ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อ "น้องวีจิ" ลูกสาววัย 1 ขวบครึ่ง สำหรับพระเอกพ่อลูกอ่อนซามูไร "หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์" หลังตัดสินใจยุติสถานะชีวิตคู่กับอดีตภรรยา ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ ถึงบทบาทการทำหน้าที่พ่อที่เฝ้ารอคำว่า "รัก" จากปากลูกสาว คนที่ทำให้รู้ถึงเป้าหมายในชีวิตนี้จะทำอะไรเพื่อใคร เพื่ออนาคตของใคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "อิน บูโดกัน" เผยยอมให้สามีซื้อกินได้ แต่ห้ามเลี้ยงเป็นตัวเป็นตน!
- "ลูลู่ อาร์สยาม" แค่งอน “ลาล่า” ตามประสาพี่น้อง ไม่ได้สร้างกระแสโปรโมทเพลง!!
- "ต่าย สายธาร" เผยประสบการณ์การทำงานของหน่วยกู้ชีพ ที่ต้องอยู่กับความเป็นความตายตลอดเวลา!
- "ดวงตา คงทอง" กลับมาทวงบัลลังก์ดีว่าลูกทุ่ง ยันไม่ได้หนีไปบวชชีเพราะหนีรัก!
- "หม่อมเอ็ม อรรถพล" ชีวิตจากตลกคาเฟ่สู่นักแสดงเจ้าบทบาทงานชุกทั้งปี!
- "นิว ชัยพล" เคยชวดงานเป็นปี เพราะ "มาริโอ้ เมาเร่อ"
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ฉายา ซามูไรพ่อลูกอ่อน มาจากไหน
หนุ่ม ศรราม : เราสัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อมวลชน เขาถามเราว่าจะเรียกเราว่าเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวได้ไหม เราก็ตอบขำๆ คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวมีคนใช้เยอะแล้ว เราเลยบอกว่าใช้ ซามูไรพ่อลูกอ่อน ดีกว่า ก็เลยใช้คำนี้ มันมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่เราดูตอนเด็กๆ จะมีลูกเกาะอยู่ข้างหลัง เราเห็นก็น่ารักดี
ถาม แล้วในชีวิตจริงตอนนี้เป็นแบบนั้นไหม
หนุ่ม ศรราม : เป็นนะครับ ตอนนี้เราก็ตั้งใจทำงานเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด
ถาม ตอนนี้ก็รับละคร 7 วันเลย แล้วเอาเวลาที่ไหนอยู่กับลูก เอาเวลาไหนพักผ่อน
หนุ่ม ศรราม : ตอนนี้รับ 2 เรื่อง ถ้าละครถ่าย 8-9 โมง จะใส่บาตรพร้อมวีจิ เพราะเราสอนให้ลูกใส่บาตรตั้งแต่อยู่ในท้อง ตื่นมาใส่บาตรกัน ผมเป็นคนชอบใส่บาตร ถ้าเราขับรถไปทำงานเช้า แล้วเราเจอพระตรงไหน เราก็จะแวะใส่บาตรอยู่เป็นประจำและทำมาตลอด เราจะซื้อของติดไว้ในรถอยู่แล้ว อย่างในช่วงเช้าที่เราบอกว่าพาลูกใส่บาตร พอใส่เสร็จก็จะเล่นกับเขาในช่วงเช้า แล้วก็ทานข้าวกับลูกก่อนไปทำงาน หรือถ้าวันไหนเราถ่ายน้อยแค่ 2-3 ฉาก เราก็จะพาลูกไปกองด้วย พาไปโลเคชั่นสบายๆ พอเราถ่ายเสร็จ เราก็พาเขากับคุณแม่ ไปทานข้าวนอกบ้าน ให้เขาได้เจอสิ่งแวดล้อมอื่นๆ บ้าง บางทีสตูดิโอใหญ่มาก มีต้นไม้เยอะ เราก็สามารถพาไปโลเคชั่นได้ อีกอย่างวีจิเลี้ยงง่ายด้วย ตอนนี้ 1 ขวบกับ 6 เดือน
ถาม เหนื่อยไหมที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
หนุ่ม ศรราม : ไม่เหนื่อยเลยครับ เพราะเรามีพี่เลี้ยงอยู่แล้วครับ
ถาม ความเป็นส่วนตัวของเราเหลือไหม
หนุ่ม ศรราม : ก็ยังมีนะครับ ผมรู้สึกว่ามนุษย์เราต้องมีพลังบวกก่อน ถ้าตัวเราเองไม่มีพลังบวก คนรอบข้าง คนใกล้ชิดเราก็จะไม่มีพลังบวก ถ้าวันนี้ผมเลิกงานเร็ว ผมอยากจะแวะกินลาบเป็ดข้างทาง ทำให้ผมมีความสุข ผมก็แวะ เราก็ต้องมีเวลาให้กับตัวเองด้วย
หนุ่ม ศรราม : อย่างล่าสุดเราก็พาวีจิไปเที่ยว เพราะวันนั้นไม่ได้มีคิวถ่ายบังเกิดเกล้า เลยตัดสินใจว่าพาวีจิไปทะเลดีกว่า ไปเดินดูทราย ดูปลาบ้าง พาเขาไปเล่นน้ำ
ถาม เวลาลงไอจีจะมีคอมเมนต์ทั้งดีและไม่ดี เรามีวิธีการจัดการยังไง
หนุ่ม ศรราม : ผมเชื่อว่าบางครั้งคนที่เข้ามาดู ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็อยากช่วยเลี้ยงลูกเรา อารมณ์น้องน่ารัก คือเขาอยากจะแนะนำ แต่ความเป็นจริงแล้ว แต่ละบ้านมีวิธีการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน มีคุณหมอที่ปรึกษาที่ดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นในความปลอดภัยที่เราเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมจะนำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเราอยู่แล้ว ส่วนคอมเมนต์อะไรที่มันไม่ดี บางทีก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ หรือว่าบ้างครั้งมันกวนใจมาก มีอวตารมาตอบโต้ ต้องมาทะเลาะกันในรูปของเราอยู่แบบนี้ ผมก็ลบแล้วก็บล็อกครับ
ถาม มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเราบ้างไหม
หนุ่ม ศรราม : ไม่มีเลยครับ แต่ว่ารูปลูกของเรา เขาน่ารัก เราไม่ต้องการให้ใครมาทะเลาะกันในรูปนั้นของเขา ทุกวันนี้เรายังนั่งกดหัวใจให้คนที่เขาชมลูกเราเลย ทั้งๆ ที่เราไม่เคยทำ เพราะเราแบบโลวเทคโนโลยีมาก (หัวเราะ) เรายังมาจิ้มหัวใจขอบคุณพี่ๆ ที่เขาเอ็นดูวีจิ เราไม่อยากให้ไอจีเราเป็นที่ที่ทะเลาะกันด้วยอวตาร ด้วยคอมเมนต์ต่างๆ ที่มันไม่ดี
ถาม ตอนนี้พัฒนาการของน้องวีจิเป็นยังไงบ้าง
หนุ่ม ศรราม : พัฒนาการดีมาก เราได้พี่เลี้ยงมาจากเนอสเซอรี่ของเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกัน เขาเลี้ยงเด็กมา 20-30 ปี ตอนนี้เดินได้แล้ว กำลังจะพูดป๊ะป๋า เริ่มหลุดมาคำสองคำ ไป ไป หม่ำ หม่ำ เริ่มมีตารางเวลา เช่น อ่านนิทาน อาบน้ำ ตอนนี้ออกไปเดินเล่นบ้าง
หนุ่ม ศรราม : ผมพูดตรงๆ นะ ผมรอคำว่า "รัก" จากผู้หญิงที่ชื่อวีจิ เพียงแค่คำเดียว จะได้มีแรงเยอะๆ
ถาม การที่เรามีลูก เป้าหมายในชีวิตของเราเปลี่ยนไปไหมจากที่เราเคยมองไว้ เพราะในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เจอความเปลี่ยนในชีวิตเยอะมาก
หนุ่ม ศรราม : เปลี่ยนครับ พี่มอสพูดกับผมว่าตอนหนุ่มยังไม่ได้แต่งงาน เหมือนขับรถออกไปทุกวันแต่ไม่รู้ว่าไปไหน แต่พอมีวีจิ หนุ่มมันรู้เลยว่ามันขับรถแล้วมันไปไหน ชัดเจนมาขึ้นว่าเรารู้ว่าเราจะทำอะไรเพื่อใคร เพื่ออนาคตใคร
ถาม หนุ่มวางแผนให้กับลูกสาวยังไง
หนุ่ม ศรราม : ให้เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีตามกำลัง มีน้อยก็ใช้น้อย มีมากก็ใช้ให้พอดี ไม่มีก็อด อย่าไปยุ่งของคนอื่นเขา
ถาม ถามถึงเรื่องผลงาน เห็นว่าตอนนี้ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับละคร "บังเกิดเกล้า"
หนุ่ม ศรราม : ประมาณต้นพฤศจิกายนได้ดูแน่นอนครับ เป็นการพบกันครั้งแรกของผมกับ ป๊อก ปิยธิดา ซึ่งเวอร์ชั่นเก่าเป็น พี่แซม กับ พี่นก สินจัย สำหรับละครเรื่องนี้ บังเกิดเกล้า คือ พ่อแม่คือผู้บังเกิดเกล้า สอนลูกให้มายังไง ลูกก็จะโตมาตามแบบที่พ่อแม่สอน ต้องบอกว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งยิ่งใหญ่ ไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อนเลย ในเรื่องผมสามารถถีบภรรยาได้ เวลาที่เรียกภรรยา เราใช้สรรพนามว่า กู มึง เลย เพราะเรื่องมันเป็นอย่างนั้น จะได้ครบทุกรสจริงๆ มันตอบโจทย์จริงๆ ทัวร์ก็ลง กฐินก็ลงผมแน่นอน พี่อ้วนก็เล่นเรื่องนี้ ร้ายไม่แพ้เรา เพราะเขาจะคอยเสี้ยมเราตลอดในเรื่อง
ถาม ในเวอร์ชั่นก่อน บังเกิดเกล้า เป็นละครเครียด ดราม่าจัดมากๆ
หนุ่ม ศรราม : ถามว่าความเครียดมีไหม มี แต่ก็จะมีความสนุกที่พี่ฉอด พี่กู่ เบรกไว้ไม่ให้เครียดมาก จะเป็นสีสันและรสชาติที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นเก่าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นคอมเมดี้ คอมเมดี้จะเป็นเพียงแค่กลิ่นที่เข้ามาอยู่ให้ครบรสเท่านั้น เหมือนต้มยำอมรินทร์ ที่มีครบทุกรส