่อนออกเดินทางหลับสบายปกติ แต่ก่อนที่จะออกเดินทางได้ไหว้หลวงพ่อโสธร พร้อมขอพรธรรมดาปกติ ซึ่งในระหว่างทางก็ปกติเช่นกัน ไม่มีรางบอกเหตุอะไรเลย ทุกคนสนุกสนาน บางคนชอบเต้นก็ลุกขึ้นเต้น

619048

เนื่องจากมีดีเจเปิดเพลงตั้งแต่เดินทางมาแล้ว กระทั่งมาถึงจะจุดเกิดเหตุ มองเห็นรถไฟ และได้เอ๊ะใจคิดแค่ว่า “ทำไมรถบัสไม่หยุด หรือมีไม่กั้นเดี๋ยวก็คงหยุด” รถบัสก็ล้มลง ตนรู้สึกตัวดีมาก พอรถหยุดรีบมุดออกจากทางหน้าต่างทันที แต่ภาพที่เห็นในวินาทีนั้นเพื่อนหลายคนเสียชีวิต ภาพที่เห็นศีรษะของเพื่อนบางคนก็ลอยไปตามแรงกระแทก

ส่วนน.ส.รัชดาพร ตอนนี้อาการปลอดภัย แต่แฟนของเขาเสียชีวิต ตนยอมรับว่าเสียใจ เพราะทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันอายุ 9 ขวบ เจ็บเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าสนุกเกินไปหรือไม่ คนขับรถบกพร่องหรืออย่างไรก็ยังไม่ทราบ หรืออาจจะรับงานมากเกินไป ทำไมไม่หยุดรถ ส่วนตัวนับว่าเป็นบทเรียน ต่อไปคงย้ำเตือนไม่ให้เปิดเพลงดัง เพราะเสียงดังอาจจะทำให้คนขับไม่ได้ยินอะไรเลย

สำหรับการเดินทางมาทำบุญในครั้งนี้ ถือเป็นการมาทำบุญเป็นประจำทุกปีกับหัวหน้างาน ซึ่งจะมีการลงขันกันเป็นค่ารถคนละ 300 บาท แล้วก็ทำบุญกองกฐินคนละ 100 บาท มีการวางแผนล่วงหน้า 1 เดือนแล้ว ว่าจะมาทำบุญกัน

639137

ขณะที่สุสานสมาคมสงเคราะห์การกุศล จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย มาพิสูจน์ตัวบุคคล มีญาติมารอดูศพจำนวนมาก โดยบางส่วนทำใจไม่ได้กับการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว ต่างร้องไห้ระงมศาลา

577466

นางวาสนา อุ่นสำโรง อายุ 49 ปี สูญเสียลูกสาว น.ส.รำไพ พาไธสง อายุ 33 ปี และน.ส.สุภัสสร แวงอุ้ย อายุ 28 ปี น้องสาว กล่าวว่า ลูกสาวบอกไว้ว่าโรงงานจะพาไปทำบุญกฐินในวันที่ 11 ต.ค.63 ซึ่งช่วงเช้าลูกสาวก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำบุญพร้อมน้องสาวของตนที่ทำงานอยู่โรงงานเดียวกัน ส่วนตนก็ออกมาทำงานตามปกติ หลังทราบเรื่องตนรีบเดินทางไปดูรายชื่อที่โรงพยาบาล แต่เพื่อนของลูกสาวที่รอดชีวิตบอกว่า ลูกสาวกับน้องสาวตนเสียชีวิตแล้ว ตนจึงรีบมาดูที่จุดรวมศพ

642697

โดยตอนนี้จิตใจตนและครอบครัวย่ำแย่มาก ที่ผ่านมาลูกสาวตนชอบทำบุญ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ ทั้งนี้ทราบว่าช่วงเกิดเหตุลูกสาวตนนั่งแถวหลัง ส่วนน้องสาวตนนั่งหน้ารถ คาดว่าจะถูกชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยตนคิดว่าคนขับน่าจะประมาททำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

946459

ด้านนายหัถพล ศิริมา อายุ 25 ปี ลูกชายนายบุญส่ง สวนยิ้ม คนขับรถบัส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.63 พ่อบอกตนว่า มีงานขับรถไปทอดกฐิน แต่รู้สึกไม่อยากไป เพราะฝนตก แต่รับงานไว้แล้วจึงต้องไป หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้พูดคุยกับพ่ออีก

กระทั่งช่วงเวลา 08.30 น. เพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่า พ่อประสบอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสเสียชีวิต ขณะนั้นตนกำลังขับรถอยู่ ต้องจอดรถเพราะขับต่อไม่ไหว ก่อนให้ญาติมารับไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ห่อศพไว้หมดแล้ว ตนยังไม่ทันได้เห็นพ่อ แต่รู้สึกไม่ดีเกือบเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องนำส่งโรงพยาบาล

770198

โดยปกติพ่อตนขับรถบัสรับส่งพนักงานในโรงงาน และขับออกต่างจังหวัดเป็นประจำ ค่อนข้างชำนาญเส้นทาง ส่วนที่เกิดเหตุไม่มั่นใจว่าพ่อเคยผ่านหรือไม่ เพราะทางค่อนข้างลึก แต่ดูจากพื้นที่ก่อนถึงทางตัดรางรถไฟเป็นเนินขึ้นไป มีต้นไม้ข้างทาง ไม่มีสัญญาณไฟและไม้กั้น ทำให้ไม่รู้ว่ารถไฟกำลังมา คาดว่าพ่อน่าจะมองไม่เห็นด้านข้าง ประกอบกับรถบัสน้ำหนักมาก คาดว่าพ่อต้องการขับขึ้นไปที่บนทางตัด เพื่อมองข้างทาง จนเกิดเหตุดังกล่าว

705566

นอกจากนี้ คิดว่าพ่ออาจจะไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ เพราะมีการเปิดเพลงในรถด้วย โดยพ่อตนไม่ใช่คนขับรถเร็ว ไม่ดื่มเหล้าและไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด ยืนยันว่าช่วงเกิดเหตุไม่ได้เกิดเหตุเพราะความเมาแน่นอน ซึ่งหลังเกิดเหตุมีการต่อว่าคนขับรถบัสจำนวนมาก ตนก็เสียใจและอยากให้สังคมเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะพ่อตนก็เสียชีวิตเหมือนกัน

ที่ผ่านมาพ่อเคยพูดว่า ทำงานแบบนี้ “ขาซ้ายอยู่ในโลง ขาขวาอยู่ในคุก” เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหากคนขับไม่เสียชีวิตก็ต้องติดคุก จึงอยากให้เห็นใจกันบ้าง เพราะตอนนี้สภาพจิตใจตนก็ย่ำแย่ เพราะความผิดทั้งหมดอยู่ที่คนขับทั้งหมด เหมือนพาลูกเมียคนอื่นไปตาย แต่อยากให้มองว่าพ่อตนก็ตายเหมือนกัน

ทั้งนี้รถที่พ่อตนขับก็เป็นรถคนอื่น พ่อตนเป็นเพียงลูกจ้าง ทำงานแต่ละครั้งได้เงิน 10% ของคนจ้าง ซึ่งก็จะได้ประมาณ 1,000 - 1,500 บาท ครั้งนี้คาดว่าน่าจะได้ประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น ตนได้ดำเนินการรับศพนายบุญส่ง เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางบ่อ

467399

ด้านนางสาวปวีณา กลิ่นประทุม อายุ 30 ปี ลูกสะใภ้นายบุญส่ง คนขับรถบัส ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายบุญส่งพูดกับสามีตนว่า ต้องไปงานกฐินแต่รู้สึกไม่อยากไป สามีตนจึงถามว่า ให้ไปแทนไหม แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่เป็นไร จนเกิดเหตุดังกล่าว

โดยที่ผ่านมาพ่อสามีตน เป็นคนขับรถเก่ง รับจ้างขับรถบัสขึ้นเหนือลงใต้ตลอด แต่จุดเกิดเหตุตนไม่มั่นใจว่าพ่อสามีเคยขับผ่านเส้นทางดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งบนรถก็น่าจะเสียงดัง เพราะมีดีเจรับจ้างเปิดแผ่น สร้างความสนุกสนานให้กับคนในรถ ทำให้ไม่ได้ยินเสียงหวูด

ทั้งนี้นายบุญส่ง เป็นคนใจเย็น ไม่ได้ขับรถประมาท และไม่ได้ขับรถเร็ว แต่ช่วงเกิดเหตุไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โดยตนเห็นคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียด่าคนขับรถจำนวนมาก จึงไม่อยากเข้าไปอ่าน เพราะทำใจไม่ได้
ขณะที่ตนทราบข่าวจากญาติที่โทรศัพท์มาบอกว่า เห็นรถกฐินจาก จ.สมุทรปราการ คว่ำ ตนกับสามีจึงรีบมาที่เกิดเหตุ ซึ่งสามีตนก็ช็อกต้องส่งโรงพยาบาล ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว

581784

ด้านนางวิจันทรา รัตนันท์ อายุ 38 ปี พี่สาวนายปัญจพล ตรุสมูล อายุ 28 ปี ดีเจในรถบัส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้น้องชายตนไม่ได้รับงานดีเจมานานแล้ว เพราะได้งานประจำเป็นพนักงานส่งของไปรษณีย์ ก่อนเกิดเหตุเจ้าของรถบัส ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าได้โทรศัพท์มาตาม ขอให้ช่วยทำงาน ด้วยความเกรงใจน้องตนจึงไปช่วยงาน

738266

สำหรับหน้าที่หลักของน้องชายของตน คือ เปิดแผ่นบนรถ สร้างความสนุกสนานให้คนในรถ หลังเกิดเหตุทราบข่าวว่าคนขับรถเสียชีวิตคาที่ ตนได้แต่ภาวนาว่าน้องตนต้องรอด เพราะน้องชายทำงานตั้งบูธดีเจด้านหลังคนขับ จนกระทั่งมีรายชื่อคนเจ็บออกมา แต่ไม่มีชื่อน้องชายตน จึงทำใจว่าน้องชายตนเสียชีวิตแล้ว

605570

โดยนางวิจันทรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ครอบครัวเสียใจมาก ทำใจไม่ได้ เพราะน้องชายยังมีครอบครัวมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู ส่วนกระแสข่าวที่โจมตีเรื่องการเปิดเพลง ตนไม่ทราบ เพราะน้องชายตนก็ทำตามหน้าที่ และคนจ้างก็ต้องการแบบนั้น ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า เสียงในรถดังจนคนขับไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ แต่เท่าที่ดูที่เกิดเหตุ ก็พบว่าทางตัดค่อนข้างน่ากลัว

694602

พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยหลังการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสิ้น 18 ปาก แบ่งเป็นผู้ไม่บาดเจ็บ 12 ปาก ผู้บาดเจ็บ 6 ปาก

487722

จากการสอบปากคำพนักงานขับรถไฟบอกว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกโปรยปรายลงมา ทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ที่ 300-400 เมตร ซึ่งขณะนั้นรถไฟแล่นด้วยความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. มี 60 ตู้ น้ำหนักประมาณ 2,000 ตัน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถบัสแล่นขึ้นเนินมา จึงเบรกเบื้องต้นและกดหวูดให้สัญญาณเพื่อไม่ให้ขับขึ้นมา แต่รถบัสยังขับต่อคนขับรถไฟจึงเบรกฉุกเฉินอีกครั้ง แต่จากน้ำหนักของรถและแรงเฉื่อยยังทำให้รถแล่นต่ออีก 600 เมตร ก่อนชนกับรถบัสดังกล่าว

537093

ทั้งนี้พล.ต.ชาคริต กล่าวต่อว่า จุดเกิดเหตุไม่มีเครื่องกั้น และไม่มีพนักงานรถไฟ เพราะเป็นทางลักผ่าน ซึ่งผู้ขับขี่ต้องระวังมากกว่าปกติ ประกอบกับกฎหมายจะคุ้มครองรถไฟในส่วนนี้ และจากวงจรปิดเห็นได้ชัดเจนว่า รถบัสตัดหน้ารถไฟในระยะกระชั้นชิด คนขับรถบัสจึงมีความผิดอย่างแน่นอน ส่วนพนักงานขับรถไฟต้องสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้งว่า เกิดจากความประมาทด้วยหรือไม่

279174

สำหรับผู้เสียชีวิตยืนยันที่ 18 ศพ จากสภาพศพสามารถยืนยันอัตลักษณ์บุคคลได้ชัดเจน 16 ศพ ส่วนอีก 2 ชิ้นส่วนร่างกายยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 35 คน และไม่ได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน

241264629359

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ สื่อต่างประเทศอย่างน้อย 3 สำนักข่าว ยังได้รายงานอุบัติเหตุดังกล่าวไปแล้วว่า มีรายงานผู้เสียชีวิต 20 คน และระบุว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งยังพบว่าประเทศไทย มีสถิติรถไฟชนกับรถอื่น ๆ บ่อยครั้งและจำนวนมากอีกด้วย 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม