กลุ่มสิทธิพลเมืองในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ รายงานว่าความเกลียดชังชาวเอเชียในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น หลัง "ทรัมป์" ประกาศติดโควิด-19
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วอชิงตัน โพสต์ (Washington Post) เปิดเผยรายงานของกลุ่มต่อต้านการหมิ่นประมาท (ADL) ซึ่งระบุว่าความเกลียดชังชาวเอเชียและการใช้ถ้อยคำมุ่งร้ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 85 ในช่วง 12 ชั่วโมง หลังทรัมป์ทวีตว่าตัวเขามีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกครั้งแรก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ทรัมป์" มั่นใจมี "ภูมิคุ้มกันโควิด" หวนติดเชื้อซ้ำไม่ได้
- "ทรัมป์" ออกจาก รพ.แล้ว แม้ยังไม่หายขาดจากโควิด-19 ลั่น! อย่าไปกลัว
- ป่วยแต่ไม่หยุดโซเชียล "ทรัมป์" อัดคลิปยาวลงทวิเตอร์ มั่นใจจะหายเร็วๆ นี้!
- ทำเนียบขาวเผย "ทรัมป์" ยังสบายดี ไม่มีไข้
- ไม่รอด! 'โดนัลด์-เมลาเนีย ทรัมป์' ผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก!
สัดส่วนความเกลียดชังชาวเอเชียบนแพลตฟอร์มดังกล่าวยังคงเพิ่มสูงขึ้น ระหว่างวันที่ 2-5 ต.ค. ที่ผ่านมา
การศึกษาของกลุ่มฯ ถูกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) และเปิดเผยต่อสาธารณะโดยจูดี้ ชู สมาชิกสภาคองเกรส ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐสภาเอเชียน แปซิฟิก อเมริกัน คอคัส (CAPAC) โดยผลวิจัยมาจากการวิเคราะห์ทวีตมากกว่า 2.7 ล้านทวีต ระหว่าง 20.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค. ถึง 21.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค. ตามเวลามาตรฐานสากล
ชูระบุว่า คำกล่าวโทษชาวเอเชียอันไร้เหตุผลของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์อาจนำไปสู่การกระทำที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
Advertisement