พระชราดับปริศนากลางบ่อน้ำ เจ้าอาวาสพุ่งเป้าชายขออาศัยก่อนล่องหน เปิดกล้องเจอโจ๋วนกุฏิก่อนเกิดเรื่อง (คลิป)

กรณีร.ต.อ.ชัชวาล ทอนโพธิ์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งเหตุ พระปัดสา นักลำ หรือ หลวงปู่ปัดสา อายุ 83 ปี พระลูกวัด วัดป่ากุดน้ำคำ บ้านกุดปลาดุก ต.กุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จมน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ความลึกประมาณ 3 เมตร ภายในวัดป่ากุดน้ำคำ

โดยสาเหตุที่ชาวบ้านเชื่อว่าหลวงปู่ปัดสาจมน้ำ เนื่องจากพระปัดสาหายตัวไปตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนวันที่ 9 ต.ค.63 ที่ผ่านมา และชาวบ้านพบไม้เท้าของพระปัดสา ตกอยู่ที่บริเวณริมสระน้ำหน้าวัด

นักประดาน้ำได้ระดมกำลังลงค้นหาร่างของพระปัดสา ประมาณ 1 ชม. พบว่าร่างจมอยู่ห่างจากฝั่งราว 20 เมตร สภาพศพเบื้องต้นสวมสบง บริเวณศีรษะมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนมีรอยปูด ใบหน้ามีรอยถูกทำร้ายหลายจุด ในมือขวากำพระพุทธรูปองค์เล็กเศียรหัก คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม.

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการมรณภาพของหลวงปู่ปัดสาได้ เนื่องจากต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดจากแพทย์ โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าลูกศิษย์ของหลวงปูปัดสาได้หายตัวไปวันเดียวกับหลวงปู่ อีกทั้งยังได้นำเอาเสื้อผ้าและข้าวของส่วนตัวติดไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ กำลังออกติดตามตัว

ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายัง วัดป่ากุดน้ำคำ บ้านกุดปลาดุก ต.กุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ครูบาชัย อายุ 37 ปี เจ้าอาวาสวัดป่ากุดน้ำคำ บอกว่า อาตมาและชาวบ้านต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจากการรวบรวมข้อมูล ทำให้ทราบว่า นายสมบัติ (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ที่มาขออาศัยอยู่ที่วัดได้ประมาณ 2-3 วัน หายตัวไปในเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.63 เนื่องจากนายสมบัติ ได้เดินไปหาชาวบ้านที่หมู่บ้านข้างเคียง ขอร้องให้ไปส่งตัวเข้าตัวเมือง ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่านายสมบัติ น่าจะเป็นคนลงมือทำร้ายหลวงปู่จนมรณภาพ

สำหรับประวัติของนายสมบัตินั้น ไม่มีใครทราบ แต่นายสมบัติเริ่มปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะนั้นนายสมบัติบวชเป็นพระ แล้วมาขอจำวัดที่วัดแห่งนี้ แต่อาตมาไม่ยินยอม เนื่องจากขณะนั้นนายสมบัติป่วย เกรงว่าจะเป็นโควิด-19 จากนั้นนายสมบัติก็ไป ๆ มา ๆ ที่วัดหลายครั้งแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ทั้งยังสึกเป็นฆราวาสอีกด้วย ซึ่งล่าสุดนี้นายสมบัติเพิ่งมาขออยู่อาศัยที่วัดได้เพียง 2-3 วัน โดยตนได้อนุญาตเพราะสงสาร เห็นว่านายสมบัติไม่มีที่อยู่

โดยในช่วงเช้าของวันที่ 10 ต.ต.63 ซึ่งเป็นวันพระ ชาวบ้านต่างเดินทางมาทำบุญที่วัด โดยมีชาวบ้านคนหนึ่งสังเกตเห็นไม้เท้าคนชรา 3 ขา ของหลวงปู่ วางตั้งอยู่ริมสระน้ำ อาตมาจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเริ่มงมหาร่างของหลวงปู่กันตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. ผ่านไป 30 นาทีก็หาไม่พบ น้ำประดาน้ำจึงจุดธูปเทียนขอให้เจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้ จึงงมพบร่างหลวงปู่จมอยู่กลางสระ ในเวลาประมาณ 14.00 น.

จาการตรวจสอบของใช้ของหลวงปู่ปัดสา ภายในกุฏิพบว่าย่ามใส่พระเครื่องของหลวงปู่หายไป อาตมาจึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่า นายสมบัติ ก่อเหตุ เพราะอยากได้พระเครื่องที่หลวงปู่สะสมไว้ นอกจากนี้เมื่อวันที่ 5 ต.ค.63 เวลาประมาณ 20.00 น. และ วันที่ 6 ต.ค.63 เวลาประมาณ 21.00 น. กล้องวงจรปิดหน้ากุฏิเจ้าอาวาสสามารถจับภาพคู่วัยรุ่นหญิงชายคู่หนึ่งได้ โดยอาตมาได้เดินออกไปไล่ให้ออกจากวัดไป อาตมาไม่ทราบว่าทั้งคู่เข้ามาทำอะไรที่วัดกลางดึก ทราบภายหลังว่าทั้งคู่น่าจะเป็นคนต่างหมู่บ้าน และติดยาเสพติด เพิ่งออกมาจากคุก ทำให้ขณะนี้อาตมาสงสัยอยู่ 3 คน ที่อาจจะเป็นฆาตกร ได้แก่ 1.นายสมบัติ 2.วัยรุ่นชาย 3.วัยรุ่นหญิง

อาตมาเชื่อว่าหลวงปู่ปัดสาไม่มีศัตรู เนื่องจากท่านอายุมากแล้ว บวชมานานกว่า 20 พรรษา ตั้งแต่อายุ 60-83 ปี บวชที่อื่นย้ายไปจำวัดหลายที่ แต่กลับมาจำวัดที่วัดนี้ได้ 3 ปี เนื่องจากเป็นพื้นที่บ้านเกิด แก่แล้วอยากกลับมาบ้านเกิด กิจวัตรประจำวัดมีเพียงนั่งสวดมนต์อยู่หน้ากุฏิ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อาตมา และชาวบ้าน รวมถึงครอบครัวของหลวงปู่ กำลังรอให้โรงพยาบาลที่จังหวัดอุบลราชธานี ชันสูตรร่างของหลวงปู่ให้เสร็จ คาดว่าน่าจะอีก 3 วันจึงจะเสร็จ แล้วจะนำร่างของหลวงปู่กลับมาทำพิธีที่วัดต่อไป