จากกรณีที่ วัดพันสี หมู่ 1 ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ได้มีชาวบ้านทยอยกันไปกราบไหว้แม่ตะเคียนที่อยู่ริมถนนเข้าหมู่บ้านในวัดพันสี หลังมีคนถูกหวยกันมาหลายงวดติดต่อกัน
ที่ศาลของแม่ตะเคียนสร้างเป็นศาลไม้ไว้ข้างทาง บริเวณทางขึ้นศาล พบชื่อป้ายที่ทางวัดได้เขียนไว้บอกชื่อแม่ตะเคียนต่าง ๆ โดยมี แม่แก้วกิริยา แม่ดาวเรือง แม่สไบทอง แม่ตำหนัก แม่แพรทอง แม่กาญจนา และแม่ฤทัย พร้อมกับภายในศาลด้านบน ได้พบชุดสไบแพรหลากหลายสีห้วยไว้ ที่ชาวบ้านได้มาแก้บนไว้ห้อยโดยรอบทั้งด้านหน้าระเบียงและภายในห้อง รวมทั้งมีเก็บไว้ในตู้กระจกอีกจำนวนมาก
ส่วนด้านหน้าแม่ตะเคียนที่ตั้งไว้ 2 องค์ และรูปภาพ พร้อมกับมีปลีกไม้แม่ตะเคียนวางไว้บนพาน มีดอกไม้มาลัยวางไว้ ส่วนด้านหน้าพบผลไม้ น้ำแดง น้ำอัดลม และวิทยุที่ชาวบ้านนำมาแก้บน และได้เปิดเพลงตั้งไว้
วันที่ 16 พ.ย. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดพันสี หมู่ 1 ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี พระครูอุปกิตสารคุณ หรือ หลวงพ่อเสน่ห์ กตปุญโญ อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดพันสี เปิดเผยว่า ไม้ตะเคียนเข้ามาอยู่ในวัดนานแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเข้ามาได้อย่างไร ส่วนลำต้นหายไปนานกว่า 100 ปีแล้ว
กระทั่ง ปี 2552 เจ้าแม่ตะเคียนได้มาเข้าร่างทรง และบอกผ่านร่างทรงว่า อยากจะได้บ้านสักหลังหนึ่ง หลวงพ่อก็กล่าวว่า "หลังหนึ่งตั้งหลายหมื่น" แต่เจ้าแม่ตะเคียนบอกว่า "ทำไปเถอะ เดี๋ยวหาเงินให้" จากนั้นหลังจากที่สร้างศาลได้มีแม่ตะเคียนจากที่อื่นเข้ามาขออาศัยอยู่ด้วยเรื่อย ๆ ทำให้ในปัจจุบันในศาลแห่งนี้ มีเจ้าแม่ตะเคียนอาศัยอยู่ 7 นาง ได้แก่ แก้วกิริยา ดาวเรือง สไบทอง กาญจนา ตำหนัก แพรทอง ฤทัย นอกจากนี้ยังมีเด็ก ชื่อจุกกับแกะ ซึ่งไปเจอในป่าแถววัด ขณะที่หาไม้มาสร้างศาล จุกกับแกะได้เข้ามาบอกว่า อยากจะมาอยู่ที่นี่ด้วย ตนจึงอนุญาต โดยตอนแรกศาลดังกล่าวสร้างด้วยเงินประมาณ 20,000 บาท และก็ต่อเติมขึ้นมาเรื่อย ๆ
หลังจากที่สร้างศาล ได้มีชาวบ้านเป็นผู้หญิงรายหนึ่งกลับบ้านค่อนข้างดึก ขณะที่เดินผ่านศาลได้เจอกับนกเค้าแมวบินเฉี่ยวเอาหมวกไปทิ้ง ด้วยความกลัวเลยไม่ได้เข้าไปเก็บหมวก จนรุ่งเช้าย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อเดินไปดูที่ศาล ก็เห็นเลขจึงนำเลขไปซื้อหวย และก็ถูกหวย 10 กว่างวดติด จากนั้นชาวบ้านรายอื่นก็เริ่มเข้ามากราบไหว้ และถูกหวยกันหลายราย ซึ่งคนที่ถูกหวยกว่า 20 งวดติด คือ พระที่วัดรูปหนึ่ง
โดยก่อนหน้านี้ ศาลตะเคียนเคยถูกเจ้ามือหวยเข้ามาสะกดไว้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกตนจำไม่ได้ว่าปีไหน แต่ครั้งที่ 2 เมื่อช่วงก่อนเข้าพรรษาที่ผ่านมา มีพระในวัดรูปหนึ่งบังเอิญเข้าไปเจอ และสังเกตเห็นว่า ที่ขั้นบันไดทางขึ้นศาลถูกเจาะรูและนำไม้มาตอกไว้ ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะลักษณะเหมือนแผ่นกระดานแบบปกติ จากนั้น จึงเรียกร่างทรงให้มาชี้จุดว่า ถูกสะกดตรงไหนบ้าง แล้วก็ถอนออกมา หากใครถูกหวยก็จะเข้ามาแก้บน ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านนำลิเกมาแก้บน พอนำมาแก้ก็ถูกหวยประมาณ 300,000 กว่าบาท
แต่พระที่ถูกหวยกว่า 20 งวด จะทำขันน้ำมนต์ ก่อนหวยออก 1 วัน และจะทำในช่วงกลางคืน เพราะหากทำในวันที่หวยออก ตัวเลขจะคลาดเคลื่อน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน เพราะการที่เจ้าแม่ตะเคียนเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
นายวิเศษ แควโอชา อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่เคยเจอแม่ตะเคียน เปิดเผยว่า เมื่อปี 2552 มีร่างทรงเข้ามาหาหลวงพ่อ และให้เจ้าแม่ตะเคียนเข้าทรง เพื่อสื่อสารกับหลวงพ่อว่าอยากจะขอให้สร้างบ้านให้อยู่ โดยตนเข้ามาช่วยทำศาลตั้งแต่เริ่มแรก เพราะเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ และจากนั้นตนก็เข้ามาช่วยเก็บกวาดพื้นถนนวัด และพื้นที่บริเวณศาลตลอด
ส่วนตัวเคยเห็นเจ้าแม่ตะเคียนมาแล้ว 1 ครั้งคือ เมื่อ 5 ปีก่อน เวลาประมาณ 12.00 น. ตนกำลังทำความสะอาดอยู่หน้าศาล แต่รู้สึกเหนื่อย เลยนั่งพักอยู่ด้านหน้าบันได ขณะนั้นมีผู้หญิงหน้าตาสวยงามใส่ชุดไทย เดินลงมาจากศาล แล้วยิ้มทักทายให้ตน ก่อนจะเดินกลับขึ้นศาลไป ตนก็นึกในใบว่าทำความสะอาดที่นี่มานานแล้ว ขอให้ถูกหวยสักครั้ง กระทั่งรุ่งเช้าเจ้าแม่ได้มาเข้าฝัน และบอกหวย ตนถูกหวยเป็นเงิน 3,000 บาท และเคยถูกครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นตนก็ไม่เคยขออีก ทั้งนี้ แม่ตะเคียนจะให้หวยเป็นรายบุคคล และให้เฉพาะคนที่ทำความดี หรือมอบอะไรให้เจ้าแม่ตะเคียน
ด้านพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง เปิดเผยว่า การซื้อหวยเป็นการพนันอย่างหนึ่งซึ่งถูกกฎหมาย แต่พระซื้อหวยเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า การพนันเป็นอบายมุข เป็นข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า เคยตรัสห้ามว่า สมณะในศาสนาของท่านไม่ทำเรื่องแบบนี้ ดังนั้นจึงเป็นข้อห้ามของนักบวชในพุทธศาสนาไปโดยปริยาย ทางพุทธศาสนา มองว่าเป็นเรื่อง "อนาจาร" แต่คำว่าอนาจารในทางธรรมหมายถึงความประพฤติหรือการทำตัวที่ไม่เหมาะสม
ส่วนเรื่องพระทำน้ำมนต์ใบ้หวย ก็ไม่เหมาะสม เป็นข้อห้ามชัดเจน ไม่เลี้ยงชีพด้วยเรื่องดูดวง พ่นน้ำมนต์ ใบ้หวย ทำนาย นิมิตพระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็น "อเนสนากรรม" การหาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่สมควร ตั้งตนเป็นพวกหมอดู เจ้าสำนัก พระพุทธเจ้าตำหนิว่า ภิกษุในศาสนาไม่ควรเลี้ยงชีพด้วยการหลอกลวง อวดอุตริ หรือตั้งตัวเป็นหมอดู หรือหมอไสยเวช ดังนั้น พระมีหน้าที่เตือนชาวบ้านเรื่องห้ามเล่นการพนัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายก็ตาม
Advertisement