กรณีตำรวจ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา รับแจ้ง พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายอนุวัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับภายในรถเก๋งยี่ห้อ honda civic สีขาว ทะเบียน ฆฆ 1774 กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณใต้ต้นก้ามปู หลังศาลากลางเก่า เขตพื้นที่อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ล่าสุดวันที่ 18 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ วัดโคกมะยม ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายอนุวัตร โดยทางญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิดได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถาม นางสำราญ หิรัญรุ่ง อายุ 67 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ช่วงเช้า ตนกับผู้ตายช่วยกันทำทอดมัน เพราะผู้ตายตั้งใจจะนำไปกินเลี้ยงที่งานประชุมของชมรมผู้สูงอายุ ที่รพ.อุทัย จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น. ผู้ตายก็ขับรถของลูกสาวออกจากบ้านไปคนเดียว
กระทั่งเวลาประมาณ 17.00-18.00 น. ตนได้โทรสอบถามผู้ตายว่า จะกลับบ้านหรือยัง ซึ่งผู้ตายได้ตอบกลับมาว่า "กำลังจะกลับ แต่ปวดฉี่จัง ขอแวะฉี่ก่อน" จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ และมาทราบจากในไลฟ์สดของกู้ภัยว่า สามีเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ ส่วนผู้หญิงที่บอกว่ามาด้วยกัน ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร ทั้งนี้ผู้ตายเป็นสมาชิกของชมรมผู้สูงอายุ และทุกเดือนจะมีการนัดประชุม เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ร้องเพลงคาราโอเกะ ซึ่งส่วนตัวไม่เคยไปด้วย เพราะต้องอยู่เลี้ยงหลานที่บ้าน
ส่วนตัวไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจกำเริบ เนื่องจากผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว และนาน ๆ ครั้งถึงจะมีอาการแน่นหน้าอก พอเริ่มมีอาการ ก็จะช่วยนวดให้ผ่อนคลาย แล้วอาการก็จะหายดีเอง ด้วยเหตุนี้เวลาออกไปไหน ผู้ตายจะต้องมีคนไปด้วย เพื่อป้องกันอาการกำเริบ แต่ก่อนเกิดเรื่องผู้ตายมีอาการปกติดี และยังคุยเล่นร่าเริงดี ทั้งนี้ผู้ตายเป็นคนที่ชอบทำบุญทำทาน มีแต่คนรัก และทำแต่งานอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะในครอบครัวมีแต่ผู้หญิง หลังจากนี้รายได้ของครอบครัวคงจะหายไปส่วนหนึ่ง
ทีมข่าวได้สอบถาม ลูกสาวคนโต ให้ข้อมูลว่า ตนไม่ทราบว่า มีใครนั่งมาในรถกับพ่อบ้าง แต่ที่แน่ ๆ น่าจะมีผู้หญิงรุ่นเดียวกับพ่อนั่งมาด้วย แต่ตอนที่ตนเข้าไปในที่เกิดเหตุ ตนไม่เห็นบุคคลดังกล่าวแล้ว ตนจึงค้นโทรศัพท์พ่อดู และสังเกตเห็นว่า มีการไลน์คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ตนจึงโทรไปสอบถาม ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า อยู่กับพ่อก่อนตายจริง แต่ไปเข้าห้องน้ำ และอ้างว่าพอออกมาก็ไม่เห็นรถของผู้ตายแล้วจึงกลับก่อน
แต่โชคดีที่มีชาวบ้านมาเห็นว่าพ่อตาย ซึ่งตนยังรู้สึกเคลือบแคลงใจกับคำบอกเล่าของผู้หญิงรายนี้อยู่ ซึ่งทางครอบครัวไม่ได้รู้จัก แม้แต่ชื่อก็ไม่ทราบ จากนี้คงจะรอให้เสร็จสิ้นงานศพก่อน ถ้ายังคงรู้สึกติดใจอยู่ก็จะเข้าไปสอบถามอีกครั้ง
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายไพรัช เดชะ อายุ 56 ปี เพื่อนรุ่นน้องของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.คานหาม และบ้านติดกับผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีงานประชุมประจำเดือนของผู้สูงอายุที่ รพ.อุทัย โดยตนได้นำเครื่องเสียงคาราโอเกะไปติดตั้งไว้ ผู้ตายได้มาช่วยยกตู้คาราโอเกะกับลำโพงที่บ้านของตน และพอมาถึงที่โรงพยาบาลก็ช่วยยกขึ้นชั้น 3 พอเลิกงานก็ช่วยยกลงมาที่ชั้น 1 ซึ่งเมื่อวานนี้มีคนช่วยยกกันเพียง 4 คน เพราะในงานมีแต่ผู้สูงอายุ และผู้ตายแข็งแรงสุด
แต่ระหว่างที่ผู้ตายยกของ ผู้ตายจะยกทีละเยอะ ๆ ตนจึงเตือนว่า ค่อย ๆ ยกก็ได้ เพราะถ้ายกอย่างไม่ระวัง อาจจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาดได้ เพราะช่วงก่อนโควิด-19 เคยมี รปภ. อายุ 50 กว่าปี มาช่วยตนยกของและยกแบบกระชาก ๆ ไม่ค่อยระวัง พอกลับบ้านไปก็เสียชีวิต แต่ผู้ตายยืนยันว่ายังไหว อีกทั้งผู้ตายยังร้องเพลง และเต้นอย่างสนุกสนานดี ไม่ได้มีอาการให้เห็น
โดยระหว่างที่พูดคุยกับคนในชมรมยังกล่าวว่า “กินอย่างมีความสุข สนุกก่อนตาย” แต่ตนไม่ได้เอะใจ และไม่คิดว่าจะเป็นลาง เพราะผู้สูงอายุทุกคนมักจะพูดเกี่ยวกับเรื่องตายเป็นปกติอยู่แล้ว จากนั้นเวลาประมาณ 16.30 น. ตนกับผู้ตายก็กลับบ้านกัน โดยตอนแรกขับตามกันมาทั้งหมด 3 คัน ก่อนที่ผู้ตายจะแยกออกไปทำธุระก่อน แต่ตอนที่แยกกับตน ผู้ตายยังอยู่คนเดียว ตนจึงไม่ทราบว่า ผู้ตายแวะไปรับใครหรือเปล่า
ทั้งนี้ตนมาทราบเรื่องจากในไลฟ์สด และพบว่ารูปร่างของรถดูคุ้นตา ตนจึงไปสอบถามลูกชายของตัวเอง และทราบเรื่องผู้ตายเสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะผู้ตายเพิ่งจะร้องเพลงอย่างสนุกสนานอยู่ในงาน และยังเป็นคนที่จับไมโครโฟนคนสุดท้ายของงาน อย่างไรก็ดี สุดท้ายนี้ตนอยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์เวลายกของอยากให้ระมัดระวัง เพราะคนส่วนใหญ่จะคิดว่า ตัวเองแข็งแรง เลยประมาท