ชื่นมื่นกันถ้วนหน้า คู่รักขวัญใจชาวไทย ตูน บอดี้สแลม และหวานใจ ก้อย รัชวิน ที่ได้ถือฤกษ์ดี 28 พฤศจิกายน 2563 เข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดได้เปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชนในฐานะสามีภรรยา ถึงบรรยากาศงานหมั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา และแพลนชีวิตคู่ต่อจากนี้ "จะเริ่มภารกิจปั๊มทายาททันที"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คาถาบูชาเมีย! "ตูน" ฝ่าแนวกั้นรับเจ้าสาว "ก้อย" เข้าประตูวิวาห์สุดชื่นมื่น
- “ตูน บอดี้สแลม” ยิ้มแก้มแตก “แฮร์รี่ เคน” นักฟุตบอลในดวงใจส่งคลิปอวยพรงานแต่ง!!
- กิ่งทองใบหยก! "ก้อย-ตูน" จูงมือเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช เสริมสิริมงคลก่อนใช้ชีวิตคู่
ก้อย - จะมีอะไรเปลี่ยนไปไหม ในความรู้สึกเหมือนเดิม แต่การปฏิบัติก็ต้องเปลี่ยนสถานะเป็นภรรยา ในอนาคตเป็นแม่ มีบทบาทที่เพิ่มเติม มีหน้าที่ที่มากขึ้น
ตูน - เหมือนเราได้เรียนต่อในขั้นต่อไปขอความเป็นคน เราคบกันมา 10 ปี เป็นแฟนกัน เป็นลูกของพ่อแม่ ยังไม่ได้แต่งงาน การแต่งงานคือการมีครอบครัวแล้ว ขยับความเป็นคนของเราให้สมบูรณ์มากขึ้น ตื่นเต้นที่จะได้เรียนต่อมหาลัยเหมือนกัน เราซ้ำชั้นมา 41 ปี เพิ่งได้เรียนมหาลัย เราคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ตื่นเต้นกับความรู้สึกใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ด้านดี แต่เราต้องเจอกับความทุกข์ด้วย
ตูน - ด้วยความสัจจริงผมคิดว่ามันจะหนักกว่านี้ บางทีใช้ซองก็แก้ปัญหาได้ (หัวเราะ) ส่วนคาถาบูชาเมียนั้น เขาให้เราร้องเป็นเมโลดี้ ก็ด้นสดๆ ไป ตอนนี้ลืมไปแล้วครับ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วอยากให้ใช้คำว่า "เคารพให้เกียรติ ถามว่ากลัวไหม ก็มีเกรงใจมากกว่า" ทุกอย่างมันก็ต้องเติมเต็มกันครับ พยายามประคับประคองมากกว่า
ก้อย - หนูว่าเพื่อนเกรงใจพี่ตูน ตอนนั้นก้อยก็ซ่อนตัวอยู่ ก็ไม่รู้ว่าพี่ตูนเจออะไรบ้าง
ก้อย - ไม่ได้เห็นเลย ใจจดจ่ออยู่ที่คุณพ่อคุณแม่มากกว่า เลยไม่ได้รู้ว่าพี่ตูนให้ไรมาบ้าง
ตูน - เราต่างก็เรียนรู้ซึ่งกันมาตลอด 10 ปี เติมเต็มให้กัน เป็นพื้นฐานที่ดี ทางก้อยเป็นคนเติมให้ผมมากกว่า ไม่ว่าจะคอนเสิร์ต หรือไปวิ่ง เขาก็เลือกที่จะมาวิ่งไปกับเรา ลำบากไปกับเรา ซึ่งมันไม่ง่ายเลยกับใครที่จะมาใช้ชีวิตกับเราที่สุดโต่ง
ก้อย - เป็นทุกอย่าง พี่ชาย เพื่อน คนรัก เขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ทุกอย่างที่ทำ ได้เปลี่ยนให้ก้อยเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน ทั้งหมดมาจากความรักและเราเคารพซึ่งกัน ไม่ว่าจะการปฏิบัติต่อครอบครัว แฟนเพลง ความอ่อนน้อม ทำให้เราโตขึ้นมากๆ เขาไม่ได้มาเปลี่ยนก้อยแต่มาทำให้ก้อยดีขึ้น มาเติมในสิ่งที่ก้อยขาด การกระทำของเขามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ก้อย - เราไม่เคยสัญญาอะไรกัน
ตูน - อนาคตคุยอะไรกัน คิดว่าอยากจะมีลูกเลย ผมก็ 40 ปี ก้อยเองก็ 37 ปี ถ้าอยากวิ่งตามลูกให้ทันก็ต้องด่วนๆ มันเป็นความฝันของผม คือการขยับขยายที่ทางของตัวเอง ผมอาจไม่ได้ใช้ชีวิตที่สุดโต่งอีกแล้ว อยากพาลูกไปวิ่งมาราธอนด้วย
ก้อย - อยากให้ปล่อยไปตามวิถีชีวิต ไม่กะเกณฑ์ว่าต้องเป็นแบบไหน อยากสนุกกันมัน บทบาทในวงการบันเทิงอาจจะลดลงถ้ามีน้องแล้ว ถ้าจะเป็นแม่ก็อยากเป็นแม่ให้ดีที่สุด อยากเลี้ยงเขาด้วยตัวเอง คงไม่หายไปแค่อาจลดลง ต้องคำนึงถึงครอบครัวมากขึ้น รวมถึงย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช้กรุงเทพฯ
ตูน - อีก 2-3 ปี ถึงจะย้ายถิ่นฐาน เมื่อถามว่า น้องจะมาเลยไหม "ผมมีความสามารถพอครับ" (หัวเราะ) ซึ่งเราไปตรวจแล้ว ก็ขอใช้วิธีธรรมชาติก่อน เพศไหนก็ได้ครับ อยากมีมากกว่า 1 คน เพราะอยากให้เขามีเพื่อน ก็ต้องดูก่อน ถามว่าลูกแฝดก็คิดว่าดีกับตัวก้อยมากๆ ด้วยอายุของเขา
ก้อย - งานฉลองคืนนี้ก็น่าจะเดือด
ตูน - ผมร้องเพลงมากว่า 18 ปี ก้อยก็ 10 กว่าปี ก็มีคนหลายๆ คน พี่ๆ ผู้ใหญ่สนับสนุนเยอะแยะ มันจึงเล็กไม่ได้ น่าจะเป็นวันที่เราได้ขอบคุณเขา จัดปาร์ตี้สักงานให้ได้กลับมาเจอกัน เป๊ก วงซีลมาไหมครับ? (หัวเราะ) ผมเชิญครับ
ก้อย - น้าเน็กจะทำลายสถิติเป๊ก วงซีล ค่ะ
ตูน - มันเกินจริงมาก ไม่เคยคิดว่าจะมีภาพแบบนี้ คือรู้ว่าอยากแต่งงาน แต่ไม่รู้ว่าภาพจะออกมาแบบนี้ ภาพวันนี้มันดีมากสำหรับผม มันทำให้ผมมีความสุขมาก ขอบคุณก้อย ที่ทำให้ภาพความสุขทั้งหมดมันเกิดขึ้น
ก้อย - คล้ายๆ กันค่ะ คือ ก่อนที่จะเริ่มต้นวันนี้เราก็ได้รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ให้นึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน วันที่เราตกหลุมรักกัน ตลอด 10 ปีที่ผ่านม เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมาก ไม่ว่าจะร้ายหรือดี หรือเจออะไรก็ตาม พี่ตูนไม่เคยไปไหน ความรักที่พี่ตูนให้ก้อยคือมันมากพอที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเดินต่อไปในทุกๆ วันได้
แล้วก็ผ่านเรื่องราวทุกๆ อยางด้วยกัน ชีวิตคู่ก็เหมือนการวิ่งมาราธอน เราต้องผ่านการฝึกซ้อน อดทน กว่าจะลงสนามก็ไม่รู้จะเจอกับอะไร ซึ่งทางจะยากลำบาก เราจะบาดเจ็บไหม แต่พอเราเดินถึงเส้นชัย ทุกอย่างมันสวยงามเสมอ.
Advertisement