เปิดใจ "น้ำมนต์ 2" ปัดไม่ใช่คนร้อยผัวสูบเงินชาย ช้ำลูกถูกล้อเหยียดหยาม (คลิป)

22 มี.ค. 61
จากกรณีที่มีเพจดัง ได้โพสต์เรื่องราวของ น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) ที่ก่อเหตุหลอกชายหนุ่มหลายรายว่าจะแต่งงานด้วย ก่อนนำทรัพย์สินของฝ่ายชายไปแล้วหนีหาย ซึ่งมีชายหนุ่มหลายคน ต้องสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมงานแต่งงาน พร้อมกับซื้อรถยนต์ให้กับหญิงสาวรายนี้ ล่าสุด ทางคูณเจี๊ยบ หญิงสาวคนดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความเอาผิดเพจดัง ภายหลังจากได้รับความเสียหายและถูกเกลียดชัง จากโพสต์ดังกล่าว วันนี้ ( 9 มี.ค. 61) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น.ได้เชิญ คุณเจี๊ยบ ผู้ถูกกล่าวหา , นายพิทยา บุญอินทร์ ทนายความฝ่ายคุณเจี๊ยบ , นางลีน่า จังจรรจา ทนายความฝ่ายคุณโจ๊ก เข้ามาร่วมพูดคุยในรายการ
คุณเจี๊ยบ ผู้ถูกกล่าวหา
คุณเจี๊ยบ กล่าวว่า ยอมรับว่าคบผู้ชายหลายคนจริง แต่คบทีละคนและไม่เคยคบซ้อนกันหลายคน หรือคบผู้ชายเป็นร้อยคนตามที่มีเพจดังกล่าวหา ซึ่งทำให้ตนเสียหาย ยืนยันว่าทุกคนที่คบตนคบด้วยความรัก และยืนยันว่าไม่ได้คบเพื่อต้องการทรัพย์สินของฝ่ายชายแต่อย่างใด กรณีของ “คุณโจ๊ก” นั้น. คุณเจี๊ยบ กล่าวว่า ได้มีการเตรียมจัดงานแต่งงานจริง แต่เป็นเพียงพิธีเอาฤกษ์เอายาม ตามความเชื่อเท่านั้น ซึ่งในวันดังกล่าวมีการแจกซอง แต่ไม่ได้มีการเก็บซองเพราะงานแต่งยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยอมรับว่า ตนเป็นฝ่ายบอกยกเลิกงานแต่ง และรู้สึกเสียใจมาก เพราะตนได้มาคิดทบทวนว่าหากตนตกลงแต่งงานกับคุณโจ๊ก ซึ่งตนไม่ได้รักในวันข้างหน้าหากอยู่กันไม่ได้ จะยิ่งทำให้เกิดปัญหามากมาย และช่วงหลังมีการระหองระแหงกัน และตนรู้สึกว่าไม่ได้รักคุณโจ๊ก เพราะเข้ากันไม่ได้
คุณเจี๊ยบ พูดคุยชี้แจงกรณี "คุณโจ๊ก"
ส่วนที่ตนพูดจาไม่ดีกับคุณโจ๊ก เช่นคำว่า “เลว” นั้น ปกติตนจะพูดเล่นกับเพื่อนแบบนี้เป็นประจำ และได้พูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิดว่าคุณโจ๊ก จะเก็บเอามาคิด ยอมรับว่าตนเป็นคนใจร้อน ซึ่งเป็นแบบนี้มาตั้งแต่คบหากันในช่วงแรกแล้ว ซึ่งคุณโจ๊กก็รู้จักนิสัยตนดี ส่วนที่บอกว่าตนไปโพสต์รบกวนที่คุณโจ๊กไปพาแฟนเก่ามาเข้าพิธีแต่งงานนั้น ยอมรับว่าตนโพสต์จริง ที่ตนใช้คำว่า “เจ้าสาวสำรอง” เพราะตนคิดว่าทุกอย่างน่าจะจบ ตั้งแต่ตอนที่มีการทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย โดยตนยอมยินยอมจ่ายค่าเสียหายให้ 100,000 บาท ตามที่ตกลงกัน แต่คุณโจ๊กก็ยังไปหาคนมาเข้าพิธีแต่งงานแทนตน โดยได้เก็บซองในงานแต่ง ถึงแม้ว่าชื่อบนเวที่ในงานแต่งจะไม่ใช่ชื่อตน แต่ชื่อในการ์ดแต่งงานก็ยังคงเป็นชื่อของตนอยู่
คุณเจี๊ยบ พูดคุยชี้แจงกรณี "คุณตั๊ก"
ส่วน กรณี "คุณตั๊ก" นั้น คุณเจี๊ยบ กล่าวว่า ยอมรับว่าตนรักคุณตั๊กมาก และที่ถ่ายพรีเวดดิ้งก็เพราะว่ารัก ส่วนเรื่องบัตร เอทีเอ็ม ที่ตนนำมาเก็บไว้กับตัวนั้น เป็นเงินที่หามาด้วยกัน และเป็นการกดเงินออกมาเพื่อใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็เยอะ แต่ก็ยอมรับว่าเงินที่นำมาใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นเงินของคุณตั้ก ส่วนที่บอกว่า ถูกตนหลอกว่าเป็นโรคมะเร็งนั้น ตอนนั้นตนได้เข้าผ่าตัดใหญ่และจะมีช่วงที่แพทย์ให้รอฟังผล ซึ่งช่วงนั้นตนจิตตกมากและแพทย์บอกตนว่า อาการแบบนี้อาจจะเป็นมะเร็ง ยอมรับว่าพูดจริงว่าเป็นมะเร็ง แต่คุณตั๊ก ก็ไม่ได้ให้เงินตนมารักษาตัวตามที่กล่าวอ้าง ส่วนเรื่องที่ตนไม่ได้บอกสถานะที่แท้จริงทางครอบครัวนั้น เพราะตนกำลังอยู่ในช่วงปรึกษากับทางครอบครัวเรื่องแฟนเก่า ยืนยันว่าไม่ได้ปิดบังเรื่องครอบครัว เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย ยืนยันว่าตนต้องการแต่งกับคุณตั๊กจริง แต่คุณตั้กบอกเลิกตนก่อน กรณีของ “คุณปั่น” คุณเจี๊ยบ กล่าวว่า ตอนที่ตนมาคบกับคุณปั่น ตนได้เลิกกับคุณตั๊กแล้ว ส่วนที่ต้องซื้อรถนั้น เพราะเคยคุยกันว่าต้องมีรถสักคันไว้ใช้ในครอบครัว และสาเหตุที่ตนเอารถมาใช้นั้น เพราะคุณปั่นขับรถไม่เป็น ส่วนเรื่องสร้อยคอทองคำนั้น ยอมรับว่ายังไม่ได้คืนให้ เพราะค่าใช้จ่ายในครอบครัวและเงินดาวน์รถไม่พอเลยต้องเอาสร้อยคอไปจำนำ โดยตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไถ่ออกมาซึ่งคุณปั่น ก็ทราบและเต็มใจให้ตนเอาไปจำนำ ส่วนเรื่องการปิดบังเรื่องครอบครัว หรืออ้างว่าพ่อแม่รับราชการนั้น ไม่จริง เพราะคุณปั่นเคยไปบ้านของตน และรู้จักพ่อแม่ของตน ส่วนเรื่องการคบชายอื่นซ้อนนั้น ไม่จริง แต่ยอมรับว่าตนมีเพื่อนผู้ชายหลายคน
นายพิทยา บุญอินทร์ ทนายความฝ่ายคุณเจี๊ยบ
ด้าน นายพิทยา ทนายความฝ่ายคุณเจี๊ยบ กล่าวว่า คุณเจี๊ยบ มาหาตนภายหลังจากที่เพจดัง นำข้อความของเธอไปลง ซึ่งมีภาพคุณเจี๊ยบและและภาพถ่ายของลูกคุณเจี๊ยบ ติดไปในเฟซบุ๊กด้วย โดยที่ไม่มีการเซ็นเซอร์หรือปิดบังใบหน้าแต่อย่างใด ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรเอาเด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องงานแต่งงานนั้น คุณเจี๊ยบเคยมาปรึกษาตนว่า ต้องจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับคุณโจ๊กหรือไม่ เพราะคุณโจ๊กไม่ได้ล้มเลิกงานแต่ง ยังคงจัดงานต่อโดยเก็บซองในงานด้วย ซึ่งตนได้บอกกับคุณเจี๊ยบว่า เราได้ทำสัญญายอมรับสภาพยินยอมชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว ต้องยอมรับตามที่ได้ทำสัญญาไว้ อย่างไรก็ตามตนได้ปรึกษาในกลุ่มเพื่อนทนาย ซึ่งก็มีความคิดเห็นมาหลากหลาย โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า คุณโจ๊กได้มีการจัดงานและเก็บซอง ซึ่งเป็นไปได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ถึงหนึ่งแสนบาท จึงน่าคิดว่าคุณเจี๊ยบ ต้องจ่ายชดใช้หนี้หนึ่งแสนบาท ที่เคยทำสัญญารับสภาพหนี้ไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนเรื่องการให้เงิน หรือสิ่งของนั้น ตนมองว่าต้องถามทางฝ่ายชายว่า มีข้อตกลงอะไรกันหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าเป็นการดูแลซึ่งกันและกัน ในขณะที่คบหากันอยู่ ซึ่งเป็นธรรมดาที่ฝ่ายชาย ซึ่งมีรายได้มากกว่าจะต้องดูแลฝ่ายหญิง
คุณลีน่า จังจรรยา โฟนอิน เข้าร่วมพูดคุยในรายการ
ด้าน คุณลีน่า จังจรรยา ทนายฝ่ายคุณโจ๊ก กล่าวว่า จะมีการดำเนินคดีกับคุณเจี๊ยบในข้อหา ยักยอกทรัพย์ เนื่อง จากคุณโจ๊กเคยให้เงินคุณเจี๊ยบไป 5,000 บาท เพื่อเช่ารถยนต์แห่ขันหมาก แต่คุณเจี๊ยบไปจ่ายเพียง 3,000 บาท ยักยอกไป 2,000 บาท ส่วนเรื่องทำสัญญาชดใช้เงินค่าเสียหายหนึ่งแสนบาทนั้น เป็นการที่คุณเจี๊ยบยอมรับว่า ได้กระทำละเมิดต่อคุณโจ๊ก ทำให้เกิดความเสียหายเนื่องจากบอกล้มเลิกงานแต่ง แต่ความผิดในข้อหายักยอกทรัพย์ นั้น เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการทำสัญญายอมรับสภาพหนี้ คุณลีน่า จัง ยังบอกอีกว่า ในคดียักยอกทรัพย์นั้น สามารถยอมความกันได้ ซึ่งหากทางคุณเจี๊ยบยินยอมจ่ายค่าเสียหาย เป็นเงินสด 90,000 บาท จากที่ทำสัญญาไว้เดิม 100,000 บาท ซึ่งฝ่ายตนจะลดให้ 10,000 บาท ทางคุณโจ๊ก ก็จะยอมถอนแจ้งความ
คุณเจี๊ยบ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังจบรายการ "ต่างคนต่างคิด"
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจบรายการ "ต่างคน ต่างคิด" คุณเจี๊ยบ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังจากที่มีการเซ็นในสัญญาบันทึกข้อตกลง เมื่อ 23 ก.พ. 61 ฝ่ายคุณโจ๊กก็ไม่ได้มีใครติดต่อมาอีก จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 มี.ค.) แม่ของคุณโจ๊ก ได้โทรมาพูดคุยกับแม่ของตน โดยถามเรื่องความเป็นอยู่ ซึ่งตนก็สงสัยว่าเหตุใดจึงโทรมา ส่วนที่นางลีนาจัง ทนายความของคุณโจ๊ก ยื่นข้อเสนอว่าให้จ่ายเงินก้อน 90,000 บาท แทนการผ่อนชำระ 100,00 บาท เป็นเวลา 10 งวด นั้น คุณเจี๊ยบ ยอมรับว่า ตนอยากรับเงื่อนไข แต่ตนไม่สามารถที่จะหาเงินก้อนจำนวนมากขนาดนั้นได้ จึงยืนยันที่จะคงสัญญาเก่าไว้ ส่วนที่นางลีนาจัง บอกว่า จะฟ้องตนในข้อหายักยอกทรัพย์นั้น ตนยอมรับว่าทันทีที่ได้ยินก็รู้สึกเครียด ตกใจ แต่ก็ไม่เข้าใจว่า ตนไปยักยอกอะไรเขา หากจะมีการนัดเจรจาในเรื่องนี้ตนก็ยินดี เพราะอยากให้เรื่องจบด้วยดี ไม่อยากให้มีเรื่องมีราวกันแบบวันนี้ เพราะที่จริงเรื่องน่าจะจบกันตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญา
คุณเจี๊ยบ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว
ส่วนที่ตนตัดสินใจออกมาพูด ยืนยันว่า ไม่ได้โกรธหรือเกลียดฝ่ายคู่กรณี เพราะอย่างน้อยก็เคยรักกัน แต่เพราะบางเรื่องที่ให้ข้อมูลไป อาจจะบิดเบือนความจริงตอนนี้ ตนเปิดหน้าออกสื่อแล้วจึงกังวลว่าคนที่จะเข้ามาในชีวิตครั้งใหม่ เขาจะรับได้ไหม แต่ทุกคนเคยมีประวัติที่ไม่ดี คนที่เข้ามาก็จะต้องยอมรับได้ในสิ่งที่เป็น คือ ตนมีแฟนมาแล้วหลายคน แต่ว่าตนไม่ได้ไปหลอกใคร ที่ผ่านมาเลิกรากันเพราะไปด้วยกันไม่ได้เท่านั้น ตอนนี้ น้องนิว ลูกวัย 10 ขวบของตนก็เครียด เพราะโดนเพื่อนล้อเรื่องที่เพจเฟซบุ๊ก นำรูปลูกไปโพสต์ ตนก็เครียด เพราะตอบลูกไม่ได้ว่าเพราะอะไร ตนจึงขอวอนผู้ใช้โซเชียลว่า อย่าเอาลูกตนมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ