กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตนมอง สำหรับความสัมพันธ์ของ เขื่อน เคโอติก หรือ เขื่อน ภัทรดนัย กับสามีชาวต่างชาติ เดเมี่ยน เนื่องจากพักหลัง ๆ ไม่ค่อยได้เห็นภาพของทั้งคู่ด้วยกัน จนมีข่าวลือว่าเลิกกันแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สิบ สิบ สิบ "เขื่อน" ปั๊วะเวอร์ลุคแดร็กควีน แฮปปี้สุด ๆ ประกาศค้นพบตัวเองแล้ว
- 'เขื่อน เคโอติก' แมนๆ เอ่ยปากขอแฟนสายฝ. แต่งงาน-เผยแพลนเรียนต่อ ป. เอก
นิตยสารแพรว ได้เผยบทสัมภาษณ์ของ เขื่อน เคโอติก ตอบทุกประเด็น ตั้งแต่การเป็นบอยแบนด์ Come Out โดนบูลลี่ แต่งงาน และตัวตนของเขาในวันนี้ ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่เขื่อนพูดถึงเรื่องแต่งงาน และสถานะความสัมพันธ์กับสามีด้วย
เขื่อน เคโอติก เผยว่า เขื่อนรักคุณเดเมี่ยนมาก และทุกวันนี้ก็ยังรักอยู่ ในวันที่ตัดสินใจ คือเลือกแล้วว่าอยากใช้ชีวิตกับคนคนนี้ และได้เซ็น Civil Partnership กัน จะพูดว่าแต่งงานก็ไม่ใช่ จะพูดว่าไม่ก็ไม่ใช่ เป็นการเซ็นเหมือนคู่ชีวิต เราเลือกที่จะไม่แต่งงานแบบ Marriage ที่อังกฤษ เพราะว่าในเมืองไทยก็ยังไม่ถูกกฎหมาย ที่ไอร์แลนด์เหนือตอนนั้นก็ยังไม่ถูกกฎหมาย เลยจดที่มีตอนนั้นก่อน
เมื่อถูกถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคู่ เขื่อน เผยว่า เป็นคำถามที่ยากนะ ทุกวันนี้เขื่อนก็ถามตัวเองบ่อย พอได้มาอยู่ด้วยกัน หลาย ๆ อย่างที่เป็นดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ มันมีที่คิดไม่ตรงกันค่อนข้างมาก ทำให้เกิดปัญหาหลาย ๆ อย่างค่อนข้างเยอะ
เพื่อนเคยบอกว่า บางทีอะไรที่มันไม่ดีที่เรารู้สึก ปล่อยออกมาบ้างก็ได้นะ เราก็บอกว่าไม่ ไม่ทำ เพราะให้เกียรติเดเมี่ยนมาก วันที่เลือกที่จะอยู่ด้วยกัน เราตัดสินใจกันสองคน เพราะฉะนั้นวันที่เราแยกกัน ก็เป็นการตัดสินใจของคนสองคนเหมือนกัน
การแยกทาง มันเหมือนเอาความฝันของเรามาขยี้ ๆ โยนทิ้ง แล้วก็จุดไฟเผา เพราะเขื่อนเชื่อมากว่านี่คือทางชีวิตที่อยากไป อยากทำงานเรื่อง Mental Health อยากมีคู่ชีวิต อยากมีลูก ในวันที่เดินออกมา เชื่อว่าเราไม่ได้ใช้อารมณ์ แต่ใช้เหตุผล แล้วก็กลั่นกรองทุกอย่างออกมา ดีที่สุดเท่าที่คนหนึ่งจะทำได้
คุณแม่รับรู้ตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะท่านเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เรารู้สึกปลอดภัยที่จะคุยได้ จะแชร์ได้ วันที่ออกมาท่านน่ารักมาก โทร. บอกคุณแม่ บอกว่าไปต่อไม่ได้แล้ว เลือกที่จะเดินออกมา ไม่ได้เดินออกมาคนเดียว เราสองคนเลือกที่จะตัดสินใจร่วมกันในการแยกทาง คุณแม่ก็บอกว่ากลับไทยลูก กลับบ้าน ประทับใจมาก เพราะแม่ไม่ถามเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เงียบไปแป๊บหนึ่งแล้วบอกว่าไม่ได้แม่ เขื่อนไม่ได้มาอังกฤษเพื่อจะใช้ชีวิตคู่อย่างเดียว เขื่อนมาเพื่อเรียนปริญญาเอกด้วย เลยเลือกที่จะไปต่อ และอยากให้แม่ไว้ใจว่าเราทำได้
ตอนนั้นช็อกมาก ๆ เพราะเขื่อนมี VLOG มีออกโซเชียล เขื่อนโดนคนต่อว่าเยอะมาก ว่าทำอะไรผิด ทำไมไม่อยู่กับคู่ชีวิตแล้ว ซึ่งเราก็ยอมรับว่าตอนนั้นไม่กล้าออกมาพูดมาก เพราะว่ามันคือความรู้สึกของเราเอง ยังไม่พร้อมจะยอมรับด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น ยังงงอยู่เลย นี่เป็นที่แรกที่ได้มาพูดเรื่องนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และพร้อมที่จะยอมรับว่าชีวิตคู่ที่เราเลือกที่จะไป มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด และไม่ได้ไปต่อ.