วันที่ 18 พ.ย. 63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางพวงมาลาราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์ สวนลุมพินี เวลาตามกำหนดการ 18.00 น.
"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" นักแสดงชื่อดัง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวเชิญชวนประชาชนมาร่วมรับเสด็จฯ ที่สวนลุมพินี และเดินทางในเวลา 15.00 น. พร้อมด้วยทีมงาน ร่วมกันใส่เสื้อสีชมพู เพื่อแสดงพลังความจงรักภักดีรอรับเสด็จฯ
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเดินทางมาเป็นครั้งที่ 4 ในการรอรับเสด็จฯ ความรู้สึกก็เป็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา หากใครไม่เคยมาสัมผัสก็คงจะไม่ทราบ ยืนยันคำเดิมว่าส่วนตัวหากมีโอกาสก็พร้อมจะตามไปรอรับเสด็จฯทุกที่ พร้อมเชิญชวนประชาชนทุกคนให้ออกมาร่วมรับเสด็จพระองค์ท่านกันเยอะ ๆ ส่วนตัวรู้สึกดีใจ หลังจากที่ตนได้เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลัง
ทั้งนี้ ตนได้เตรียมธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ ตลอดจนเสื่อจำนวน 2 ผืนมา เพราะเกรงว่าหากมาถึงแล้วทางเจ้าหน้าที่จะวุ่นวายกับการจัดหาเสือที่นั่งให้
ส่วนความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคณะราษฎรที่ออกมา หวั่นจะกระทบเกิดความรุนแรงหรือมีการปะทะของกลุ่มคนเสื้อเหลืองหรือไม่นั้น ตนมองว่าหลายคนที่ออกมาอาจจะต้องการออกมาต่อสู้กัน "ถามหน่อยว่าไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีอะไร ทุกคนล้วนคือคนไทยทั้งสิ้น แล้วหากมีเหตุการณ์ปะทะกันถามว่าใครเจ็บ ใครเสียเลือดเลือดเสียเนื้อ ก็คนไทยนั่นแหละ ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนมองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น ขอเตือนอีกฝ่ายว่า ตอนนี้วันนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนความคิด กลับเนื้อกลับตัวกลับใจ แล้วกลับมาทำให้ประเทศไทยมีความสุข กลับมาสามัคคีกัน กลับมาใช้ถนนเส้นเดียวกัน ใส่เสื้อสีอะไรก็ได้ เพราะทุกคนคือคนไทย"
นายเอกกำกร โพธิ์แดง อายุ 27 ปี ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว พี่สาว และหลาน ๆ เนื่องจากเมื่อไปรับเสด็จที่ไหน ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ก็จะเดินทางไปทั้งครอบครัว เพื่อเป็นกำลังใจให้ในหลวง และขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
โดยในวันนี้ ตนตั้งใจนำกรอบรูปภาพที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 63 ตอนที่ตนถวายพวงมาลัยแด่ในหลวงและพระราชินี เมื่อครั้นเสด็จเปิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสนามไชย ซึ่งเป็นการรับเสด็จที่ใกล้ชิดที่สุดในชีวิต จึงนำรูปภาพมาเพื่อให้ในหลวงและพระราชนีเซ็นลงบนกรอบรูปให้ ตนรู้สึกตื้นตันใจมากที่ได้มาแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน เช่นเดียวกับหลานชายที่เดินทางมาด้วย อยากให้กำลังใจในหลวงและบอกอีกว่า "ในหลวงสู้ ๆ"
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี กล่าวว่า เป้าหมายของการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาร่วมกิจกรรมสนับสนุนสถาบันและเฝ้ารับเสด็จฯ เพื่อให้กำลังใจสถาบัน พร้อมเปิดเผยว่า ตนไม่มีแนวคิดเรื่องการใช้ความรุนแรง หรือต้องเกิดการปะทะกับฝ่ายตรงข้าม จึงพยายามหลีกเลี่ยง ในทางตรงกันข้ามกลุ่มไทยภักดีจะเป็นส่วนที่ให้ความรู้ ความเข้าใจ และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างไม่บิดเบือนความเป็นจริงต่อประชาชน
สำหรับการนัดหมายชุมนุมของมวลชนราษฎรวันนี้ และอาจจะมีการชุมนุมต่อเนื่องยาวหลายวัน ตนจะไม่ยุ่ง แต่อยากบอกว่า หากชุมนุมแล้วและทำอะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องพร้อมรับความผิดตามกฎหมายที่จะตามมาด้วย ทุกวันนี้ประชาชนเริ่มเกิดความเบื่อหน่ายการเมืองมากขึ้น และยิ่งวันนี้ไปชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ไปรังควาญ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและพนักงาน จนกลายเป็นกระแสในแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #เบื่อม็อบ เกิดขึ้น
อีกทั้งการพยายามทำกิจกรรมต่าง ๆ จนกลายเป็นเหมือนอีเวนต์ม็อบ เช่น การนำเป็ดเหลืองมาใช้ในการชุมนุม ตีพิมพ์เป็นธนบัตร ซึ่งตนมองว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการพยายามลดพระเกียรติ จนกลายเป็นความเบื่อหน่ายของมวลชนที่เกิดความแผ่วเบาลง ทั้งนี้ ตนได้รับสัญญาณว่า "เกมใกล้จบ" เพราะยิ่งมีสถานการณ์ความรุนแรงมากขึ้น ยิ่งใกล้จบมากขึ้น มีแนวโน้มเป็นไปได้ที่จะมีมือที่ 3 มาทำความรุนแรง และใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาล และหลังจากสถานการณ์บ้านเมืองผ่านไป จะมีการรีเซตประเทศไทยชุดใหญ่อีกครั้ง