ลูกผูกคอดับคาค่ายทหาร พ่อคาใจผลศพไส้แตก ปริศนาวงจรปิดดับ 50 นาทีตาย (คลิป)

จากกรณีนายสุธี หวนจันทึก วัย 23 ปี ทหารเกณฑ์ตายปริศนาภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ย่านชลบุรี เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 63 ญาติระบุว่านายสุธีกำลังจะถูกปลดประจำการทหารเกณฑ์ในอีกไม่กี่วัน

ทำให้ญาติยังคงสงสัยปมสาเหตุการตาย เนื่องจากผลชันสูตรออกมาชี้ชัดว่าถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งขัดแย้งกับพฤติการที่ค่ายทหารแจ้งมาว่าผูกคอตาย และแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย

วันที่ 12 ต.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่วัดหนองเอี่ยวใน หมู่ 6 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่จัดงานฌาปนกิจศพนายสุธี หวนจันทึก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

จากข้อมูล ในวันที่ 9 ต.ค. 63 นายสุธีเข้าเวร กะกลางคืน เวลา 18.00 - 06.00 น. ที่บริเวณโรงนอนปัจจุบัน มีพฤติกรรมร่าเริงปกติ จนกระทั่งเวลา 06.00 น. มีการรวมพลเรียกรายงานตัวที่อาคารโรงนอนเก่า ซึ่งเป็นอีกอาคารที่อยู่ข้างกัน เป็นลักษณะอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโถงเปล่า สำหรับทำกิจกรรม ชั้นบน เป็นเตียงนอนสำหรับพลทหาร

หลังจากรวมผลรายงานตัวเสร็จ นายสุธีออกมานั่งเล่นโทรศัพท์ในจุดที่เข้าเวร จากนั้นมีการอาการร้องไห้ แล้วเดินกลับเข้าไปในโรงนอน เวลาประมาณ 08.00 น. จากนั้น เวลา 08.50 น. มีนายทหาร 2 นายเดินมาสะกิดให้นายทหารที่มาด้วยปีนเข้าไปดูจากหน้าต่าง แล้ววิ่งออกมาจากทางประตูเพื่อร้องให้คนมาช่วย และในเวลา 09.00 น. โดยอุ้มร่างนายสุธีไปยังโรงพยาบาลในค่ายทหาร ซึ่งอยู่ห่างจากโรงนอนปัจจุบัน 200 เมตร

นายชัยวัฒน์ หวนจันทึก หรือ เล็ก วัย 43 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า แพทย์จากโรงพยาบาลนวมินทราชินีลงความเห็นว่านายสุธีเสียชีวิตจากการผูกคอตายและมีภาวะโรคซึมเศร้า เรื่องการมีปัญหากับคนในค่ายทหารด้วยกันไม่น่าจะมี ซึ่งที่ผ่านมาลูกเป็นทหารเกณฑ์มาปีกว่าๆ ก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับใคร ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ลูกก็จะปรึกษาพ่อทุกครั้ง ส่วนใหญ่ จะมีเรื่องเงินบ้าง ซึ่งพ่อเองก็คอยสนับสนุนช่วยเหลือตลอด อีกทั้งลูกชายไม่น่าจะคิดสั้น เพราะยังมีลูกที่รักมาก

ก่อนหน้าที่จะทราบข่าวว่าลูกเสียชีวิต มีข้อความจากลูกชายที่ส่งมาในแชตเฟซบุ๊ก ในลักษณะที่มีคำพูดน้อยใจ และฝากดูแลแม่ด้วย ซึ่งปกติลูกเป็นคนร่าเริง ไม่เคยพิมพ์ข้อความมาในลักษณะแบบนี้

ตนมาทราบในภายหลังจากเกิดเหตุว่าเวลาที่นายสุธีส่งข้อความมา เป็นเวลาคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาเกิดเหตุ และวันที่ตนไปรับศพนายสุธี พบพิรุธว่าทำไมโทรศัพท์ลูกชายถึงไปอยู่กับเพื่อน และเพื่อนรู้รหัสล็อกโทรศัพท์ของลูกตน ตนจึงไม่ปักใจเชื่อว่าข้อความที่ถูกส่งมาในคือวันเกิดเหตุเป็นข้อความที่มาจากลูกชายจริง อีกทั้งมีการโพสต์ข้อความคล้ายน้อยใจ ตัดพ้อในเฟซบุ๊กด้วยนั้น

ส่วนผลพิสูจน์หลักฐานจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ลงความเห็นว่า นายสุธี หวนจันทึก ขาดอากาศ จนเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่า พบลำใส้ใหญ่ฉีกขาด บริเวณมือข้างขวามีรอยช้ำ และบริเวณคอพบร่องรอยช้ำเหลือง ซึ่งตนก็ยังคาใจกับพฤติการการผูกคอตาย ว่าปกติคนผูกคอตายเลือดจะถูกคลั่งลงไปอยู่ที่ปลายเท้า แต่นายสุธีมีลักษณะเท้าซีด

เรื่องการเยียวยาขณะนี้ทางครอบครัวต้องออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานฌาปนกิจศพเอง ซึ่งเงื่อนไขในการเยียวยาของกองทัพ เน้นย้ำว่า ถ้าหากมีการฆ่าตัวตายจะไม่มีการชดเชยใด ๆ แต่ถ้าเป็นตายในหน้าที่ถึงจะดำเนินการขอเงินชดเชย เช่น เงินค่าฌาปนกิจ, เงินเบี้ยเลี้ยง แต่ในกรณีนี้ เบื้องต้นทางค่ายทหารมีการอนุเคราะห์ช่วยเหลือเรื่องการเคลื่อนย้ายศพไปชันสูตร และนำกลับมาส่งให้ที่วัดเท่านั้น

ตนยอมรับว่า ก็ไม่ได้มีเงินเยอะ สุดท้ายครอบครัวเองก็ต้องไปหาหยิบยืมคนอื่นเพื่อมาจัดงานฌาปนกิจให้กับนายสุธี รวมกับเพื่อน ๆญาติ ๆ ที่ช่วยระดมทุนเงินกัน ตนฝากถึงผู้ใหญ่ทางกองทัพบกว่าอยากให้ช่วยพิจารณาช่วยเหลือ ถึงแม้ว่านายสุธีจะผูกคอตายจริง แต่ก็อยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ อยากให้ช่วยเหลือตามเห็นสมควร อีกทั้งสภาพจิตใจตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ค่อยได้ ยังคงคาใจกับการเสียชีวิต สุดท้ายอยากบอกนายสุธีว่า "พ่อรักลูกมาก อยากให้ลูกไปสู่สุคติ"