สหรัฐฯ จะลงโทษนักโทษหญิงด้วยการประหารชีวิต ซึ่งถือเป็นโทษประหารรายแรกในรอบ 67 ปี
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (ดีโอเจ) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ต.ค. 63) ยืนยันว่าจะดำเนินการประหารชีวิต
นางลิซา มอนต์โกเมอรี ผู้ต้องโทษคดีฆาตกรรมโดยเจตนา จากเหตุสะเทือนขวัญเมื่อปี 2547 ส่งผลให้เธอจะกลายเป็นนักโทษหญิงรายแรกในรอบ 67 ปี ที่จะถูกประหารชีวิตในอเมริกา
เมื่อปี 2547 นางมอนต์โกเมอรี ซึ่งอาศัยอยู่ในมลรัฐแคนซัส ได้ออกอุบายลวงซื้อลูกสุนัขจาก นางบ๊อบบี้ โจ สตินเนตต์ หญิงท้องอายุครรภ์ 8 เดือน และทำทีเดินทางไปยังบ้านของนางสตินเนตต์ในมลรัฐมิสซูรี เพื่อรับลูกสุนัข แต่นางมอนต์โกเมอรี กลับทำร้ายร่างกายจนนางสตินเนตต์หมดสติ จากนั้นได้ใช้มีดผ่าท้องซึ่งเป็นเหตุให้เหยื่อเสียชีวิต ก่อนขโมยทารกเพศหญิงในครรภ์ของนางสตินเนตต์ไป และนำทารกไปแอบอ้างกับครอบครัวตัวเองว่า เด็กน้อยเป็นลูกของตน
ต่อมานางมอนต์โกเมอรี ถูกตำรวจจับกุม ส่วนทารกเพศหญิงที่ถูกขโมย นั้นได้รับการดูแลจาก สามีของหญิงที่เสียชีวิต และปัจจุบันมีอายุได้ 16 ปีแล้ว
ทั้งนี้ นางมอนต์โกดมอรีจะเป็นนักโทษหญิงที่ถูกประหารคนแรกของประเทศในรอบ 67 ปี นับตั้งแต่มีการประหารนักโทษหญิงคนล่าสุดในอเมริกาเมื่อปี 2496 โดยทางการสหรัฐฯ กำหนดให้มีการประหารเธอด้วยวิธีฉีดสารพิษเข้าสู่กระแสเลือดในวันที่ 8 ธ.ค. ที่จะถึงนี้
สำหรับนักโทษหญิงที่ถูกประการก่อนหน้านี้คือ นางบอนนี่ เฮดดี ถูกประหารด้วยการรมแก๊สที่มลรัฐมิสซูรี จากคดีลักพาตัวและฆาตกรรมเด็กชายวัย 6 ขวบ