“เจษ-เจษฎ์พิพัฒ” ทำใจ! ไม่มีโอกาสกลับมาเหมือนเดิม หลังผ่าตัดเอ็นเข่าขวาขาด

มาอัปเดตอาการป่วยของพระเอกหนุ่ม “เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” กันหน่อย หลังเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่ามาเกือบครบ 1 ปีเต็ม เนื่องจากเอ็นเข่าข้างขวาขาด ซึ่งเป็นบริเวณเอ็นไขว่หน้า โดยเดิมทีมีสาเหตุมาจากเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว เจ้าตัวเกิดอุบัติเหตุระหว่างเตะฟุตบอล แลัวดันมาล้มซ้ำในจุดเดิมหลายครั้งจนส่งผลให้หมอนกระดูกร้าวและแตกร่วมด้วย

ล่าสุด วันนี้ 3 พฤศจิกายน 2563 เจอเจ้าตัวในงาน น่าฮัก Creem market “หนุ่มเจษ” ก็บอกว่าตอนนี้ดีขึ้นเยอะมาก ไม่ต้องไปพบหมอแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นกลับมาใช้งานได้ 100% ยังคงต้องพึ่งการกายภาพบำบัดอยู่สม่ำเสมอ ยอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยได้มีเวลาทำเท่าไหร่ ระยะเวลาในการหายก็เลยช้าลง แต่โชคดีที่ไม่ส่งผลกระทบกับงาน ส่วนการกลับไปเล่นฟุตบอลนั่นตัวเองก็บอกว่ายังไงก็ไม่มีทางหยุดขาด ไปเลย เพราะที่ลงทุนผ่าตัดเพราะอยากกลับไปเล่นได้

เมื่อถามว่ามีโอกาสหายขาดไหม “หนุ่มเจษ” ก็โอดตอบเลยว่า ไม่มีทางหายขาดแน่นอน เพราะเอ็นที่ขาดมันเป็นเอ็นไขว้ แต่ที่ใช้เชื่อมมันเป็นเอ็นธรรมดา คุณสมบัติก็จะไม่เท่ากันนั่นเอง พร้อมกับยอมรับว่าแฟนสาว “วิว วรรณรท” ก็มีปรามตลอดแต่หากเขามีเวลาว่างก็มาอำนวยความสะดวกให้เรื่อยๆ ส่วนแพลนอนาคตก็ไม่ได้มองอะไรกันไกล รู้แค่ว่าจริงจังกันก็พอ

การผ่าตัดเป็นยังไงบ้าง
“ดีขึ้นครับ แต่ยังไม่ 100% ต้องใช้การกายภาพช่วยสม่ำเสมอ ซึ่งถ้าบางทีเราเหนื่อยหรือเราขี้เกียจบ้างก็ไม่ได้ทำ เวลามันก็ยืดออกไปกว่าที่จะเป็นปกติ”

มีผลกระทบกับงานที่เรารับไหม
“ไม่มีครับ จริงๆ แล้วตอนก่อนจะผ่าคือผมถ่ายไปแล้วหลายเรื่อง พอผ่ามามันก็ดีกว่าเดิมครับ”

คุณหมอห้ามอะไรบ้าง
“ก็เรื่องเตะฟุตบอลครับ แต่เรื่องวิ่งพอได้แล้ว คือบางทีมันเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ มันต้องมีกล้ามเนื้อซัพพอร์ต ก็ต้องรอกล้ามเนื้อให้มันแข็งแรงก่อน”

ทำให้เราต้องหยุดเตะบอลเลยไหม
“ไม่มีทางครับ ผมต้องกลับไปเล่นให้ได้ ผมผ่าเพื่อจะให้ผมได้กลับไปเตะฟุตบอล”

ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะปกติ
“ถ้าอย่างเร็วเลยก็ปีหนึ่งครับ แต่ถ้ากายภาพน้อยก็ต้องเลื่อนออกไปอีก มันไม่หายขาดครับ เพราะเอ็นที่ขาดมันเป็นเอ็นไขว้ แต่ที่เชื่อมมันเป็นเอ็นธรรมดา มันก็จะไม่เท่ากันอยู่แล้ว”

กลัวไหมว่าจะกลับไปเป็นอีก
“เป็นไปได้ครับ จริงๆ ถ้าไม่ชัวร์ผมก็จะไม่ไปออกกำลังกาย ไม่เล่นกีฬาหนักๆ จะออกแค่ส่วนบนหรือแค่ตามที่หมดสั่งครับ นี่ก็ไม่ได้ออกมาจะปีหนึ่งแล้วครับ”

แอบนอยด์ไหมว่าถ้าหายขาดก็อาจจะกลับไปเล่นฟุตบอลได้ไม่ 100%
“เล่นได้ก็บุญแล้วครับตอนนี้ (หัวเราะ) คือเราก็ไม่ได้คิดจะเล่นจริงจังเป็นนักฟุตบอลอะไรหรอก แต่เราก็อยากไปเจอเพื่อนเพราะเขาเตะกันทุกอาทิตย์”

แอบกลัวหรือเข็ดไหม
“ไม่ครับ คือผมไปฝืนมันเอง เพราะตอนที่ขาดแล้วผมก็ยังไปเตะอยู่ มันก็เลยทำให้อาการหนักกว่าเดิม ตอนแรกเอ็นขาดเราก็ดื้อ พันเข่าไปเตะ กลายเป็นกระดูกแตก ก็หนักกว่าเดิม พักยาวกว่าเดิม คราวนี้ต้องชัวร์จริงๆ ถึงจะกลับไปเตะครับ”

"วิว" ปรามเราไหม
“เขาก็ปรามครับ เขารู้ว่าเราเป็นจากการไปเตะฟุตบอล ที่หนักขึ้นก็เพราะเตะฟุตบอล พอไปผ่าปุ๊บก็ประมาณว่ามึงจะกลับไปเล่นอีกเหรอ (หัวเราะ)”