เมื่อวันที่ 20 พ.ย.63 พ.ต.ต.สยาม อินน้อย สว.(สอบสวน) สภ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ของนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด เสียหลักพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุบริเวณเส้นทางท่องเที่ยวบนยอดดอยอินทนนท์ ทางหลวงหมายเลข 1009 ตอนจอมทอง-ดอยอินทนนท์ ประมาณกม.32+800 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยศรัทธารวมใจเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชมรมกู้ภัยเทวฤทธิ์เมตตาธรรม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
เมื่อเดินทางมาถึงยังจุดเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสีดำ ทะเบียน ฆฐ 3307 กรุงเทพฯ สภาพพลิกคว่ำพังยับอยู่กลางถนน นอกจากนี้พบร่างของผู้โดยสารบางรายกระเด็นออกมาจากนอกตัวรถ และบางรายติดอยู่ภายใน ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานขอสนับสนุนอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนและผู้เดินทางให้ทราบ เนื่องจากในเส้นทางขณะนี้มีการสัญจรของรถจำนวนมากที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 5 ราย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันจากการสอบถามพยานที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ขับขึ้นไปท่องเที่ยวในพื้นที่ดอยอินทนนท์ โดยมีผู้โดยสารรวมคนขับมาด้วยกันทั้งหมด 5 คน และกำลังขับกลับลงมา แต่บริเวณจุดเกิดเหตุนั้นเป็นทางโค้งก่อนถึงตลาดม้งหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "โค้งฝรั่ง" เพราะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาแล้วที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งคาดว่าขณะกำลังขับลงมานั้น น่าจะขับมาด้วยความเร็วจนเบรกไหม้ ทำให้รถเสียหลักขาดการควบคุมและเกิดพลิกคว่ำอย่างรุนแรง กระทั่งผู้โดยสารและคนขับเสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย โดย 2 รายกระเด็นออกจากตัวรถ และอีก 3 รายติดอยู่ภายใน
หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบผู้ที่รอดชีวิต แต่ไม่พบผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียว เสียชีวิตคาที่ทั้งหมด จึงดำเนินการเคลียร์เส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการจราจรหนาแน่น และมีรถสัญจรไปมาอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบหนึ่งในผู้ที่เสียชีวิต คือ นายสมพงษ์ ศรีอนันต์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย ได้แก่ นางพเยาวน์ ศรีอนันท์ อายุ 59 ปี ภรรยา และนางกรรณิการ์ นางเปี๊ยก น.ส.กุ๊กดา
ในส่วนของจุดเกิดเหตุนั้น หากมองจากภาพโดรนในภาพมุมสูง จะเห็นได้ว่าเป็นทางโค้งตัวเอส และค่อนข้างที่จะลาดชัด โดยจุดบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
นายก้าน จันทร์ตรี พี่ชายของนายกเทศมนตรีฯ ซึ่งขับรถตามหลังลงมา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ถามน้องชายว่า ทำไมไม่ใส่เกียร์โฟร์ขับลงมา แต่น้องชายบอกว่า ขับลงมาเรื่อย ๆ กระทั่งรถวิ่งมาถึงด่านที่ 2 มีพยานเห็นควันขึ้นที่เบรกทั้ง 4 ล้อ ช่วงนั้นตนขับรถทิ้งห่างประมาณ 10 กว่าคัน เนื่องจากรถลงดอยติดกันมาก จากนั้นมีรถคันอื่นขับแซงรถของน้องชายไป เมื่อตนขับมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่ารถน้องชายประสบอุบัติเหตุแล้ว ไม่ทราบว่าขับพุ่งชนต้นไม้กหรือไม่
นายสุรัตน์ อดิศักดิ์สกุลชัย อายุ 47 ปี คนรู้จักกับนายกเทศมนตรีฯ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ขับรถตามหลังรถนายสมพงษ์มา ซึ่งก่อนหน้านายสงพงษ์บ่นว่า รถของเขาไม่ค่อยดี ตอนขาขึ้นดอยอินทนนท์ก็ขึ้นไม่ไหว ตอนนั้นก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไร ตนก็ขับรถตามหลังคณะของนายสมพงษ์เรื่อย ๆ เนื่องจากรถติดยาวเหยียด จนมาพบอีกทีรถของนายสมพงษ์ประสบอุบัติเหตุแล้ว ขณะที่ญาติของผู้ตาย ซึ่งก็ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นสภาพศพก็ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงไป
นายวิศาล รินทร์จ้อย หัวหน้าหน่วยกู้ภัยศรัทธารวมใจเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในทีมกู้ภัยที่นำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าไปให้การช่วยเหลือนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถได้ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งได้นำอุปกรณ์ตัดถ่างขึ้นมายังจุดเกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงพบว่ารถยนต์ได้ทับร่างของผู้เสียชีวิตอยู่ จากนั้นจึงได้เข้าเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยพบว่าส่วนมากมีแผลฉกรรจ์ที่บริเวณศีรษะ คาดว่าน่าจะเกิดจากการครูดไปกับถนน เนื่องจากขณะเกิดเหตุรถได้พลิกคว่ำ แล้วหลังคารถครูดไปกับท้องถนน