เปิดใจนักเรียน - นักศึกษาร่วมม็อบ พ่อแม่เปิดทาง ย้ำหวังชาติเปลี่ยนแปลง (คลิป)

วันที่ 24 ต.ค. 63 บรรยากาศการชุมนุมของเหล่ามวลชนเรียกร้องประชาธิปไตย ในนาม "คณะราษฎร" มีการนัดรวมตัวกันในหลายจุดทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บริเวณแยกกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง, ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ, แยกบางนา และจุดหลักหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

นายวิน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผู้ร่วมชุมนุม กล่าวว่า ตนออกมาร่วมชุมนุมเพราะอยากเป็นหนึ่งเสียงที่แสดงออกไปให้สังคมรับรู้ว่าอยากปฏิรูปการเมือง และพร้อมเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ส่วนตัวบอกพ่อแม่ทุกครั้งก่อนมาชุมนุม ซึ่งพ่อแม่ก็ตักเตือน แสดงความเป็นห่วง แต่ไม่ได้ห้ามปราม

ส่วนเรื่องการเรียนตนไม่เคยทิ้ง หากวันไหนมีการบ้านก็จะแบ่งเวลาทำให้เสร็จก่อนออกมาชุมนุม หรือกลับไปทำหลังชุมนุมยุติ เพราะปกติเป็นคนนอนดึกอยู่แล้ว

ส่วนวันนี้ครบกำหนด 3 วันที่ทางแกนนำให้เวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อลาออก ตนคิดว่ามีโอกาสสูงที่นายกรัฐมนตรีจะไม่ตอบรับ หากเป็นเช่นนั้นก็อยากให้มีการจัดชุมนุมเรื่อย ๆ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออกต่อไป

นายไกด์ (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 อายุ 19 ปี เปิดเผยว่า ส่วนตัวทราบข้อมูลข่าวจากเฟซบุ๊ก ตลอดจนเพื่อนก็ได้บอกกล่าวกันปากต่อปาก จุดประสงค์ที่ตนเองเดินทางมาในวันนี้เพียงเพื่อให้ทางผู้ใหญ่หรือคนที่มีอำนาจ ออกมาเปลี่ยนแปลงประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปการศึกษา เพราะประเด็นเรื่องการศึกษานั้นตนมองว่าเป็นประเด็นหลักที่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือการเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว ทำให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังคงอยู่ในประเทศ ตนอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจึงต้องออกมาชุมนุม และมาชุมนุมแล้วมากกว่า 3 ครั้ง

ทั้งนี้ ครอบครัวเองก็เข้าใจและพร้อมสนับสนุน ไม่ได้มีการปิดกั้นให้ตนเดินทางมาร่วมชุมนุม เพราะก็เล็งเห็นปัญหาเหมือนกันในระบบการศึกษา แต่เป็นห่วงเวลาที่ตนเดินทางมาร่วมชุมนุม กำชับให้ดูทางหนีทีไล่ให้ดีเวลาเกิดเหตุการณ์ร้ายเรงหรือชุลมุน ส่วนความพร้อมในการมาชุมนุม ได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ประเภทเสบียงอาหาร น้ำดื่ม เสื้อกันแดดหรือเสื้อกันฝนมาด้วย ตนไม่กลัวหากเกิดเหตุการณ์ชุลมุน เพราะการชุมนุมที่ตนมานั้นยึดหลักสันติ พร้อมเจรจา หากไม่สำเร็จก็คงเดินหนีไป

นายต้น (นามสมมติ) อายุ 19 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เล่าว่า ตนเดินทางมาบริเวณจุดนี้เพราะบ้านอยู่แถวนี้ และเดินทางมาสะดวก ที่ผ่านมาเคยเข้าร่วมชุมนุมมาแล้ว 2 ครั้ง จุดประสงค์คืออยากออกมาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องประชาธิปไตย ตลอดจนข้อเรียกร้องต่าง ๆ ของกลุ่มแกนนำที่เคยเสนอไป 3 ข้อก่อนหน้านี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้นำข้อเรียกร้องไปแก้ไข

ส่วนทางครอบครัวเองก็รับทราบมาตลอดว่าตนเองจะมาร่วมชุมนุม คุณพ่อคุณแม่เองก็พร้อมรับฟังถึงจุดยืนที่ตนมี ตลอดจนตนเองก็อธิบายถึงสิ่งที่เราต้องการ แม้ว่าช่วงแรกเองท่านอาจจะไม่เข้าใจ แต่เมื่อพูดด้วยเหตุผลท่านก็พร้อมรับฟัง และสนับสนุนในสิ่งที่เราทำ ส่วนอุปกรณ์เตรียมความพร้อมในการเดินทางมาชุมนุมครั้งนี้ เตรียมอาหารและเครื่องดื่มมาเป็นหลัก ตลอดจนร่มกันฝนและกันแดด ทั้งนี้ ในส่วนของอุปกรณ์ป้องกันตัวนั้นตนเองมองว่าไม่จำเป็น เพราะการชุมนุมทุกครั้งก็ประกาศชัดเจนว่าพวกเราไม่ชอบความรุนแรง และชุมนุมอย่างสันติ

สำหรับการชุมนุมบริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิ นายน็อต นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยชื่อดัง แกนนำการปราศรัย เปิดเผยว่า เดิมทีตนเป็นแค่ผู้มาชุมนุมในย่านบางกะปิ แต่มีครั้งหนึ่งที่โดนแกง ไม่ได้มีการชุมนุมเกิดขึ้น ตนจึงได้รวบรวมคนที่คิดเหมือนตนในวันนั้นประมาณ 15 คน แล้วตั้งเป็นทีมในจุดนี้

ทั้งนี้ ตนมาทุกครั้งจากครั้งแรกแค่ 100 กว่าคน จนมาล่าสุด 500 คน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ก็อยากจะให้ถึงหลัก 1,000 คน โดยตนมีจุดยืนว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนย่านบางกะปิ ไม่มีการปิดการจราจร เพราะเข้าใจคนย่านบางกะปิ เนื่องจากบริเวณนี้รถติดมาก

สำหรับตนรู้สึกถึงความเลื่อมล้ำทางการศึกษา ตนเคยเจอเหตุการณ์ที่ยังไม่มีเงินในการจ่ายค่าเล่าเรียน แต่ทางมหาวิทยาลัยก็รีบเร่ง รวมถึงช่วงนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ยังมีการสั่งห้ามไม่ให้มาชุมนุม และจะเชิญออกจากการเป็นนักศึกษา แต่ตนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็ขอยืนกรานที่จะมาชุมนุม และถึงแม้ทางมหาวิทยาลัยจะให้ตนออก ตนก็จะนำกฎหมายที่คุ้มครองนักศึกษาเข้ามาสู้ ในส่วนของทางครอบครัวตนก็สนับสนุน พวกเขาก็มีความเป็นห่วง คอยบอกเสมอให้ดูแลตัวเอง

สำหรับอุปกรณ์ที่ตนจะพกมาด้วยทุกครั้งคือ แมสก์ และแว่นตาดำ เพื่อปกปิดตัวตน รวมถึงเตรียมชุดมาเปลี่ยนด้วย นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อป้องกันตัวเอง พวกตนมาด้วยมือเปล่าจริง ๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในทุกการชุมนุมมีแค่โทรโข่งตัวเดียว นอกจากนี้ ก็จะมีการเตรียมน้ำกับขนมมาจำนวนหนึ่งเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยงบก็มาจากพวกตนระดุมทุนกัน บางส่วนผู้ใหญ่ที่มาชุมนุมก็ให้มาบ้าง ตนยืนยันว่าจะชุมนุมจนกว่ารัฐบาลชุดนี้จะออกไป

นายบอย (นามสมมติ) นักเรียนขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เดินทางมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยรถบัสขนส่งสาธารณะ และต่อรถตู้มา ยังศูนย์การค้า โดยทุกคนตั้งใจมาเที่ยว แต่ทราบข่าวจากทวิตเตอร์ว่ามีการชุมนุมที่นี่ จึงปักหลักรอชุมนุมก่อนที่จะกลับบ้าน

นายบอย เปิดเผยว่า ถือเป็นครั้งแรกของการเข้าร่วมชุมนุม ที่ผ่านมาติดตามแต่ข่าวสาร วันนี้มาถึงแล้วจึงถือโอกาสเข้าร่วมสักครั้ง เพื่อเปิดประสบการณ์ พร้อมยืนยันว่าตนเองเป็น 1 คนที่อยากให้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบคืนมา แม้ตัวเองจะเป็นเด็ก แต่ไม่ใช่ทำตามกระแส ดังนั้นใจลึก ๆ อยากได้ประชาธิปไตยกับคืนมาและอนาคตข้างหน้านั้นจะได้ดีกว่าเดิม จะได้ไม่ต้องพบกับการวางอำนาจกดขี่ประชาชน โดยเฉพาะในโรงเรียน เวลาที่นักเรียนกระทำ ไม่ถูกใจคุณครู คุณครูก็จะเป็นใหญ่เสมอ

สำหรับการร่วมชุมนุมวันนี้ ตนบอกแม่แล้ว แม่เป็นห่วงปกติ แต่มุมมองการเมืองแม่จะไม่ค่อยยุ่ง มีแต่ย้ำเตือนตนเองว่าเป็นห่วง ไม่อยากให้มาร่วม กลัวมีเหตุเกิดขึ้น ซึ่งตนก็ดูแลตัวเองดี