เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีการทุบทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาในพื้นที่ สน.ประชาชื่น ว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ไม่หวังดีกลุ่มหนึ่งพยายามที่จะชิงตัวผู้ต้องหา มีการนำรถจักรยานยนต์มากีดขวางการเคลื่อนตัวของรถควบคุมผู้ต้องหา จนกระทั่งตำรวจต้องตัดสินใจใช้รถควบคุมผู้ต้องหาดันรถจักรยานยนต์ดังกล่าวออกจากเส้นทาง
นอกจากนั้น มีการพยายามใช้สิ่งต่าง ๆ เช่น หมวกกันน็อก แท่งเหล็ก ทุบทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาในระหว่างทาง ขณะนี้ ทาง ผกก.สน.ประชาชื่น กำลังเรียกกองพิสูจน์หลักฐานกลางมาตรวจร่องรอยความเสียหายและคงมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดทำให้เสียทรัพย์ซึ่งทรัพย์สินทางราชการ อยู่ระหว่างการพิจารณาดูพฤติกรรมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มนั้นจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 215 สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองหรือก่อให้เกิดเหตุร้ายในบ้างเมืองหรือไม่ ถ้าพยานหลักฐานไปถึงก็คงจะตองมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
รอง ผบช.น. กล่าวต่อว่า ในขณะนี้ปรากฏข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จเป็นการกล่าวร้ายการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ทั้งตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ เช่น การใช้คำว่าใช้หมายจับที่หมดสภาพมาดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหา หรือมีการใช้กำลังทุบตีผู้ต้องหาคนหนึ่งคนใด จนได้รับบาดเจ็บหมดสติเหล่านี้เป็นต้น
ซึ่งข้อความเหล่านั้นเป็นข้อความอันเป็นเท็จ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บก.ปอท. จะต้องดำเนินการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ฝากเตือนประชาชนที่ทราบข่าวแล้วอย่าเผยแพร่ ส่งต่อ ทำซ้ำ อาจจะได้รับโทษตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน
นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกขับชน ระบุว่า ตนเองกำลังขับรถจักรยานยนต์จะกลับบ้าน แต่ถูกรถคุมขังของเจ้าหน้าที่ชนที่แยกพงษ์เพชร และรถตำรวจชนลากจักรยานยนต์ของตนไป โดยไม่ได้ลงมาให้การช่วยเหลือ
แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีช่วยไว้ทัน ส่วนตัวจะมาแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เนื่องจากตนเองได้รับความเสียหายทั้งรถจักรยานต์และบาดเจ็บที่มือด้วย