กรณีอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถบัสทอดกฐินสามัคคี ของคณะคนงานจากโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น พื้นที่หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลูกโชเฟอร์รถบัสกฐินมรณะ ขออย่าแช่งพ่อ – เหยื่อเผยเพลงดังกลบเสียงเตือน พี่สาวดีเจรับถูกถล่ม
ล่าสุดวันที่ 12 ต.ค.63 ตั้งแต่ช่วงบ่าย ที่จุดเกิดเหตุทางข้ามรถไฟ ข้างสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น นายดนุสรณ์ คำมูลนา อายุ 24 ปี ลูกชาย พร้อมญาติเดินทางมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณนางรจนา คำมูลนา อายุ 43 ปี ผู้เสียชีวิต โดยนายดนุสรณ์ จุดธูป 16 ดอกพร้อมตั้งจิตอธิษฐานเรียกดวงวิญญาณแม่กลับบ้าน
นายดนุสรณ์ กล่าวว่า ตนกับแม่อยู่กันคนละที่ ได้คุยกับแม่ล่าสุดเกือบ 1 เดือนแล้ว ขณะนั้นแม่ไม่ได้บอกว่าจะมาทำบุญ มาทราบข่าวอีกทีช่วงเย็นวันเกิดเหตุก็ตกใจมาก รีบติดต่อญาติและเดินทางมารับศพแม่
เมื่อตนได้เห็นศพแม่ก็รับไม่ได้ เพราะแขนขาด ตัวขาดครึ่งท่อน ที่ผ่านมาแม่เป็นคนชอบทำบุญ แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ วันนี้จึงมาเรียกวิญญาณ บอกแม่ให้กลับบ้านไปด้วยกันที่ จ.พิจิตร
ด้านน.ส.สุวัลย์ดี โชติพนิชเศรษฐ์ อายุ 36 ปี น้องสาวนางรจนา กล่าวว่า อยากให้การรถไฟแห่งประเทศไทย รับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เพราะดูจากที่เกิดเหตุน่าจะเป็นเรื่องประมาทร่วม เนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่มีไม้กั้น และสัญญาณไฟใช้การไม่ได้ ทำให้ไม่มีสัญญาณบอกให้รถหยุด
โดยคิดว่าผู้เสียชีวิตแต่ละคนก็มีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงมีลูกหลานที่ต้องดูแล เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวต้องลำบาก ทั้งนี้ทางการรถไฟได้ติดต่อมาสอบถามเรื่องการจัดงานศพ แต่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการเยียวยาแต่อย่างใด
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กนางรจนา พบว่าได้โพสต์ภาพตัวเองถ่ายกับเพื่อนอีก 2 คน คาดว่าถ่ายบนรถบัส พร้อมข้อความ "Go to นครนายก"
จากนั้นเวลา 13.30 น. ที่จุดเกิดเหตุ นายอนันต์ นุ่มเวร อายุ 34 และนายวรชิต นุ่มเวร อายุ 43 ปี นิมนต์พระมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณนางสุวีน นุ่มเวร 46 ปี ผู้เสียชีวิต โดยมีการจุดธูป สวดมนต์ และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต
นายอนันต์ กล่าวว่า ตนทำงานที่ จ.ภูเก็ต ทราบข่าวการเสียชีวิตของพี่สาวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ จากนั้นจึงขับรถขึ้นมาที่เกิดเหตุทันที พร้อมดำเนินการรับศพพี่สาว ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้นอน ยอมรับเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยวันนี้ได้เข้ามาทำพิธีเชิญวิญญาณบอกพี่สาวให้กลับบ้าน ทั้งนี้ศพนางสุวีน จะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.พิษณุโลก
น.ส.เอมิซาน (Aye mi san) อายุ 33 ปี ชาวเมียนมา หนึ่งในผู้รอดชีวิต เล่าเหตุการณ์ขณะที่ตนและเพื่อน ๆ ที่ทำงานในโรงงานผลิตขวดพลาสติก จ.สมุทรปราการ เดินทางออกจากโรงงานตั้งแต่ 06.30 น. กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ ขณะนั้นมีฝนตก บรรยากาศภายนอกนอกมืด และภายในรถเปิดเพลงเต้นรำเสียงดัง จึงไม่ทราบว่ามีเสียงได้ยินเสียงสัญญาณเตือนของขบวนรถไฟทีกำลังแล่นขบวนมา
ตนมารู้สึกตัวอีกทีก็ทราบว่ารถบัสถูกรถไฟชน ซึ่งรถไฟมาด้วยความเร็ว กระแทกเข้ามาที่รถบัสที่ตนนั่ง โดยตนนั่งบริเวณช่วงตรงกลางของรถบัส ก่อนที่รถจะหมุนเเละพลิกตะแคงตนพยายามคลานหนีออกมาจากประตูหน้าต่าง และเห็นศพเพื่อนร่วมงานนอนเสียชีวิตอยู่
ขณะนี้ตนเครียดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบว่าภายในรถมีการดื่มสุราหรือไม่ นอกจากนี้ตนมีลางสังหรณ์ตากระตุกอยู่หลายวัน โดยก่อนจะไปทำบุญทอดกฐิน คนในโรงงานได้ชวนกันไป ตนจึงตัดสินใจไปด้วย โดยจัดครั้งนี้เป็นครั้งแรก มีทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา
