ตาป่วยอัมพฤกษ์ขยับไม่ได้กอดศพเมียตายข้ามคืน สลดร้องให้คนช่วยจนสิ้นแรง (คลิป)

4 พ.ย. 63

กรณีเกิดเหตุสลดที่บ้านหลังหนึ่ง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พบศพนางวิภา เอี่ยมประเสริฐ ภรรยาวัย 60 ปี ซึ่งมีนายน้อย สุริยา สามีวัย 74 ปี ที่ป่วยติดเตียง นอนกอดศพ 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.63 เพราะลุกไปไหนไม่ได้ จนเพื่อนบ้านไปตัดต้นกล้วย ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย จึงไปดูพบแมลงวันตอมหึ่ง ศพเริ่มเน่าแล้ว 

218026710479

ล่าสุดวันที่ 4 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุ เป็นกระท่อม ตั้งอยู่กลางป่ารก ภายในซอยบ่อทอง 2 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่โดดเดี่ยวในป่า ห่างจากบ้านหลังอื่น ๆ โดยต้องเดินเท้าจากถนนซอยเข้าไปกว่า 50 เมตร ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบรถซาเล้งของผู้เสียชีวิต ยังจอดอยู่ที่เดิม และเสื่อที่ใช้ปูนอน ยังคงตากเอาไว้หน้าบ้าน และมีกลิ่นเหม็นเน่าอยู่ ส่วนแคร่ภายในบ้านที่พบศพนั้น ถูกล้างทำความสะอาดแล้ว

997146

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางพัทธยา มุมทอง อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านที่มาพบศพ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 15.00 น. ตนและสามีขี่รถจักรยานยนต์ไปที่หน้าบ้านของนางวิภา และตะโกนว่าจะขอตัดต้นกล้วยไปให้เป็ดกิน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือนางวิภาไม่ขานรับ ทั้งที่รถซาเล้งของนางวิภา ก็ยังจอดอยู่ จึงมั่นใจว่านางวิภายังอยู่ในบ้าน

cg-2_2

แต่เพียงครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงเฮือกสุดท้ายของนายน้อยตะโกนออกมาบอกว่า "ช่วยตาด้วย ยายตายแล้วนอนอยู่ในมุ้งกับตา" ตนตัดสินใจเดินเข้าไปเปิดมุ่งก็พบร่างของนางวิภานอนอยู่กับนายน้อย โดยศพเริ่มเหม็นเน่าและขึ้นอืด น้ำเหลืองนองเต็มที่นอน และมีแมลงวันหัวเขียวบินว่อนเต็มมุ่ง ซึ่งนายน้อยก็บอกว่านางวิภา ตายมา 4 วันแล้ว แต่เจ้าตัวเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทำให้ลุกขึ้นไปขอความช่วยเหลือไม่ได้ จนกระทั่งตนมาเจอ

563019718761

เมื่อวานนี้ตนได้ฟังที่นายน้อยพูดคุยกับตำรวจว่า นางวิภาเสียชีวิตเนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และสิ้นใจตอนที่นอนอยู่ข้าง ๆ กัน ซึ่งนางวิภาคงเสียชีวิตจากโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ทั้งนี้ตนยอมรับว่า รู้สึกสะเทือนใจที่มาเจอนายน้อย ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องทนนอนอยู่ข้าง ๆ ร่างไร้วิญญาณของนางวิภาถึง 4 วัน และรู้สึกสงสารนางวิภาที่มาเสียชีวิต แม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นคนปากร้ายกับเพื่อนบ้าน เข้ากับใครไม่ได้เพราะเป็นคนหวงบ้าน หวงสิ่งของ แต่เขาก็ใจดีกับตน เพราะตนมักจะไปขอพืชพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ เขาก็จะยอมให้ และรู้สึกสงสารเพราะตอนเขายังมีชีวิตก็ค่อนข้างลำบาก จนมีคนต้องนำสิ่งของมาบริจาคให้

523259

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าสาเหตุที่ทำให้เพื่อนบ้านไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากนายน้อย คงเป็นเพราะเจ้าตัวร่างกายไม่มีแรง อ่อนแอ ป่วยติดเตียง ทำให้ไม่มีเสียงตะโกน และบ้านเขาตั้งอยู่โดดเดี่ยว ไกลจากบ้านเพื่อนบ้านจึงไม่มีใครสนใจ สุดท้าย เมื่อวานนี้ตนก็ได้จุดธูป 1 ดอก เพื่อไหว้ขออโหสิกรรม เนื่องจากตนเป็นคนเจอศพ และจะได้หมดเวรกรรมต่อกัน

218855

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางมาลัย ถนอมแนว อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าปากซอย และมักจะเห็นนางวิภา ขี่รถซาเล้งไปมาเป็นประจำ เพราะเจ้าตัวต้องออกมาซื้อกับข้าวเลี้ยงสามี แต่ตนเห็นนางวิภาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 31 ต.ค.63 เวลา 14.30 น.

418900

โดยขี่รถซาเล้งผ่านบ้านตน แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่เห็นเจ้าตัวออกจากบ้านอีกเลย ซึ่งตนก็เริ่มสงสัยว่านางวิภาหายไปไหน พยายามปรึกษาหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเดินไปที่บ้านเขา เพราะนางวิภาเป็นคนหวงที่ ไม่ให้ใครเขาพื้นที่บ้านและเป็นคนปากร้าย กระทั่งสุดท้ายก็มาทราบว่าเสียชีวิต

ทั้งนี้ตนยอมรับว่านางวิภา ก็มีร่างกายที่ไม่แข็งแรง เป็นทั้งโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด สายตาก็มองไม่เห็น และช่วงหลัง ๆ ขาเริ่มบวม เนื่องจากอาการของโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเขาคงหมดเวรหมดกรรมแล้ว แต่สาเหตุที่ไม่มีใครเข้าไปดูที่บ้าน เพราะนางวิภาไม่เคยสุงสิงกับเพื่อนบ้าน ทำให้เพื่อนบ้านไม่กล้าไปยุ่ง

สุดท้าย เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 02.00 น. ตนได้ยินเสียงหมาหอน และได้ยินเสียงของนางวิภา ลอยตามลมมา ลักษณะการพูดเหมือนคนหายใจไม่ออกว่า "ช่วยด้วย ๆ"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม