เหมือนได้ชีวิตใหม่เลยทีเดียวสำหรับนักร้องสาวอีสานขาแดนซ์ "แคนดี้ รากแก่น" ที่ก่อนหน้านี้ก็โดนห่างว่าวกับความผิดในข้อหาครอบครองสินค้าควบคุมโดยผิดกฎหมายเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีชื่อของตนเองเป็นผู้ครอบครองเอทิลแอลกอฮอล์กว่าหมื่นลิตร และจากนั้นก็ได้มีการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ข้อหาการครอบครองสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีโดยมิชอบ เรียกว่าทนอยู่กับมรสุมนี้มากว่า 7 เดือนเต็ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "แคนดี้ รากแก่น" เล่าปาฏิหาริย์ไอ้ไข่ บินแก้บนประทัดแสนนัด!
- “แคนดี้ รากแก่น” ลั่นแค่อยากช่วย "พ่อเจนนี่" หาเงินหลังให้แต่งเพลง “เนรคุณ”
- “แคนดี้” บน “ไอ้ไข่” หวังงานปัง ไร้แพลนแต่งสาวหล่อ
วานนี้ (22 ตุลาคม 2563) แคนดี้ ได้เข้าไปรับฟังคำพิพากษาตามหมายศาลที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งปรากฏว่าทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดายพร้อมกับทางบริษัทเองก็ได้มีการจ่ายเงินค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 6 หมื่นบาทเนื่องจากเป็นเพียงแค่คดีข้อหาการครอบครองสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีโดยมิชอบก็เท่านั้น
แคนดี้ บอกว่า ด้วยตัวบริษัทแม่มีเอกสารการสั่งซื้อเพื่อนำไปบริจาคและเอกสารคำร้องขอรับบริจาคจากชุมชนและตำบลมายืนยันชัดเจนและถูกต้องทุกอย่าง พลาดแค่ตรงที่นำของทั้งหมดมาวางไว้ในพื้นที่ชุมชน ซึ่งมันผิดที่ผิดเวลาก็เท่านั้น ไม่ได้มีการสั่งซื้อมาสำหรับใช้ในการค้าเพื่อหากำไรเกินตัว ตลอดระยะเวลาที่รอคำตัดสินนี้ ตนยืนยันว่าทำตามกระบวนการทางกฎหมายทุกอย่างจึงใช้เวลานานถึง 7 เดือน
นอกจากนี้ แคนดี้ เผยถึงเรื่องราวความเชื่อของการหลุดพ้นคดีนี้ได้จากการเคารพบูชาไอ้ไข่ ซึ่งระหว่างที่ผู้พิพากษากำลังอ่านคำตัดสินตนก็กำองค์ไอ้ไข่พร้อมกับการขอพรเพื่อช่วยให้จบสักที เพราะอยากจะใช้ชีวิตปกติแล้ว เมื่อตนมีโอกาสได้อธิบายต่อศาล ศาลก็เข้าใจแล้วจบที่การจ่ายค่าปรับ ซึ่งง่ายกว่าที่คิดเยอะมาก และแน่นอนว่างานนี้ตนก็มีแพลนจะเดินทางไปแก้บนที่ จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้อีกด้วย
ส่วนตัวแล้วมองว่านี่เป็นช่วงที่เลวร้ายของชีวิตมากกว่า ทุกครั้งที่ได้ยินคนรอบข้างถามถึงความคืบหน้าของคดีแล้วใช้คำว่า “คดีกักตุน” ตนมองว่ามันเป็นคำที่รุนแรงมาก จึงทำให้รู้สึกเครียดและนอนไม่หลับทุกครั้งที่ได้ยิน แต่เมื่อจบคดีด้วยดีก็เหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก เรียกง่ายๆว่าเหมือนได้ชีวิตใหม่ พร้อมสำหรับเดินหน้าทำงานด้วยความสบายใจเลยทีเดียว วันนี้จึงขอวอนผ่านอมรินทร์ทีวีให้ทุกคนเข้าใจโดยทั่วกันว่าตนหลุดพ้นจากคำครหาแล้ว
หลังจากนี้ตัวเองก็บอกว่าจากประสบการณ์ชีวิตครั้งใหญ่ครั้งนี้ทำให้รู้เลยว่าต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพราะหากประมาทเพียงแค่นิดเดียวมันจะทำให้ชีวิตทั้งหมดอมทุกข์ไปตลอดได้เลย.
Advertisement