"พล.อ.ประยุทธ์" แถลงจะไม่ลาออกจากตำแหน่งแน่นอน เผยหากมีโอกาสพูดกับผู้ชุมนุม ก็จะพูดว่า "ขอร้อง" ไม่อยากดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น พร้อมเตือนอย่าประมาทกับชีวิต และอย่าท้าทายมัจจุราช แนะสวดมนต์แผ่เมตตาบ้าง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ต.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุม ครม.นัดพิเศษ จากนั้นได้นำ ครม. แถลงข่าวยืนยันการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯ เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษ ให้ความเห็นชอบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง
- ประกาศห้าม รถติดเครื่องเสียง-รถปั่นไฟ-รถสุขา-รถบรรทุกเสบียง เข้าพื้นที่ชุมนุม
- รวบ "เอกชัย หงส์กังวาน" ตามหมายจับประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี
- ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายแล้ว! ตร.ประกาศดำเนินคดีเอาผิดย้อนหลังทุกราย
- พรุ่งนี้มาอีก! เยาวชนปลดแอกนัดชุมนุมอีกครั้ง 17.00 น.ที่ราชประสงค์
- ไม่ต้องมาสลายชุมนุม! แกนนำประกาศ 4 ทุ่มปิดเวทีแยกย้าย
- คุม "อานนท์" บินด่วนเชียงใหม่ นศ.มช. รวมตัวเรียกร้อง "ปล่อยเพื่อนเรา"
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบประกาศคำสั่งต่างๆ ที่ออกมาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งย้ำว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ร้ายแรง เพราะจากสถานการณ์ที่ทุกคนทราบดีว่าเกิดอะไรบ้างในประเทศขณะนี้ รัฐบาลจึงจำเป็นประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยความมุ่งหมายจำเป็นต้องดำเนินการไม่ให้มีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากที่ประชุมเห็นชอบในวันนี้ก็จะนำเข้าที่ประชุม ครม.ชุดใหญ่ต่อไป เพื่อทำให้ครบถ้วนตามกฎหมาย สิ่งสำคัญมีข้อกำหนดหลายประการทั้งการห้าม การให้กำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหรือจับกุม ซึ่งที่ผ่านมาใช้กฎหมายปกติ แต่วันนี้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีอำนาจครอบคลุมทุกอย่าง ขอเตือนอย่าทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ อยากให้เข้าใจสาระสำคัญของกฎหมายทั้งการห้ามการชุมนุม การตรวจค้นผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่มีอำนาจตาม พ.ร.ก. ย้ำว่ารัฐบาลมุ่งหวังให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ สถานการณ์ที่ผ่านมาเรียบร้อยมาโดยตลอด แต่เมื่อสถานการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นจึงจำเป็น อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้เร็วกว่านั้น ถ้าสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วให้สั้นที่สุด อย่างน้อย 30 วัน
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ได้มุ่งหวังทำร้ายใครแต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายและถูกขัดขวางการปฏิบัติงานทั้งสิ้น แสดงให้เห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข สร้างความมีเสถียรภาพ ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงคือผู้บริสุทธิ์ต่าง ๆ ขณะเดียวกัน ได้ให้แนวทางปฏิบัติผู้รับผิดชอบทั้งรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้ทุกคนระมัดการบังคับใช้กฎหมายนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี ฝากสื่อมวลชนหากใครทำข่าวในพื้นที่ชุมนุมขอให้ติดปลอกแขนสื่อ ถ้าไม่ติดไม่ให้เข้าพื้นที่ ซึ่งสื่อต้องช่วยกันในการรักษาความสงบเรียบร้อยด้วยอย่าให้ บางฝ่ายมีการถ่ายภาพแล้วนำไปทำให้สับสนอลหม่าน เพราะจะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้กำลัง แต่ถูกขัดขวางการทำงาน จึงถามจะอยู่กันแบบนี้หรือ ถ้าให้รัฐบาลทำอย่างเดียวก็จะเดินหน้าไม่ได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในเรื่องการเมืองหรือเรื่องในสภา ก็ดำเนินตามขั้นตอนและระเบียบซึ่งไม่กี่วันก็จะมีการเปิดประชุมสภาก็ขอให้ว่ากันตรงนั้น รวมถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญย้ำว่ารัฐบาลสนับสนุนให้ดำเนินการอยู่แล้ว จึงขอเตือนทุกคนอย่าทำผิกฎหมาย โดยเฉพาะการใช้สื่อโซเชียลที่บิดเบือน ซึ่งนักข่าวเองก็มีการใช้ต้องระมัดระวังด้วย ขณะเดียวกัน วันนี้พรรค รองนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาครบทุกคน และมีมติเห็นชอบบังคับใช้กฎหมายนี้ ขอฝากทุกคนให้ช่วยให้การสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วย ขณะเดียวกันในส่วนของนิสิตนักศึกษาฝาก ผู้ปกครอง ช่วยดูแล อย่างถึงที่สุดเพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับใคร ซึ่งอันตรายเพราะไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังประกาศจะไม่ออกจากตำแหน่งแน่นอน ที่อยู่ต่อไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวถามกรณีผู้ชุมนุมระบุว่านายกฯ อยู่ในตำแหน่งนานเกินไป พล.อ.ประยุทธ์ พูดแค่ว่า "ฮี่โธ่" อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามเรื่องการรัฐประหารเรื่องรัฐประหาร
โดยช่วงท้ายนายกฯ ตอบคำถามสื่อและเตือนว่าอย่าประมาทกับชีวิต เพราะคนเราสามารถตายได้ทุกเวลา ขออย่าท้าทายกับพยามัจจุราช แนะผู้สื่อข่าวให้ไปท่องบทสวดมนต์ และหัดแผ่เมตตาบ้าง ท้าผู้สื่อข่าวท่องบทสวดมนต์แข่ง ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าหากมีโอกาสพูดกับกลุ่มผู้ชุมนุมจะพูดอะไร นายกฯ ตอบว่า "ขอร้อง...ไม่อยากดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น"