จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" ลงเรื่องราวระบุว่า "กลุ่มนี้เคยก่อเหตุมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันก็ยังใช้วิถีเดิม ๆ ในการล่อลวงหญิงสาวหน้าตาดี ที่นำเรื่องนี้มาให้สังคมรับรู้คือต้องการจะบอกไปยังพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ตัวน้องน้องให้ระมัดระวังในการที่เราจะเปิดกล้องวิดีโอคอล หรือจะถ่ายคลิปที่มีภาพเปลือยของเรา เพราะมันมีกลุ่มคนที่เอาไปทำการซื้อขายสื่อลามกบนอินเทอร์เน็ต และมันจะมีผลกระทบกับตัวเราเองโดยตรง"
วันที่ 16 พ.ย. 63 นางสาวมิ้นท์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเดินทางมาจาก จ.อุดรธานี โดยนำเอกสารและคลิปตัวอย่าง รวมทั้งภาพบุคคลต้องสงสัย ไปมอบให้กับทนายรณณรงค์ในการดำเนินคดี นางสาวมิ้นท์ เล่าว่า ตนเองเริ่มรู้จักแอปพลิเคชันไลฟ์ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2563 จากนั้นก็ได้มีการไลฟ์แบบปกติใช้ชีวิตประจำวัน มีกลุ่มคนที่ชื่นชอบ เข้ามาสนับสนุนทำให้ตนมีรายได้ประมาณ 40 บาท
จากนั้น ช่วงประมาณวันที่ 20 ต.ค. 63 ตนเองยุติการไลฟ์ มีผู้ชายคนหนึ่งทักอินบ็อกซ์มาพูดคุย ชักชวนให้เปิดกล้องส่วนตัว โดยอ้างว่าจะไม่มีการบันทึกคลิป พร้อมทั้งจ่ายเงินจำนวน 25,000 บาท ต่อมาวันที่ 21 ต.ค. ผู้ชายคนนั้นกล่าวได้ติดต่อกลับมา บอกเงื่อนไขให้มีการเปลือย ตนเองเห็นว่าไม่ได้เสียหาย เพราะเป็นช่วงที่กำลังเก็บเงินส่งตัวเองเรียน จึงตกลงรับงาน
จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ส่งบัตรประจำตัวประชาชนมาให้เพื่อยืนยันตัวตน พร้อมทั้งขอเลขที่บัญชีและโอนเงินมาให้ 25,000 บาท ตนเองยังไม่ทันได้นำสลิปไปตรวจสอบ ผู้ชายปริศนาก็ได้โทรกลับมาโดยทันที ลักษณะปิดกั้นให้มีการตรวจสอบสลิปการโอน และภายหลังโอนเงินเสร็จ ใช้เวลา 20 นาที ตนเริ่มถอดเสื้อผ้าจนกระทั่งเปลือยกาย หลังสิ้นสุดจากคอล ก็ได้ตรวจสลิปการโอน พบว่าเป็นสลิปปลอม เนื่องจากเกิดการตัดต่อ ตนเองพยายามทวงถาม แต่ผู้ชายคนนั้นกล่าวอ้างว่าให้รอผลอัปเดต เนื่องจากการดำเนินการธุรกรรมทางการเงินมีการโอนมาจากประเทศสหรัฐฯ จึงต้องใช้เวลายืนยันประมาณ 2 ชั่วโมง
จนกระทั่ง วันที่ 25 ต.ค. ผู้ชายคนดังกล่าว ทักข้อความส่วนตัวมาอีกครั้ง พร้อมกับมีการข่มขู่ว่ามีการอัดคลิปเอาไว้แล้ว ถ้าหากต้องการให้ลบคลิป ให้โอนเงินมาให้จำนวนหลักหมื่น หรือยอมมีอะไรกับผู้ชายปริศนา ตอนนั้นตนเองเห็นว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจบล็อกการสื่อสาร ช่วงวันที่ 31 ต.ค. เพื่อนได้ส่งข้อความมาบอกว่ามีการนำคลิปไปเผยแพร่ในแอปฯโพสต์ภาพโป๊เปลือย และมีเพื่อนอีกหลายคนตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน รวมกว่า 8 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัด
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กล่าวว่า ตอนเเรกตนคิดว่ามีผู้เสียหายแค่ 1 คน แต่พบว่ามีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นประมาณ 8 คน ซึ่งเป็นผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชน คนร้ายมีลักษณะทำเป็นขบวนการเเละหลอกผู้หญิงที่หน้าตาดีให้บันทึกคลิป เสนอเงินให้ และจะมีคนรอซื้อ ซึ่งแอปพลิเคชันนี้เป็นของต่างประเทศ อาจจะตามตัวยาก และจะให้น้อง ๆ รวมตัวและไปร้องเรียนที่กองปราบหรือ ปคม. ให้ช่วยดำเนินคดีนี้ให้ เพราะเข้าข่ายค้ามนุษย์ แต่ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะมีการไปหลอกลวงเด็กเเละเยาวชน คดีนี้จะมีหลายข้อหา เช่น การแบล็กเมล และการข่มขู่ เรื่องของการนำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร หมิ่นประมาท และข้อหาที่หนักที่สุดคือการเเสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากสื่อลามกอานาจารที่หลอกเอาคลิปไปขายต่อนั้น