การประชุมรัฐสภาพิจารณาเเก้ไขรัฐธรรมนูญวันเเรก ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งต้องจับตาไปส่วนของฝ่ายค้าน ซึ่งพรรคก้าวไกลยังคงจุดยืนจะรับร่างของไอลอว์ (iLaw) เเต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ขอไม่ยืนตามมติพรรคร่วม เเต่ขอฟังการอภิปรายก่อน หวั่นซ้ำรอยปี 56
บรรยากาศการประชุมพิจารณาร่างเเก้ไขรัฐธรรมนูญ 7 ฉบับ ที่รัฐสภา ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยก่อนการประชุม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงการลงมติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยภาคประชาชนในนามไอลอว์ ว่ายังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะลงมติอย่างไร เพราะต้องฟังเหตุผลของผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน โดยส่วนตัวมีประเด็นที่ต้องชี้แจงต่อรัฐสภาหลายประเด็น โดยเฉพาะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ไม่ได้มีข้อห้ามเรื่องการแก้ไขในหมวดสถาบัน ทำให้เกิดประเด็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเดินทางมาสภาในวันนี้ เห็นถึงความยากลำบากในการเดินทางของประชาชน ส่วน ส.ส.ที่เดินทางมาประชุมก็ต้องอ้อมเเนวเเบริเออร์ที่ตำรวจตั้งเเนวป้องกันผู้ชุมนุม ซึ่งมาตรการต่างๆ ส่วนตัวไม่ได้กดดัน มองว่าเป็นเรื่องปกติของการเมือง เเต่ขอวิงวอนผู้เกี่ยวข้องในการดูเเลความเรียบร้อยพื้นที่รอบรัฐสภา เปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มาเเสดงความคิดเห็น เพราะวันพรุ่งนี้ร่างเเก้ไขของไอลอว์จะเข้าสู่วาระการพิจารณา เเละเชื่อว่าผู้ที่ลงชื่อรอรับร่างจะมาร่วมชุมนุมอย่างเเน่นอน ส่วนพรรคก้าวไกลก็เตรียมความพร้อมจะอภิปรายให้เต็มที่เพื่อให้ร่างของไอลอว์ผ่าน พร้อมยืนยันจุดยืนที่ต้องรับร่างของไอลอว์ เพราะเป็นร่างที่ครอบคลุม เปิดให้เเก้ไขทุกเรื่อง เเละเชื่อว่าจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ ปรองดอง
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงมติพรรคเพื่อไทย ไม่ยืนตามมติพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะรับร่างแก้ไข รธน. 7 ฉบับ เนื่องจากมี ส.ส.เพื่อไทยบางส่วน มีความกังวลเกรงว่าประวัติศาสตร์ปี 56 จะซ้ำรอย กรณีที่พรรคเคยถูกยื่นศาล รธน. กรณีการแก้ไขร่าง รธน. เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง จึงกังวลว่าจะถูกเล่นงานเพราะเคยถูกยื่นถอดถอนเอาผิดจากกรณีดังกล่าวมาแล้ว จนถึงขณะนี้คดีก็ยังไม่สิ้นสุด พร้อมย้ำว่าไม่ได้ปฏิเสธร่างไอลอว์ แต่ขอดูทางเทคนิคก่อน ซึ่งหลักการทั้ง 11 ข้อ ก็ตีความกันคนละอย่าง จึงต้องไปดูว่าในวาระ 2-3 ปรับได้หรือแก้หลักการได้หรือไม่
จากนั้นเวลา 10.00 น. ก็เริ่มมีการประชุม โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้นับองค์ประชุมมีจำนวนผู้มาลงชื่อเข้าร่วมการประชุม ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุม โดยสมาชิกของ ส.ส.เเละ ส.ว.ทั้งหมด 732 คน เเบ่งเป็น ส.ว. 207 ส.ส.298 คน มีผู้มาลงชื่อเข้าร่วมการประชุมรวมทั้งสองสภา 505 คน
ก่อนเริ่มการประชุม นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ขอหารือนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาว่า เนื่องจากมีผู้ชุมนุมหลากหลายกลุ่มจะมารับฟังผลการประชุมนอกรัฐสภาด้วย จึงขอให้มีการกระจายเสียงให้ผู้ชุมนุมรับฟังด้วย นายชวน ตอบว่า การประชุมเป็นไปตามขอบเขตปกติ ทั้งนี้ไม่ได้กีดกันผู้ร่วมชุมนุมในการรับฟังซึ่งเขามีเครื่องมือในการรับฟังได้อยู่แล้ว