ชาวเมียนมาแห่ใช้สิทธิเลือกตั้ง ท่ามกลางการระบาดขั้นวิกฤตของ ไวรัสโควิด-19

เมียนมา จัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ (8 พ.ย.) ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังตึงเครียดระหว่างกองทัพกับรัฐบาลพลเรือน ภายใต้การนำของ นางออง ซาน ซู จี ที่ควบตำแหน่งทั้งประธานสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐ และตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวเมียนมา จำนวน 37 ล้านคนทั่วประเทศ ต่างทยอยเดินทางออกมาลงคะแนน ที่เขตเลือกตั้งตามท้องถิ่นต่างๆ และผู้ออกมาใช้สิทธิส่วนใหญ่ จะสวมหน้ากากอนามัย และมีการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างชัดเจน เพราะหวาดกลัวการติดเชื้อโควิด

ทั้งนี้ สื่อต่าง ๆ ในเมียนมาต่างคาดการณ์ว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางอองซานซูจี จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และจะได้เป็นรัฐบาลต่อในสมัยที่ โค2

การเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมาครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้น เฉลี่ยวันละกว่า 1,000 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดของเมียนมา เพิ่มขึ้นเป็น 60,348 คน และมีจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,396 รายทั่วประเทศ
ขณะที่อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้ในเมียนมา ดำเนินไปอย่างราบรื่น และมีความน่าเชื่อถือ

ด้านองค์กร อินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป องค์กรอิสระที่ไม่แสวงผลกำไรชื่อดัง แสดงความเป็นกังวลแม้ว่าทางการเมียนมาจะอนุญาตให้ผู้สูงอายุสามารถเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ซึ่งรวมถึงนางซู จี วัย 75 ปีที่ใช้สิทธิออกเสียงไปแล้วตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ยังมีประชาชนจำนวนมาก ที่ต้องออกมาเลือกตั้งด้วยตัวเอง และทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการติดไวรัสมรณะโควิด-19