กอร.ฉ.ชี้แจงควบคุมฝูงชนได้มีการใช้น้ำฉีด และใช้แก๊สน้ำตาประเภทสารเคมีผสมน้ำ ซึ่งเป็นไปตามหลักการใช้กำลังสากล ส่วนสีที่ใช้ผสมลงไปในน้ำเป็นเพียงสีธรรมดา หวังผลทางจิตวิทยาให้ผู้ชุมนุมเกิดความกลัว
สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค. 63 โดยมีการฉีดน้ำผสมสารเคมีและสีน้ำเงินใส่ฝูงชนนั้น ทางกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ชี้แจงว่า เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้มีการใช้น้ำฉีด และใช้แก๊สน้ำตาประเภทสารเคมีผสมน้ำ ซึ่งเป็นไปตามหลักการใช้กำลังสากล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ฟอร์ด ทัตเทพ" แกนนำมวลชน ยอมประกาศยุติชุมนุม 2 ทุ่ม
- แกนนำประกาศย้ายไปจุฬาฯ มวลชนทยอยเดินออก หลังตำรวจกระชับพื้นที่แยกปทุมวัน
- ด่วน! เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ชุดคุมฝูงชนดันติดประชิด
- เตือนเซลฟี่ร่วมชุมนุม เท่ากับรับสารภาพ ตร.ชี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญ
- "บีทีเอส" งดจอด 5 สถานี "เอ็มอาร์ที" งดจอดสามย่าน
- มวลชนแน่นเต็มพื้นที่แยกปทุมวัน ตร.ปิดถนนพญาไทเพิ่ม แยกราชเทวี-สามย่าน
- ผบ.ตร.ออกคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามใช้เส้นทาง อาคาร สถานที่
"ขอเรียนชี้แจงว่า ที่ปรากฏเห็นเป็นน้ำสีต่าง ๆ จากรถฉีดน้ำ คือ การนำสีซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมาผสมกับน้ำ โดยสีต่าง ๆ ที่ใช้ผสมลงไปในน้ำเป็นเพียงสีธรรมดาเท่านั้น เป็นการใช้จิตวิทยาให้ผู้ชุมนุมเกิดความกลัว และสีดังกล่าวล้างออกยากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแยกผู้ชุมนุมออกจากประชาชนทั่วไปได้
โดยในหลายประเทศก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีการใช้สารเคมีผสมน้ำฉีดพ่นกระจายเป็นวงกว้างนั้น สารเคมีดังกล่าว คือ แก๊สน้ำตาประเภทหนึ่ง สารผู้ที่สัมผัสจะไม่ได้รับอันตราย มีเพียงอาการแสบตาชั่วครู่และแสบระคายเคืองผิวหนังเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าไม่มีการผสมสารเคมีประเภทกรดแต่อย่างใด"
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้จัดให้สารเคมีดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ประจำกองร้อยควบคุมฝูงชน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้จะต้องผ่านการฝึกอบรมตามที่กำหนดไว้