"จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม" อวดตะกรุดวัดดัง เชื่อช่วยให้รุ่งเรือง-รอดตายปาฏิหาริย์

ถือว่าเป็นตลกดาวรุ่งคนนึงที่มีทั้งงานแสดงและงานตลกไม่เคยขาด สำหรับ "จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม" ซึ่งวันนี้เจ้าตัวก็ได้มีธุรกิจอาหาร ชื่อว่าร้านโป๊ะท่าเตียน Waterfront House มาเพิ่มจากงานที่ทำอยู่ และก็ใจดียกอาหารเมนูเด็ดมาให้พิธีกร ต้มยำอมรินทร์ ชิมอีกด้วย รวมถึงเผยเรื่องราวก่อนจะมีชื่อเสียงว่ากว่าจะถึงวันนี้ ชีวิตไม่ได้สบาย จนกระทั่งได้เจอกับพระอาจารย์ที่นับถือและได้ของดีมาบูชาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งเจ้าตัวก็เชื่อว่าเคยรอดตายได้เพราะตะกรุดที่พกติดตัวเอาไว้

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คุณพ่อลูกแฝด "เอ็ม อภินันท์" ยอมรับติดลูกมากกว่าภรรยา!
- เปิดความติสท์ของสามีแห่งชาติยุค 90 "เจ มณฑล" ที่ฟังแล้วมีอึ้งแน่นอน!
- "โจนัส แอนเดอร์สัน" เปิดตัวเพลงใหม่ "ฝรั่ง คลั่ง ไคล้" ฉลองครบรอบ 20 ปี
- "บิณฑ์" อุทิศชีวิตเพื่อเพื่อนมนุษย์กว่า 30 ปี เลิกคิดเรื่อง "ความรัก"
- "อ๊อด โฟร์เอส" เล่ามรสุมชีวิตป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แต่ลุกขึ้นสู้จนได้เป็นเจ้าพ่อรำวงชาวบ้านชื่อดัง
- "อุ้ย รวิวรรณ" จากจุดสูงสุดสู่คนถูกฟ้องล้มละลาย มีชีวิตใหม่ได้เพราะยึดหลักธรรมะ
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่    

ถาม ก่อนที่จะมาเป็น จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม ที่ใครรู้จักกัน ชีวิตเริ่มต้นในวัยเด็กถือว่าลำบากมากพอสมควร เห็นบอกว่าเชิดสิงโตเหรอ

จุ๊บจิ๊บ : ที่บ้านเป็นคณะสิงโตครับ เราเป็นทุกตัวเลย มันแล้วแต่วัย เด็กๆ เราก็เป็นเด็กยอดอยู่ข้างบน เริ่มโตหน่อย ก็ต้องไปแบกคนอื่นแล้ว ก็ทำอย่างนี้มาตลอด ที่บ้านเป็นคณะสิงโต เราก็ต้องทำทุกหน้าที่ให้ได้ เวลาใครขาด เราก็ต้องไปเติม คณะสิงโตคณะหนึ่งจะมีคนประมาณ 20-30 คน สิงโตตัวนึงใช้คน 2 คนหัวกับหาง สิงโต 2 ตัว 4คน แป๊ะยิ้ม 2 เป็น 6 คน ตีกลอง ตีแฉอีก 2 ตีเม้งอีก 1 แล้วก็มีคนคอยผลัดเปลี่ยนกัน คือเชิดเนี่ยเชิดคนเดียวไม่ได้ ต้องมีคนผลัดเปลี่ยนกัน 20-30 คน แล้วค่าใช้จ่ายมันเยอะ พอเฉลี่ยแล้วก็จะได้คนละนิดละหน่อย ชักหน้าไม่ถึงหลังหรอกครับ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ก็อาศัยไปเป็นงานๆ ไป ถ้าไม่มีงานก็เรียบร้อย


ถาม ฝึกฝนซ้อมกันสุดชีวิต มันต้องขึ้นไปกระโดดบนเสาแบบที่เคยเห็นไหม 

จุ๊บจิ๊บ : ใช่ครับ กายกรรมเลยครับ มีเสาดอกเหมย มีขึ้นเสาไม้ไผ่ แล้วก็มีต่อตัว เราก็ทำมาหมดแล้วตรงนั้น เคยพลาดเหมือนกัน ตอนนั้นจำได้แล้วเป็นเด็กยอดอยู่ เราต่ออยู่บนสุดเลยแล้วเป็นไม้เดิน อยู่ๆ ฐานหยุด แล้วแต่เราอยู่ข้างบน ลอยจากข้างบนลงมาคนเดียวเลย ดีมีคนรับทัน

ถาม ทำคณะเชิดสิงโตอยู่ดีๆ ทำไมถึงมาเป็นคณะตลก

จุ๊บจิ๊บ : พ่อรู้จักกับลุงถั่วแระ คอยขับรถให้บ้าง พ่อก็เริ่มเล่นตลก ไปไหนลูกก็ต้องตามไปด้วย พอตอนที่ผมไป พ่ออยู่คณะตูมตาม เชิญยิ้ม พ่อขึ้นไปเล่น เราก็ไปเป็นเด็กเก็บของก่อน เหมือนไปช่วยพ่อ ก็ตามเขาไปตลอด แล้วเริ่มโตก็เริ่มมาเป็น Back Up ตีกลอง ตบมุก


ถาม แล้ววันหนึ่งจากอยู่ข้างหลัง ก็เดินออกไปอยู่ข้างหน้า 

จุ๊บจิ๊บ : คนตีกลองเนี่ยคือคนที่รู้จังหวะตลกมากที่สุด ต้องจำรายละเอียดว่าเดี๋ยวพูดอย่างนี้ก็ต้องตบมุกนี้ พอเราจำมุกได้ตลอด วันหนึ่งตัวเล่นขาด เราสามารถออกไปเล่นได้ เราก็รู้จังหวะจากโคนเพราะว่าเราตบมุกมาก่อน แล้วผมก็เริ่มรู้สึกว่าเราชอบตรงนี้ เลยมีโอกาสได้เล่น คราวนี้ก็ได้เล่นตลอด

ถาม แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วผู้ชายคนนี้ไม่ได้ชื่อ จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม ชื่อจริงของคุณคือ 

จุ๊บจิ๊บ : รถจี๊บครับ เพราะคุณแม่ชอบ จิ๊บวิลลี่มันเท่ดีไง ก็เลยตั้งชื่อลูกว่ารถจิ๊บ


ถาม ที่เปลี่ยนเป็นจุ๊บจิ๊บเพราะว่า

จุ๊บจิ๊บ : พ่อชื่อจ๋อง พอมาเล่นตลกก็ชื่อจ๋องแจ๋ง จุ๊บจิ๊บ ตอนหลังเลยมาเป็นคณะจ๋องแจ๋งจุ๊บจิ๊บ มาตั้งคณะกันเองครับ


ถาม ด้วยความที่เชิดสิงโตมาตั้งแต่เด็ก ต้องไปตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะไปตามเทศกาล แล้วหนึ่งในที่ที่เขาจัดเทศกาลเป็นประจำก็คือวัด ผู้ชายคนนี้ก็เลยไปอยู่ตามวัดต่างๆ เราก็เลยเติบโตมาพร้อมกับความเชื่อ 

จุ๊บจิ๊บ : คณะสิงโต ศิษย์เจ้าพ่อนู้น ศิษย์เจ้าแม่นี้ก็จะอยู่ตามวัดกันอยู่แล้ว แต่คณะของเราก็จะอยู่วัดกลาง ตลาดพลู ก็จะมีพระปางซ่อนหา แล้วก็จะมีอาจารย์ เราโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กแล้วว่าก่อนทำการแสดงทุกครั้งต้องไหว้ก่อน เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเรา คือพระประจำคณะของเรา เราก็ต้องทำการกราบไหว้ก่อน เพื่อเราจะเล่นอะไรที่มันหวาดเสียว จะได้ไม่เป็นอันตราย ผมก็เลยรู้สึกว่าการเข้าวัดเนี่ย มันทำให้มีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ


ถาม ถึงขนาดที่เคยโดนผีตามกลับบ้าน มันคิดไปเองหรือเปล่า 

จุ๊บจิ๊บ : คือตัวผมไม่เห็นนะ แต่แม่เห็น เหมือนมีคนิ มีเงาอะไรตามเรามา คือเราไปเล่นสิงโต ก็จะนั่งรถ 6 ล้อไป รวมๆ กันไป มันก็มีอุบัติเหตุตามท้องถนนบ้าง แต่ว่าวันนั้นมีอุบัติเหตุ ไซเรนเต็มไปหมดเลย มีคนเสียชีวิต แล้วโบราณเขาว่าอย่าไปมอง เราก็มอง มองไปมองมา ก็ไม่คิดอะไร แต่พอกลับมาบ้าน แม่บอกเฮ้ยใครตามมา รู้สึกว่ามันมีเงาตามหลังเราอยู่ตลอด แม่ก็เลยพนมมือสวดมนต์ จนกว่าจะหายไป รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันมีจริงนะ เราไม่รู้สึกเลย แต่แม่เห็น อาจจะเป็นเพราะว่าดวงเราหรือว่าจิตเราอ่อนหรือว่าอะไร ตามมายังไงเราก็ไม่รู้ แต่ว่าพอหลังจากเรื่องนั้น เราต้องมีอะไรที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยคุมตัวเราตลอด ไปไหนก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไป


ถาม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณพูดคืออะไร

จุ๊บจิ๊บ : ตอนหลังเนี่ย ผมมาไหว้พระมหาสุรศักดิ์ ตอนนี้ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดแล้ว วัดประดู่ เริ่มจากไปเล่นตลกที่วัด เราได้พูดคุยกับพระอาจารย์แล้วก็ได้ธรรมะจากพระอาจารย์ ท่านมีเมตตามากเลย ทำให้เรารู้สึกศรัทธาพระอาจารย์มาก เราก็เลยมีเครื่องรางของท่าน วัตถุมงคล เขามีให้บูชาในวัดอยู่แล้ว เราก็จะขอแบบส่วนตัว แม้กระทั่งนะ ก่อนจะเล่นเราก็ตั้งจิตอธิษฐาน เขาเรียกว่าเป็นนะตลกลิเกอะไรอย่างนี้ แต่ละที่ก็จะให้ไม่เหมือนกัน ท่านบอกว่ามันอาจจะเป็นกุศโลบาย ให้เรามีสมาธิแล้วก็ทำให้เรามั่นใจด้วย ถ้าวันไหนเราไม่ได้ท่องนะ ก็รู้สึกเอ้ย วันนี้เล่นไม่ฮาเลย

ถาม เชื่อจนถึงขั้นมีตะกรุดสั่งทำส่วนตัวเลย

จุ๊บจิ๊บ : เราก็คุยกับพระอาจารย์ จะขอแบบส่วนตัวอยู่แล้ว อย่างพ่อแก่ อาจารย์ก็ให้มา ก็จะเป็นแบบเลขสวย เฉพาะของเราเลย แล้วก็จะมีตะกรุด ท่านก็จะดังเรื่องตะกรุด เราก็แบบว่าอยากจะขอตะกรุดเพื่อให้มาผูกดวงกับเรา ก็ทำขึ้นมา ผมกล้าก็พูดได้เลยว่าผมไปไหน เราอาจจะไม่ได้แบบเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมากมาย แต่เราโชคดีที่มีผู้ใหญ่เมตตา ให้การให้งานทำการแสดงอยู่ทุกวันนี้ ก็มีงานมาเรื่อยๆ เราคิดว่าส่วนหนึ่งมาจากเมตตาที่หลวงพ่อให้ของดีกับเราไว้ ก็เป็นความเชื่อ

ถาม มีครั้งหนึ่งจะเกิดอุบัติเหตุ 

จุ๊บจิ๊บ : ไม่ได้จะเกิด เกิดเลย ขับรถชน ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เราตรงไป มันเป็นทางกลับรถ ก็จะมีแบริเออร์กั้น แต่ว่ามันจะมีช่องว่างของแบริเออร์มันเหมือนตกไปด้วยแล้วมันมืด แล้วป้ายมันเห็นว่ามันตรงไป เราก็คิดว่ามันตรงไปได้ เราก็ตรงไป แต่ข้างหน้ามันคือน้ำนะ ขนาดเป็นตอม่อคู่อย่างนี้ เราคิดว่ามันเว้นไว้แสดงว่ามันไปได้ เราคิดแล้วว่ามันไปได้ พอมันไปเท่านั้นแหละ เหยียบเบรกแล้วมันเจอหญ้าแล้วไง เหยียบจนเบรกจะทะลุอยู่แล้ว แต่รถมันก็ยังไป ไปเบรกกับตอม่อ เราก็ยังไงวะเนี่ย จมน้ำหรือเปล่า ชนปุ๊บเราถอยก่อน พอเกียร์ถอยขึ้นไป เราก็เหยียบ กลัวจมน้ำไง ไปชนข้างหลัง คราวนี้มั่วไปหมดแล้ว สติแตกไปหมดละ ชนเสร็จเอาไงดีวะ เราไม่ได้ตกน้ำแล้ว ก็ค่อยๆ ตั้งสติ เราลองเช็คดูก่อนว่าเราไม่มีอะไรหักอะไรเนี้ย แล้วก็คิดว่าโอ้โห คิดถึงอาจารย์ข ขอให้ลูกมีชีวิตกลับไป ตอนนั้นกำลังจะรับปริญญาด้วย คิดว่าขอให้ลูกได้มีชีวิตกลับไปเหอะ รู้สึกว่า เฮ้ย เรารอดปลอดภัยแล้ว ลงมาดูโอ้โห ยางหน้า ยางหลังเนี่ยแตกหมดเลย หน้าเน้อนี่ยับหมดเลย จิตมันก็กระเจิงไปหมดแล้วครับ แต่พอตั้งสติได้แล้ว ก็ลงมาดูรถยับแต่ว่าเราไม่เป็นอะไร ก็โอเค ก็ค่อยๆ ถอยขึ้นมา จนแบบเราไม่รู้ว่าตรงนี้อยู่ตรงไหน แล้วค่อยๆ คลานเอารถขยับๆ ไปเรื่อยๆ จนเจอป้าย แล้วค่อยโทรบอกผมอยู่ตรงนี้นะ มาช่วยผมหน่อย

ถาม แต่ว่าพี่จิ๊บก็เชื่อว่าตอนนั้นรอดเพราะตะกรุดที่เราพกไว้

จุ๊บจิ๊บ : ใช่ครับ อย่างน้อยมันก็ให้สติ ให้ความอุ่นใจ


ถาม ทำให้ทุกวันนี้เวลาเราออกไปไหน ถ้าเกิดวันไหนที่เราลืม สมมติต้องไปค้างต่างจังหวัด นอนไม่สบายใจเลย

จุ๊บจิ๊บ : ครับ ใช่ครับ เราใช้อธิษฐานจิตเอา

จุ๊บจิ๊บ : ก็ฝากติดตามผลงานด้วยครับ ยังรับงานอยู่ ทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นละคร Event หรือว่าเชิดสิงโตมังกร จะให้ผมไปทำอะไรยินดีเลยนะครับ รับสมัครเจ้าภาพจำนวนมาก ติดตามได้ทาง Facebook จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม หรือว่า Instagram joopjeep02 นั่นเองนะครับ ไม่ว่าน้ำส้มดับเบิ้ลเจ หรือว่าจะจองโต๊ะที่ร้านโป๊ะท่าเตียน Waterfront House ก็ได้นะครับ