กองปราบตามจับตัว 2 ยี่ปั๊วสุดแสบโกงลอตเตอรี่มูลค่าความเสียหายกว่าร้อยล้าน หลังหนีไปกบดานรีสอร์ทใน จ.ลพบุรี คุมตัวส่งตำรวจ สภ.รัตนบุรี เจ้าของคดี ผู้เสียหายเตรียมลงขันรางวัลนำจับ 3 แสนบาทให้ชุดจับกุม
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 63 ที่ สภ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีบรรดาผู้เสียหายจำนวนมากในคดีโกงลอตเตอรี่วงเงินหลายร้อยล้านบาท พากันเดินทางมาดูตัวผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 พร้อมพวก จับกุมตัวได้ โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย คือนายทศพร จิตรแม้น อายุ 28 ปี ชาว ต.ดงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และนายยุทธนา ทองคำ อายุ 23 ปี ชาว ต.แก อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมตัวทั้งคู่ได้เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 63 ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี นำตัวมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยของกลางที่ยึดมาได้คือเงินสด 769,000 บาท สร้อยคอคล้ายทองคำหนักประมาณ 3 บาท จำนวน 1 เส้น พร้อมพระจำนวน 1 องค์ แหวนคล้ายทองคำหนักประมาณ 50 สต. จำนวน 1 วง แหวนลักษณะคล้ายทองคำ หนัก 1 สลึง จำนวน 2 วง และพระเครื่องอีกจำนวน 5 องค์ นำส่งพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายออกจากห้องขังเพื่อมาทำการสอบปากคำ ได้มีบรรดาผู้เสียหายและญาติของนายยุทธนา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ พากันมาดูตัวเป็นจำนวนมาก โดยนายประสิทธิ์ สุหะลา อายุ 48 ปี ชาวบ้านดงเมย ต.แก อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นน้าเขยของนายยุทธนา หนึ่งในผู้ต้องหา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่นายยุทธนาจะถูกจับ ได้แชทข้อความมาบอกลูกสาวของน้าอีกคนว่า อยากจะมอบตัว ขอให้ไปรับตัวกลับมาด้วย เพราะถูกคุมตัวอยู่ในรีสอร์ทพร้อมกับบอกสถานที่มาให้ โดยนายยุทธนาได้กระโดดหลบหนีออกมาทางหน้าต่างในรีสอร์ทเข้าไปหลบอยู่ในป่า ข้าง ๆ รีสอร์ทเพื่อรอให้ญาติ ๆ ไปรับ ซึ่งพวกตนและญาติก็ได้พากันเดินทางไปหาเพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับนายยุทธนา พร้อมกับได้แจ้งตำรวจกองปราบให้ไปจับกุมพาตัวออกมา ซึ่งนายยุทธนากับนายทศพรเขาเป็นคู่ขากัน ขาดกันไม่ได้ ก่อนหน้าที่จะหนีไป นายยุทธนาได้บอกกับญาติ ๆ ที่ร่วมลงทุนด้วยว่า ก่อนจะไปเป็นทหาร จะเอาเงินที่ลงทุนมาคืนให้ทั้งหมด เดิมทีต้องเข้าไปประจำการเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ได้มาหลบหนีไปก่อน จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว
ด้านนายประกาศิต แสนดี อายุ 41 ปี ชาว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประสานงานกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ก็รู้สึกดีใจ และดีใจแทนผู้เสียหายทุกท่านที่จับหัวโจกได้ในครั้งนี้ และอยากจะฝากขอบคุณไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาหัวโจก 2 คนนี้ได้อย่างรวดเร็ว และสำหรับในวันนี้ก็จะมีการออกเงินลงขันกันในหมู่สมาชิกเป็นค่ารางวัลนำจับให้กับเจ้าหน้าที่จำนวนเงิน 300,000 บาท ตามที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ด้วย สำหรับความเสียหาย พวกตนก็อยากจะได้เงินคืน แต่ก็ต้องแล้วแต่กระบวนการตามกฎหมาย