เมื่อวันที่ 25 ต.ค.63 บริเวณสี่แยกราชประสงค์ หนึ่งในนักศึกษาที่ขอออกมาแสดงจุดยืนเรียกร้องทวงคืนประชาธิปไตยด้วยการเข้าร่วมชุมนุม อย่าง “น้องบอย” (นามสมมติ) หนุ่มวัย 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่ออกมาตั้งแต่เวลา 16.00 น. พร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน และชูป้ายกระดาษที่เขียนว่า “ภาษีกู” ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมนับพัน
โดยน้องบอย บอกว่า ส่วนตัวออกไปร่วมชุมนุมทุกครั้งที่มีการชุมนุม และไปทุกที่ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็เต็มใจไปตลอด เพราะรู้สึกว่าหากสะดวกที่จะเดินทาง และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น ก็อยากที่จะเป็นตัวแทนของคนอื่น ๆ ที่ไม่สามารถเดินทางมาเรียกร้องสิทธิ์ครั้งนี้ได้ รวมถึงอยากจะแสดงจุดยืนกับ 3 ข้อเรียกร้องจนกว่าฝั่งรัฐบาล จะมีปฏิกิริยาตอบรับกลับมา
ด้านของผู้ปกครอง “น้องบอย” ก็บอกว่าที่บ้านทราบและสนับสนุนให้ออกมาเต็มที่ เพราะได้มีการพูดคุยกันอย่างเข้าใจแล้วและพ่อแม่ก็รับรู้ได้ว่าลูกควรที่จะออกไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นได้ชัดเจนว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองถดถอยทุกอย่าง ดังนั้นการที่ลูกจะออกมาต่อสู้เพื่อครอบครัวก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
เช่นเดียวกับ “น้องสาว” (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 อายุ 22 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ขอนแก่น แต่เดินทางมาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 พร้อมกับผู้ปกครองที่ย้ายบ้านมาอยู่ที่กรุงเทพฯ บอกว่า หลังเลิกเรียนจึงชวนเพื่อนมาร่วมชุมนุมด้วยกันทั้งหมด 3 คน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว และจะอยู่จนกว่าจะมีการประกาศยุติชุมนุม
โดยเหตุผลที่ตัดสินใจออกมา ก็เพราะอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรม และประชาธิปไตยกลับคืนประเทศไทย ยอมรับว่าผู้ปกครองทราบทุกอย่าง หากทำแล้วทำให้ในอนาคตเศรษฐกิจไทยฟื้นฟูกลับมาดีได้ คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้สบายขึ้นด้วย จนสุดท้ายก็ได้รับอนุญาตให้ออกมาชุมนุม
เมื่อถามว่ากลัวเรื่องของความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ “น้องสาว” บอกว่า ลึก ๆ ก็แอบกลัว แต่ก็อยากมาเหมือนกัน ส่วนอุปกรณ์ที่นำมาวันนี้ ก็มีแค่หน้ากากอนามัย พร้อมกับหัวใจที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าการมาครั้งนี้จะไม่ได้เป็นการมาฟรีอย่างแน่นอน