การเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่อเค้ายืดเยื้อหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แถลงว่ามีการโกง อ้างว่ามีบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์โผล่ผิดปกติใน 5 รัฐที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จ
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาแถลงที่ทำเนียบขาว โดยอ้างว่าตนเองคือผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าหากนับคะแนนจากเฉพาะบัตรเลือกตั้งที่ถูกกฎหมาย โดยอ้างว่ามีบัตรผิดกฎหมายจำนวนนับล้านใบถูกนำมานับให้กับพรรคเดโมแครต
ทรัมป์ระบุโดยไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีการโกงกันอย่างมโหฬาร โดยอ้างว่ามีบัตรปริศนาจำนวนเป็นล้านใบโผล่โดยไม่มีที่มาที่ไป โดยเฉพาะบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ถูกส่งมาทางไปรษณีย์
ถ้อยแถลงของทรัมป์เกิดขึ้นในขณะที่ผลการนับคะแนนใน 5 รัฐสำคัญยังไม่เสร็จสิ้น โดยขณะนี้โจ ไบเดนยังมีคะแนนนำอยู่ที่ 264 ทรัมป์ตามอยู่ที่ 214 ซึ่งถ้าหากว่าไบเดนชนะที่เนวาดา เขาก็จะมีคะแนนถึง 270 ก่อน และชนะการเลือกตั้งทันที แต่หลังทรัมป์อ้างว่าการนับคะแนนเกิดขึ้นอย่างไม่โปร่งใส กลับทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในหลายรัฐ อย่างที่นิวยอร์ก มีกลุ่มมวลชนออกมารวมตัวประท้วงการเลือกตั้ง จนตำรวจต้องควบคุมราว 50 คนไปโรงพัก
ความพยายามของทรัมป์และทีมหาเสียงในเวลานี้คือหยุดยั้งการนับคะแนนจากบัตรทางไปรษณีย์ที่ยังเหลืออีกนับล้านใบโดยการยื่นร้องเรียนต่อศาลสูงหรือในอีกทางหนึ่ง พยายามทำให้ผลการเลือกตั้งทั้งหมดขาดความชอบธรรมโดยอ้างว่ามีการทุจริต
เหตุผลที่ทรัมป์ต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างหนัก ก็เนื่องจากว่าผู้ลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ โดยสูงถึง 100 ล้านคน และกว่า 75 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้สนับสนุนโจ ไบเดน