จากกรณี “ดีเจเคนโด้” ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการส่วนตัว ที่ได้ซื้อปลากระเบนมาเลี้ยง แต่โดนพิษจากหางปลากระเบน แค่เฉี่ยวๆ แต่ถึงขั้นทำให้นิ้วเน่า เนื้อตาย และเฉียดตายจากพิษปลากระเบน
ล่าสุด ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับ
นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ ดีเจเคนโด้ พิธีกรชื่อดัง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดกับ นายธนวัฒน์ เอื้ออาดูลย์กูล ผู้จัดการส่วนตัว เมื่อวันที่ 18 ก.พ.61 ที่ผ่านมา วันนั้นได้ทำการล้างตู้ปลากระเบน เพราะเลี้ยงมาเป็นปีแล้ว มีประมาณ 4-5 ตัวในตู้ ขณะที่ล้วงมือลงไป ปลาจะหนีไปอยู่อีกฝั่ง เพราะว่าปลาจะหนีคน ครั้งนี้ก็คิดว่าปลาจะหนีเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยล้างตู้ แต่วันดังกล่าวกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อล้วงมือลงไป ปลากระเบนกลับว่ายพุ่งเข้ามาหาทันที
นายธนวัฒน์ เห็นเช่นนั้นจึงดึงมือขึ้นแต่ไม่ทัน เนื่องจากปลาได้ฟาดหาง ทำให้นิ้วก้อยบาด จึงได้รีบนำตัวไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน ทางแพทย์ได้ทำการเย็บแผลไป 3 เข็ม
จากนั้นนายธนวัฒน์ ได้โทรศัพท์มาบอกตน เมื่อตนได้ทราบข่าวจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อเห็นตนถึงกับบอกว่าอยากให้ตัดนิ้วทิ้ง เพราะเจ็บปวดมาก ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะแค่ปลากระเบน จะถึงต้องตัดนิ้วเลยหรือ แต่ทางนายธนวัฒน์ บอกรู้สึกปวดมากจริงๆ ถึงขนาดแพทย์ต้องให้มอร์ฟีน แสดงว่าอาการปวดรุนแรงมาก
หลังจากนั้น ตนได้ค้นหาข้อมูล เนื่องจากไม่เคยเจอมาก่อน จนทราบว่า พิษปลากระเบนทำให้คนถึงกับตายได้ ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจมาก จากนั้นได้บอกกับคุณหมอว่าพิษไม่ธรรมดา เพราะมีข้อมูล ทำให้คุณหมอต้องรีบโทรตรวจสอบกับศูนย์พิษวิทยาว่าคืออะไร และได้ให้นายธนวัฒน์ นอนแอดมิดที่โรงพยาบาลดูอาการ 24 ชั่วโมง เพื่อดูความดัน หัวใจปกติไหม การหายใจปกติไหม หากผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว ถือว่ารอด แต่หากคืนนั้นผ่านไม่ได้ เกิดอาการผิดปกติ อาจจะไปถึงขั้นเสียชีวิตได้
แต่ก็สามารถผ่านไปใน 24 ชั่วโมง ได้ถือว่ารอด ขณะนั้นคุณหมอได้รักษาตามอาการที่ปรากฏ เพราะว่าปลากระเบนไม่มีเซรุ่มในการรักษาเหมือนกับงู โดยทั่วไปหลายคนไม่ทราบถึงวิธีเลี้ยงอย่างไร เห็นว่าสวยงามก็ซื้อมาเลี้ยง เช่นเดียวกับผู้จัดการตนและไม่ทราบด้วยว่ามีพิษอย่างไร
นายเกรียงไกรมาศ
เล่าต่อว่า หลังจาก นายธนวัฒน์ ได้รักษาอาการกับหมอได้ 1 วัน ก็พบว่าไม่น่าจะเสียชีวิตแล้ว จึงให้เดินทางมาเพียงแค่ล้างแผล และคาดว่าพิษคงไม่ทำอะไรได้ แต่เมื่อถึงวันที่ 3 นิ้วกลับบวมและมีน้ำอยู่ด้านใน พอมาถึงวันที่ 5-6 น้ำด้านในนิ้วก็แตก และเนื้อเริ่มไหม้เป็นสีดำ
เมื่อมาถึงวันที่ 10 เนื้อบริเวณนิ้วของนายธนวัฒน์ เริ่มไหม้รุนแรงเป็นสีดำ โดยแผลได้ขยายเป็นวงกว้างที่บริเวณข้อมากกว่าเดิม หมอจึงได้ทำการตัดเนื้อดำออกทั้งหมด ถึงขั้นคว้านลงไปเกือบถึงกระดูก พร้อมกับลุ้นว่าเนื้อจะกลับมาดำอีกหรือไม่
ถัดมาอีก 3 วัน กลับต้องตกใจ เนื่องจากเนื้อได้ดำกว่าเดิม และกินวงกว้าง ทางหมอก็ระบุว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงไม่มีความเชี่ยวชาญ จนกระทั่งตนได้ตัดสินใจโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อขอคำแนะนำ จากคุณหมอ ว่าใครสามารถรักษาได้บ้าง ก่อนที่ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอท่านหนึ่งแนะนำให้ไปที่ รพ.รามาธิบดี มีคุณหมอเก่งเรื่องเส้นเลือดและศัลยกรรม ก็ได้ไปตามคำแนะนำ กระทั่งพบกับคุณหมอที่เชี่ยวชาญ เมื่อเห็นแผลถึงกับอุทาน "อู้หู" ออกมา พร้อมบอกถึงแนวทางการรักษาว่า แบ่งเป็น 2 ทางเลือก คือ ตัดออก และปลูกถ่าย
นายธนวัฒน์ อยากให้ตัดออก เพราะสู้กับบาดแผลนี้มาเกือบ 20 วันแล้ว หากตัดทิ้งก็กลับไปบ้าน ใช้ชีวิตได้ปกติทันที แต่คุณหมอขอตรวจอย่างละเอียด พร้อมกับบอกว่า พอสู้ได้อยู่และขอเลาะดูบาดแผล จนพบว่ามีเนื้อที่น่าจะพอกลับมาใช้งานได้ คุณหมอเลยเลือกที่จะปลูกถ่ายอวัยวะ ด้วยวิธีเจาะหน้าท้องแล้วนำนิ้วที่เป็นแผลเสียบเข้าไปในหน้าท้อง
ที่เจาะเอาไว้ อยู่แบบนั้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อให้เนื้อเยื่อปลูกถ่ายดูแลกันและกัน
ทั้งนี้ นายเกรียงไกรมาศ บอกว่า ถือเป็นความรู้ใหม่ที่ตนก็เพิ่งทราบว่ามีวิธีนี้ด้วย และต้องมานั่งลุ้นว่าเป็นไปในทางบวกหรือไม่อีก 3 สัปดาห์ ทราบผลหากไม่เป็นทางบวกค่อยหาวิธีดำเนินการอีกครั้ง ไม่เพียงแค่ปลากระเบนเท่านั้น ยังรวมไปถึงผู้ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกๆควรศึกษาหาความรู้อย่างรอบด้านด้วย
ด้านรองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเห็นภาพจากข่าวแล้ว ซึ่งปลากระเบนชนิดนี้เป็นประเภทสวยงาม ถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกาใต้ ถูกนำเข้าไทยในการขยายพันธุ์และเพาะเลี้ยงภายในไทยถือเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ ของปลากระเบนชนิดนี้ และมีการผสมสีต่างๆ เพิ่มความสวยงามอีกด้วย ทำให้คนไทยนิยมเลี้ยงมาก และปลากระเบนนี้ลักษณะเด่น คือที่บริเวณโคน หรือ กึ่งกลางหางจะมีเงี่ยงแหลมยาว 1-2 ชิ้น ที่ใช้เป็นอาวุธทิ่มแทงศัตรูที่มารบกวนได้ โดยอาจมีความยาวได้ถึง 35 เซนติเมตร และมีสารเคมีที่มีความเป็นพิษเคลือบอยู่
สารดังกล่าวเป็นสารโปรตีน ออกฤทธิ์ 2 อย่างคือ 1.สร้างความเจ็บปวดมาก ซึ่งมากที่สุดที่มนุษย์จะทนได้
2.มีโปรตีน เอ็นไซม์ย่อยเนื้อเยื่อทำให้เกิดเนื้อตาย สีดำ สรุปได้ว่า ทำให้เจ็บปวดและเนื้อตายนั่นเอง กรณีที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการของดีเจเคนโด้ ถือว่าโชคดีที่ไม่เข้าเส้นเลือด หรือมีอาการแพ้พิษของโปรตีน ไม่เช่นนั้นอาจถึงแก่ชีวิตได้ และจากข้อมูลที่พบมีคนบาดเจ็บจากการเลี้ยงกระเบนจำนวนมาก อาจจะยังไม่ทราบถึงวิธีการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น
คุณหมอนันทริกา กล่าวว่า หากถูกกระเบนแทงเป็นแผล ควรใช้น้ำร้อน อุณหภูมิของน้ำให้ร้อนที่สุดที่จะทนได้ แล้วนำแผลบริเวณที่โดนแช่ลงไปทันที เพราะว่าหลังจากกระเบนแทงแล้วจะมีเหมือกเคลือบแผลไว้ ก็จะทำให้กินเข้าไปในแผลเรื่อยๆ ฉะนั้นควรชะล้างด้วยน้ำอุ่นเอาเหมือกออกให้มากที่สุด
คุณหมอนันทริกา เล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังว่า ที่ผ่านมาจากการต้องทำงานวิจัยเกี่ยวกับกระเบน ก็เคยมีเจ้าหน้าที่โดนก็นำยาล้างแผลที่มีฟองฟู่ๆออกมา ซึ่งยานี้ไม่ได้ระบุในตำรา แต่ค้นพบเองว่าสามารถชะล้างเมือกโปรตีนจากกระเบน อีกทั้งยังเพิ่มออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อบริเวณแผลอีกด้วย จะบรรเทาทำให้บาดแผลไม่กินลึก พร้อมอยากแนะนำผู้ที่เลี้ยงกระเบนว่า ควรจะตัดเหงี่ยงแหลมออก เพื่อไม่ได้มีคม แต่ไม่ใช่ตัดจนติดกับตัวปลาเพราะจะทำให้ปลาติดเชื้อได้ แต่ถ้าเป็นฟาร์มที่เลี้ยงกระเบนส่วนใหญ่จะใช้ปลอกพลาสติกสวมไว้
นอกจากนี้ คุณหมอนันทริกา กล่าวถึงกรณีของผู้จัดการดีเจเคนโด้ว่า คาดว่าบาดแผลกินเนื้อลึกน่าจะใช้เวลารักษานาน โดยส่วนใหญ่ระยะการรักษา 6 เดือน แผลจึงหายดี แต่ถ้าปฐมพยาบาลถูกต้องไม่เกิน 1 เดือน ก็จะมีอาการดีขึ้น พร้อมแนะนำว่า หากไม่ต้องการเลี้ยงต่อ สามารถบริจาคมายังศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะได้ทำศูนย์วิจัยกระเบนโดยเฉพาะซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก และเตือนผู้เลี้ยงห้ามปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติเด็ดขาด เพราะเป็นปลาจากต่างประเทศทำให้เสียสมดุลธรรมชาติ กระทบระบบนิเวศ
ขอบคุณภาพจาก Youtube : Takoengdech Wlnalthum