ญาติ 18 ศพเหยื่อเหตุการณ์รถไฟชนรถบัสทัวร์กฐิน ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ในจำนวนนี้มีชาวเมียนมา 6 คนที่เสียชีวิต ซึ่งศพยังอยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยในวันนี้ 13 ต.ค. 63 มีญาติมาติดต่อขอรับศพ แต่ยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากติดปัญหาเรื่องเอกสาร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลูกโชเฟอร์รถบัสกฐินมรณะ ขออย่าแช่งพ่อ – เหยื่อเผยเพลงดังกลบเสียงเตือน พี่สาวดีเจรับถูกถล่ม
- ลูกช็อกรับศพแม่ร่างขาด 2 ท่อนม้าเหล็กขยี้ สลดบุญกฐินครั้งแรก ร่วมเพื่อนแรงงานพม่า (คลิป)
- ตำรวจสรุป 6 ปม อุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสคณะกฐิน ชี้รถบัสประมาท
กรณีเหตุขบวนรถไฟ 852 D เลขที่ 5102 ซึ่งบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 30 ตู้ ชนรถบัส ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 30-1476 จ.พระนครศรีอยุธยา ขนส่งผู้โดยสารพนักงานโรงงานย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ไปทอดกฐินที่วัดบางปลานัก อ.เมืองฉะเชิงเทรา เหตุเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 เวลา 08.05 น. ขณะรถบัสเคลื่อนตัวข้ามจุดตัดรถไฟ บริเวณสถานีชุมทางคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ และเสียชีวิตรพ.จุฬาลงกรณ์ รวม 18 ราย
ล่าสุดวันนี้ 13 ตุลาคม 2563 ช่วงเช้าทีมข่าวเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พบนายวินัย หรือ Myint naing อายุ 46 ปี ญาติของ นายไน ชาวเมียนมาผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว เดินทางมาเพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคล เพื่อให้สถานทูตออกเอกสารยืนยันให้เพื่อรับใบมรณะบัตร
นายวินัย เปิดเผยว่า ยังติดขั้นตอนของสถานทูต แต่คาดว่าวันเรื่องจะดำเนินการเสร็จสิ้นวันนี้และวันพรุ้งนี้ (14 ต.ค.)จะสามารถมารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ ซึ่งตนเอง ครอบครัว เพื่อนๆวางแผนตั้งบำเพ็ญศพที่วัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ส่วนเรื่องเงินประโยชน์กรณีเสียชีวิตจากองทุนประกันสังคมและเงินส่วนอื่นๆนั้นยอมรับได้ไม่ติดปัญหาอะไร
นายวินัยเล่าให้ทีมข่าวฟังอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ตนมีญาติเดินทางไปกับคณะกฐิน 2 คน คือผู้เสียชีวิตที่นั่งอยู่ท้ายรถ ซึ่งคาดว่าน่าจะไปร่วมวงนั่งกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ และหลานสาวชื่อพิว (เมียนมา) ซึ่งนั่งเก้าอี้ฝั่งขวาริมหน้าต่างหลังคนขับพอดี ซึ่งยังโชคดีที่บาดเจ็บศีรษะแต่อาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังเสียใจที่หลานเขยด้วนจากไป เพราะนับว่าหลานเขยคนนี้เป็นคนดีของครอบครัวคนหนึ่ง มีวันสำคัญหลานเขยจะชอบซื้อสิ่งของให้ตลอด ไม่เคยขาด และเสียดายมากที่สูญเสียคนดีของครอบครัวไป
ขณะเดียวกันวันที่ทราบเหตุพยายามติดต่อทั้ง 2 คน และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด แม้จะได้ยินชื่อแล้วว่าหลานเขยเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่เชื่อ แต่สุดท้ายก็ได้รับคำยืนยันจากเพื่อนว่าไม่รอด จึงติดต่อญาติพี่น้องของนายไน ที่อยู่เมียนมาทุกคนก็เสียใจมาก
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ขอกล่าวโทษใคร คิดเพียงว่าถึงเวลาของเขาที่ทำบุญร่วมกัน และต้องจากกันไปพร้อมๆกัน ณ สถานที่แห่งนั้น แต่ขณะนี้ก็ยังห่วงเพราะยังไม่สามารถรับศพได้วันนี้ ถ้านับก็เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งกลัวว่าหลานเขยจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองตาย กลัวจะหลงทางไปเรื่อยๆ ซึ่งตามทำเนียมของคนพม่าจะสามารถเรียกวิญญาณเมื่อศพไปอยู่ที่วัดเท่านั้น ตอนนี้ทำได้เพียงแค่รอ
ทั้งนี้ จากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีชาวเมียนมาที่เสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย แบ่ง 5 ราย ซึ่งเป็นเพื่อนกันจะนำไปบำเพ็ญกุศลศพวัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ส่วนอีก 1 รายไปบำเพ็ญกุศลศพวัดใน จ.สมุทรสาคร