ตั้งแต่ที่นักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดังเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจอดราม่ามากมายถาโถมเข้ามาในชีวิต จนทำให้ไร้คนจ้างงาน ก็ยังไม่ได้ออกมาเจอสื่อมวลชนเลยสักครั้ง
ล่าสุด (20 พฤศจิกายน 2563) สาวเจนนี่ ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดใจในทุกๆประเด็นที่เกิดขึ้น เริ่มจากเรื่องแรกที่ทำให้ทุกอย่างบานปลายตามมาก็คือ การที่เธอ ไม่ได้ให้ส่วนแบ่งที่เหมาะสมกับนักร้องลูกทุ่งหนุ่มเก้า เกริกพล ในเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ที่หนุ่มเก้ามาร่วมฟีเจอร์ริ่งให้ จนในที่สุดทางหนุ่มเก้า ก็ได้ยื่นฟ้องสาวเจนนี่ โดยขอให้ลบคลิปเพลงดังกล่าว
สาวเจนนี่ ก็เผยว่า ก่อนจะเป็นคดีความฟ้องร้องกัน ตนได้คุยหลังบ้านกับหนุ่มเก้า โดยผ่านคนกลาง ถึงเรื่องการให้เงินเพื่อไม่ต้องเป็นเรื่องเป็นราว แต่ว่าไม่ลงตัว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใด แต่ตนยืนยันว่ามีคุยแน่นอน ส่วนที่อีกฝ่ายอยากให้ลบคลิป ตนบอกตรงนี้เลยว่า ไม่อยากลบ เพราะถามว่าเยอะไหม มันก็เยอะ แต่จริงๆแล้ว ต่อให้ต้องลบเพลงที่มีแค่ 10 ล้านวิว มันก็เสียใจ เพราะผลงานทุกชิ้นภูมิใจมาก แล้วเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอตนตั้งใจแต่งมากๆ แล้วมันเกินความคาดหวัง 350 ล้านวิว มันไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะทำได้อีกไหม สำหรับยอดวิว 350 ล้านวิว ตนได้รายได้มาประมาณ 4 ล้านกว่าบาท สาวเจนนี่ บอกอีกว่า หากหลังจากนี้อีกฝ่ายติดต่อมาไกล่เกลี่ยก็พร้อมคุย
ส่วนอีกเรื่องกับหนี้สินของคุณแม่ ที่มีเจ้าหนี้ออกมาทวงกันแบบรัวๆ สาวเจนนี่ ก็บอกว่า เคลียร์หมดเรียบร้อยแล้ว บอกได้เลยว่าหลายล้านบาท ซึ่งหากใครเป็นเจ้าหนี้แล้วยังตกหล่น ก็สามารถติดต่อตนมาได้ตลอด สำหรับช่วงที่ดราม่าหนักๆ ก็ยอมรับว่าคิดว่าทุกอย่างที่สร้างมาคงจะพังหมดแล้ว เพราะงานก็แคนเซิลแบบไม่เหลือเลย รายได้หายไปหลักล้าน คิดถึงขนาดว่าค่ายเพลงก็คงไม่มีแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาวะปกติ ตอนนี้งานเยอะกว่าเดิมด้วย
สุดท้ายได้อัปเดตเรื่องหัวใจกับแฟนหนุ่มอย่างเนเงิน เจตริน ได้ยินข่าวแว่วๆว่าจะลั่นระฆังวิวาห์แล้ว เจ้าตัวก็ยอมรับว่า อยากมีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น อยากมีลูกให้แม่ และอยากมาอยู่เบื้องหลังเต็มตัวแล้วด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทิ้งงานนี้ไปเลย ถามว่าเมื่อไหร่ก็คงแล้วแต่ฝ่ายชาย แต่เขาก็บอกว่าปีหน้าหรืออีก 2 ปี แต่หากเขามาขอตอนนี้เลยตนก็พร้อมเซย์เยส
สภาพจิตใจโดยรวมวันนี้เป็นยังไงบ้าง หลังเจอมรสุมดราม่ากระหน่ำเลย?
“สภาพจิตใจดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แล้วก็ทำงานหนักมาสักพักแล้ว เลยไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องดราม่าแล้วค่ะ”
ณ ช่วงเวลานั้นหนักสำหรับตัวเองขนาดไหน?
“น่าจะเป็นหนักสุดในชีวิตแล้วค่ะ ร้องไห้ทุกวัน แล้วก็ไม่กินข้าว น้ำหนักลด”
รวบรวมสติยังไงให้ตัวเองลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งได้?
“อืม...ดาวน์ไปประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วเหมือนน้องในค่าย รวมถึงลิลลี่เขาก็บอกว่ายังอยู่ข้างๆ นะ เมื่อไหร่จะทำเพลงให้คะ รออยู่ เราก็เลยคิดว่าถ้าเราลุกขึ้นช้าน้องๆ ก็จะเดินไปข้างหน้าได้ช้าลง เราก็เลยต้องรีบฮึบตัวเองขึ้นมาทำงานต่อ แล้วก็สร้างค่ายต่อค่ะ”
ตอนนั้นเคยท้อจนรู้สึกว่าอยากออกจากวงการเลยไหม?
“ไม่ได้ออกจากวงการ แต่ต้องแจ้งตรงๆ ว่าตอนนั้นไม่อยากเจอสื่อเพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะมีทัวร์ลงอีก โดนด่าอีก ทุกครั้งที่มีข่าวก็จะมีคนด่าตลอดก็เลยไม่อยากเป็นข่าวตอนนั้น แต่ลืมไปว่าด้วยหน้าที่การงานแล้วการทำเพลงของเรามันก็ต้องใช้สื่อในการโปรโมตต่างๆ เราก็เลยคิดว่าเราต้องแก้ไขและรีบเดินหน้า”
กลัวไหมว่าในตอนนั้นด้วยกระแสต่างๆ จะทำให้ค่ายเพลงของเราไปไม่รอด เพราะคนอาจจะไม่สนับสนุน?
“ใช่ค่ะ หนูคิดว่าตอนนั้นค่ายคงจะไม่มีแล้วต่อไป แต่ว่าคิดไปคิดมาสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องดูกันที่ผลงาน ในเมื่อถ้าเราตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด แล้วหนูก็เชื่อว่ายังไงคนไทยก็ต้องให้โอกาส และต้องกลับมาเสพผลงานเราแน่นอน”
จริงๆ ดราม่าตอนนั้นมันกระทบกับงานขนาดไหน?
“เยอะมากค่ะ แทบจะไม่เหลืองานสักชิ้นเดียวเลยค่ะ ทุกงานแคนเซิลหมด แต่หนูก็เข้าใจเพราะว่าการที่เป็นข่าวเสียๆ งานและสินค้าต่างๆ ก็จะโดนไปด้วย เราก็เลยโดนแคนเซิลรีวิว แคนเซิลคอนเสิร์ตบ้าง แล้วก็รวมถึงภาพยนตร์อะไรต่างๆ”
เวลาเจอคนโทรมาแคนเซิลงานแต่ละครั้ง รู้สึกทรุดเลยไหม?
“เตรียมใจไว้แล้วค่ะ เพราะว่างานที่ดีลไว้ก็จะเมมเบอร์ไว้อยู่แล้ว พอโทรมาปุ๊บอืม...(ยิ้ม) แน่นอน เราก็โอเคค่ะ เหมือนบางคนเราก็เลือกที่จะทักไปถามด้วยซ้ำงานใหญ่ๆ ว่าพี่ยังโอเค ถ้าไม่โอเคตอนนี้พักหนูก่อนมั้ย หรือว่าแคนเซิลก็ได้ หนูก็ยินดีที่จะคืนเงิน ตอนนั้นรายได้ก็หายไปหลักล้านค่ะ”
ตอนนี้สถานการณ์กลับมาดีขึ้นหรือยัง?
“งานเยอะค่ะ เยอะกว่าเดิมด้วยตอนนี้ ขอบคุณพี่ๆ ที่ให้โอกาส ขอบคุณเจ้าของแบรนด์ทุกคนที่กลับมา แล้วก็คอนเสิร์ตก็เต็มเดือนค่ะ”
ในตอนนั้นเราเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับมายังไง?
“ตอนนั้นไม่มีอะไรเรียกความเชื่อมั่นได้เลยค่ะ เพราะว่าข่าวออกทุกวัน แต่ว่าในโซเชี่ยลของเราอ่ะค่ะ โซเชี่ยลสำคัญ เหมือนเรายังมีเอฟซีที่ให้กำลังใจ แล้วเราก็สร้างผลงานใหม่ขึ้นมาให้เอฟซีกลับมาเสพ กลับมาชื่นชม ยังไงงานเขาก็ต้องกลับมาจ้างเรา”
แต่ก็จะมีคนมองภาพลักษณ์ว่าเวลาทำอะไรเราอาจจะโดนดราม่าตลอด?
“ใช่ค่ะ เจอตลอด เดี๋ยวนี้ก็โดนด่าทุกวันค่ะ เอ็มวีออกมาใหม่ก็โดนว่า ต่อให้ทำดีที่สุดสำหรับเราแล้วมันก็ไม่ได้ดีที่สุดสำหรับคนอื่นอยู่ดี เพราะฉะนั้นแล้วยอมรับแล้วค่ะเดี๋ยวนี้ เมื่อก่อนโอเคโดนด่าแล้วร้องไห้ แต่เดี๋ยวนี้โดนด่าก็ทำให้เรารู้สึกสตรองขึ้น ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
อย่างเรื่องปัญหาหนี้สินของคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว?
“ถ้าที่หนูรู้จักคือเคลียร์หมดแล้วค่ะ แต่หนูก็ไม่รู้ว่ายังมีอีกมั้ย อาจจะร้อยสองร้อยพันสองพัน อาจจะตกหล่นอยู่บ้างก็มาได้ตลอดค่ะ”
ตอนนี้ไม่ได้มีเจ้าหนี้คนไหนมาแสดงตัวอีกแล้วใช่ไหม?
“ไม่มีค่ะ”
เคลียร์หนี้ไปทั้งหมดเท่าไหร่?
“หลักล้านค่ะ หลายล้านอยู่ เยอะอยู่ค่ะ”
เคลียร์หมดตั้งแต่ตอนที่เป็นข่าวตอนนั้นเลยไหม?
“หลังๆ ก็มีมาอีกค่ะ แต่เหมือนเจ้าหนี้บางท่านไม่ได้มาออกสื่อ ทักไปเป็นการส่วนตัวเลยก็เคลียร์เลย แม่จำได้บางทีไม่ต้องมีหลักฐาน ถ้าจำได้ก็จ่ายเลยค่ะ”
แสดงว่าตอนนี้เรื่องของคุณแม่ก็ถือว่าเคลียร์และคลีนแล้ว?
“ใช่ค่ะ”
ทุกวันนี้ใช้อะไรเป็นแรงผลักดันตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานบ้าง?
“ใช้น้องๆ ในค่ายเป็นแรงผักดัน เหมือนอนาคตของเขาทั้ง 20 กว่าคนอยู่กับเรา เราก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เขาก่อน ถ้าเราสร้างความเชื่อมั่นให้เขาได้ เขาก็สบายใจที่จะอยู่กับเรา และมีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน”
อย่างน้องๆ ที่ออกไปก่อนหน้านี้มันส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของน้องๆ ในสังกัดคนอื่นด้วยไหม?
“ถ้าเด็กเดิมจะไม่ส่งผลค่ะ เพราะว่าทุกคนอยู่กับหนูตลอดเวลา เหมือนน้องบางคนที่ออกไปก็ไม่ได้อยู่กับหนูด้วยซ้ำ เขาก็ยังให้ความเชื่อมั่นหนู คือคนเรามันเจอไม่เหมือนกัน แล้วก็สนิทสนมไม่เหมือนกัน บางคนสนิทมากก็เชื่อมั่นเยอะหน่อย บางคนไม่ค่อยได้คุยเขาก็คิดไปต่างๆ นานา”
หลังจากเหตุการณ์นั้นเราต้องมีการเพิ่มสัญญาหรือมาตรการให้กับเด็กที่อยู่ในสังกัดไหม?
“ตั้งแต่เป็นข่าวตอนนั้น พอวันที่หนูลุกขึ้นสู้หนูก็บอกทุกคนว่าใครจะอยู่ก็เซ็นสัญญาอีก 2 วัน ถ้าใครจะออกก็ออกได้เลยค่ะ”
ข้อตกลงในสัญญาชัดเจนขึ้นไหม ?
“ ชัดเจนค่ะ ใช้ทนาย มีฝ่ายกฏหมาย ตอนนี้ค่ายเพลงมันก็ดูเหมือนเยอะขึ้น เพราะมีฝ่ายกฏหมาย มีฝ่ายบัญชี มีทุกอย่าง “
ส่วนแบ่งเคลียร์กันชัดเจน ?
“ มีในสัญญาชัดเจนหมดเลย รอบคอบมากขึ้น “
ตอนนี้มีน้องอยู่กี่คน ?
“ 25 คนค่ะ “
ตอนนั้นออกไปเยอะไหม ?
“ ออกไป 5 คนค่ะ “
คดีกับน้องเก้า เกริกพล ไปถึงไหนแล้ว ?
“ ของน้องเก้า ศาลนัดไต่สวนวันที่ 9 ค่ะ แต่หนูไม่ได้ไป เพราะเล่นคอนเสิร์ตอยู่ที่อุบล แล้วก็อีกอย่างทนายบอกยังไม่ต้องไปก็ได้ เป็นคดีอาญา ก็เลยยังต้องไต่สวนกันก่อนถึงจะรับฟ้อง “
เรามีจุดยืนยังไงบ้างสำหรับคดีนี้ ?
“ ไม่ว่าศาลจะตัดสินยังไงก็ได้หมดเลยค่ะ “
ก่อนหน้ามีข่าวว่าเราจะให้เงินเขา 1 ล้านจริงไหม ?
“ ก็มีคุยหลังบ้านค่ะ เรื่องตัวเลข แต่ว่าไม่ลงตัวกัน “
แต่ทางโน้นบอกไม่ได้รับการติดต่อ ?
“ ไม่ได้คุยตรงกันค่ะ มีคนกลางคุยให้ เราก็ไม่รู้ว่าคนกลางถึงขนาดไหน แต่ว่ามีการคุยแน่นอนค่ะ “
เห็นเขาบอกอยากให้ลบคลิป ?
“ ไม่อยากลบค่ะ เพราะเพลงนี้ 350 ล้านวิว ถามว่าเยอะไหม มันก็เยอะ แต่จริงๆแล้ว ต่อให้ต้องลบเพลงที่มีแค่ 10 ล้านวิว มันก็เสียใจ เพราะผลงานทุกชิ้นภูมิใจมาก แล้วเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอหนูตั้งใจแต่งมากๆ แล้วมันเกินความคาดหวัง 350 ล้านวิว มันไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะทำได้อีกไหม ก็ไม่รู้อนาคต “
350 ล้านวิวได้รายได้เท่าไหร่จากยูทูป ?
“ ประมาณ 4 ล้านกว่าๆ “
แบบนี้ก็ตกลงกันไม่ได้เพราะฝ่ายโน้นอยากให้ลบ ?
“ หนูไม่ขอสร้างประเด็นต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่ว่าศาลจะบอกยังไง จะแพ้หรือจะชนะก็ยอมรับได้หมดเลยค่ะ ถ้าศาลบอกว่าต้องลบ ก็ต้องลบค่ะ “
ทางทนายความว่ายังไงบ้าง ?
“ เขาบอกสบายใจได้เลย ทำงานดีกว่า เขาบอกว่าจะทำงานเต็มที่ ต่อให้ทนายมายืนยันว่าเราชนะ หนูก็ไม่สบายใจหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเต็มที่ดีกว่า ไม่ว่าจะลบหรือบวกได้หมดเลยค่ะ “
โอกาสไกล่เกลี่ยมีไหม ?
“ ไกล่เกลี่ยได้ (แบบไม่มีคนกลาง) ได้ค่ะ พร้อมรับโทรศัพท์ตลอด “
มีโอกาสได้เจอกันไหม ?
“ ยังไม่เคยเจอค่ะ แต่ก็อยากไกล่เกลี่ย เผื่ออนาคตได้ร่วมงานกัน “
เคยคิดอยากติดต่อไปเองไม่รอเขาติดต่อมาไหม ?
“ เมื่อก่อนติดต่อตลอดแล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าถ้าติดต่อไปแล้วมันจะเป็นยังไง ก็เลยไม่ได้ติดต่อเลย แล้วพอถึงกระบวนการของกฏหมายแล้วเราก็เลยคิดว่าให้สิทธิ์ตรงนี้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน (ถ้าเขาโทรมา) ก็รับค่ะ แต่ขอเป็นฝ่ายรอดีกว่า เพราะเราเคยทักไปแล้ว แต่ในเมื่อมันถึงกฏหมายแล้ว ก็ให้กฏหมายจัดการไปเลย “
มีคิดไปทำบุญไหมปีนี้เราโดนหนักมาก ?
“ มีค่ะ เชื่อเรื่องเบญจเพสด้วยค่ะ พอ 25 ปี ไป 2 อาทิตย์ก็เจอข่าวเลย ก็ทำบุญหนักมากค่ะ ทำทั้งในวัดและในครอบครัว รวมถึงผู้คนที่เจอรอบข้าง “
เช็คดวงไหม ?
“ เช็คค่ะ เขาบอกเบญจเพสร้ายต้นปี ปลายปีจะดีค่ะ เหลืออีกเดือนเดียวค่ะ สู้ๆ “
เห็นว่าอีก 2 ปีจะมีข่าวดี ?
“ ก็อยากมีครอบครัวค่ะ อยากอยู่เบื้องหลังเต็มตัวแล้วด้วย แต่ไม่ใช่ว่าจะทิ้งงานนี้ไปเลย แต่อยากมีลูกให้แม่ อยากมีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น เพราะครอบครัวเล็กๆแล้วมันเหงาๆ “
แพลนไว้เมื่อไหร่ ?
“ อันนี้แล้วแต่เขาค่ะ เขาพูดว่าปีหน้าหรืออีก 2 ปี “
เรามั่นใจว่าคนนี้จะฝากชีวิตไว้ได้ ?
“ ก็ใช่ค่ะ เพราะอยู่กันมานานแล้ว ไม่รู้อนาคต ไม่การันตีค่ะ แต่ว่าสบายใจ จะแต่งก็แต่งค่ะ โอเค “
จับมือฝ่าดราม่ามาด้วยกันมันพิสูจน์อะไรไหม ?
“ พิสูจน์ได้เยอะมาก เขาไม่เคยไปไหนเลย ตกใจเหมือนกัน ที่ไม่มีสักวันที่หายไป ปกติก็กลับบ้านบ้าง เดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ว่าตั้งแต่เจอดราม่า ไม่เคยกลับเลย เพราะเขาบอกว่า ไม่รู้ว่าเราจะร้องไห้เมื่อไหร่อีก ก็อยู่ข้างๆตลอด “
แสดงว่าถ้าเขามาขอแต่งงานก็เซย์เยสได้เลย ?
“ ได้ค่ะ เราก็มีการคุยกัน แต่อย่าเพิ่งพาดหัวข่าวว่าจะแต่งงาน ขอเวลาทำงานอีกแป๊ปนึง “
อยากขอบคุณอะไรเขาไหมที่อยู่เคียงข้างตลอด ?
“ ขอบคุณค่ะ การกระทำบอกทุกวันอยู่แล้ว “
ผ่านเรื่องร้ายๆมาก็ต้องมีเรื่องดีบ้าง ?
“ ใช่ค่ะ หนูว่าคนเรามีขึ้นก็ต้องมีลง ดังได้กับดับได้ ดับได้ก็สร้างใหม่ได้ค่ะ “
ค่ายเพลงกลับมาปกติแล้ว ?
“ ใช่ค่ะ ตอนนี้กำลังสร้างค่ายใหม่เพื่อสร้างฐานความมั่นคงให้กับน้องๆที่ยังอยู่ “
ค่ายใหม่ ?
“ ค่ายเดิม แต่สร้างตึกเพิ่ม ขยายใหญ่ขึ้น ให้เป็นเรื่องราวมากขึ้น “