เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายอิสลามิสต์หัวรุนแรง ใช้มีดบุกกราดแทงประชาชนไม่เลือกหน้า ก่อน “ตัดหัวสตรี” กลางเมืองนีซในฝรั่งเศส มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
เกิดเหตุ มือมีดคลั่ง ก่อเหตุใช้มีดไล่กราดแทงประชาชน ที่โบสถ์คริสต์ นอเทรอะดัม เดอ บาซิลิก้า ในเมืองนีซ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส ก่อนที่คนร้ายจะลงมือฆ่าตัดศีรษะสตรีรายหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ทางการฝรั่งเศส ยืนยันว่า เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และเผยว่า ตำรวจฝรั่งเศสสามารถควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้และนำตัวไปสอบสวนแล้ว โดยที่คนร้ายได้รับบาดเจ็บระหว่างพยายามหลบหนี
รายงานข่าวระบุว่า คนร้ายซึ่งเป็นชาย ที่คาดว่าจะเป็นผู้อพยพที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้ตะโกนถ้อยคำสรรเสริญพระอัลเลาะห์ ก่อนจะชักมีด วิ่งเข้ากราดแทงผู้คนบริเวณโบสถ์คริสต์กลางเมืองนีซ แบบไม่เลือกหน้า
มีผู้ที่ถูกแทงเสียชีวิต 2 รายในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ก่อนที่คนร้ายรายนี้จะวิ่งเข้าประชิดตัวสตรีรายหนึ่ง และใช้มีดปาดคอเธอจนเสียชีวิตเป็นรายที่ 3 จากนั้นคนร้ายได้ลงมือตัดศีรษะของเธอ ท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนในพื้นที่
ล่าสุดประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ได้ออกคำสั่งให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ และมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินชั่วคราวในเมืองนีซ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นถนนทุกสายที่อยู่โดยรอบที่เกิดเหตุในรัศมี 2 กิโลเมตร
ด้าน กริสติยง แอสโตรซี นายกเทศมนตรีเมืองนีซ เผยว่า ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนว่า คนร้ายรายนี้ วางแผนโจมตีเพียงลำพัง หรือมีผู้ร่วมวางแผน ขณะที่ตัวตนและสัญชาติของคนร้ายยังถูกปิดเป็นความลับเพื่อเหตุผลด้านความมั่นคง
เหตุโจมตีสะเทือนขวัญครั้งนี้ เกิดขึ้นในหลังจากที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ออกมาแถลงประณามศาสนาอิสลามว่าเป็นต้นกำเนิดของลัทธิก่อการร้าย จนทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านฝรั่งเศส ในประเทศมุสลิมทั่วโลก ตลอดหลายวันที่ผ่านมา