ดราม่านำผู้ป่วยติดเตียงใส่หลังกระบะไปเบิกเงินที่ธนาคาร ที่แท้เข้าใจผิด

ดราม่าเมืองลำพูน นำผู้ป่วยติดเตียงใส่หลังกระบะไปเบิกเงินที่ธนาคาร ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

จากกรณีที่โลกโซเชียลที่จังหวัดลำพูนได้มีการโพสต์ภาพผู้ป่วยติดเตียงอยู่บนท้ายกระบะพร้อมโพสต์ข้อความว่า “คุณเห็นด้วยหรือไม่ที่ให้ลูกค้าที่ป่วยติดเตียง ตาแก่ๆ ต้องมาเอง ร้อนก็ร้อน นอนมาเบิกเงินแค่ใช้ปั๊มนิ้วมือ แค่อยากรู้ว่าให้เจ้าหน้าที่ไปทำที่บ้านไม่ได้ หรือว่ามอบอำนาจให้คนอื่นมาไม่ได้หรือ” ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ได้มีคนมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ความคืบหน้าล่าสุด ที่ตึกร่มเย็น รพ.ลำพูน อ.เมือง จ.ลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย จนท.ที่เกี่ยวข้องและว่าที่ร้อยตรีทวีเกียรติ ประธานธุรารักษ์ ผช.ผอ.ธ.ก.ส.ลำพูน ลงพื้นที่เยี่ยมนายคำ กำเปา อายุ 88 ปี ชาว อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ปรากฏอยู่ในภาพ โดยมีญาติของนายคำให้การต้อนรับ

หลังจากที่เข้าเยี่ยมนายคำแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนออกมาเปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเมื่อวานนี้มีประชาชนซึ่งมาเห็นคุณลุงคำซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ที่หลังรถกระบะ และมีความเข้าใจว่าทางธนาคารให้ลุงคำมาทำธุรกรรมกับทางธนาคาร จึงสงสัยว่าทำไมทางธนาคารถึงไม่ไปให้บริการกับลูกค้าที่บ้านซึ่งเป็นผู้สูงอายุและยังเป็นผู้ป่วยติดเตียงอีก จนเกิดความเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนกัน

จากการตรวจสอบพบว่า ลุงคำเป็นเกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยาชาวสวนลำไยจากรัฐบาล พอได้รับเงินเยียวยาเข้าบัญชีไปแล้วญาติก็ให้ลุงคำเซ็นใบเบิกเงินและมาที่ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขานิคมอุตสาหกรรมลำพูน แต่ปรากฏว่าลายเซ็นไม่เหมือนกับตามที่ลงลายมือชื่อกับทางธนาคาร ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.จึงลงพื้นที่ไปอำนวยความสะดวกให้ลุงคำที่บ้าน แต่ปรากฏว่าลุงคำซึ่งตอนนั้นไม่อยู่ในสภาวะที่จะทำธุรกรรมใดๆ ได้เพราะมีอาการเคลิ้ม มือเกร็ง โต้ตอบใดๆ ไม่ได้ ทางธนาคารและญาติมีความเห็นพ้องต้องกันว่าหากลุงคำอยู่ในสภาพที่พร้อมเมื่อไหร่ก็ให้โทรไปหา จนท.ธนาคาร ซึ่งทางธนาคารจะมาอำนวยความสะดวกให้ถึงที่บ้าน

ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ทางลุงคำมีอาการดีขึ้นประกอบกับที่ทางญาติจะพาไปหาหมอที่ รพ.ลำพูน เนื่องจากมีแผลกดทับจึงนำลุงคำใส่หลังรถกระมามาด้วย และได้มาแวะที่ธนาคารก่อน ซึ่งเมื่อทางธนาคารทราบก็รับดำเนินการให้โดยที่ลุงคำไม่ต้องลงจากรถ แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นมีผู้มาใช้บริการของธนาคารมาเห็นพอดีก็มีการถ่ายและโพสต์ลงในเฟชบุ๊กดังกล่าวซึ่งตนเองก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน